E-DUANG : แนวรบด้าน”การข่าว” โลดโผน พิสดารยิ่ง

การปรากฏขึ้นของ พระธรรมศักดิ์ จารุวัณโณ มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดต่อกรณี”ธรรมกาย”

เหมือนกับการปรากฏขึ้นของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน

เหมือนกับการปรากฏขึ้นอย่างสอดประสานกับของ นพ.มโน เลาหวณิช

มีความหมาย มีความสำคัญ

กรณีของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน กรณีของ นพ.มโน เลาหวณิช อาจมองว่าเป็นการชี้ช่อง เป็นการเสนอแนะ

เป็นท่วงทำนองในแบบ “ทางขึ้น”

เพราะหากมิใช่ “ทางขึ้น” คงไม่ได้รับเชิญจาก”ดีเอสไอ”ให้เข้าไปร่วมในการวางแผน

ก่อนลงมือ “ปฏิบัติการ” อย่างเป็นจริง

และเมื่อมีคนช่วยในเรื่อง “ทางขึ้น” ก็มีความจำเป็นต้องมีคนมาเป็นตัวช่วยในเรื่อง “ทางลง”

จึงเหมาะสมที่ พระธรรมศักดิ์ จารุวัณโณ จะออกมา

 

หากมองจากพื้นฐานที่ พระธรรมศักดิ์ จารุวัณโณ อยู่กับวัดพระธรรมกายมาร่วม 30 ปี

ทำงานอยู่กับ “ศูนย์คอมพิวเตอร์”

ถือได้ว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็น “ฐาน”ทางด้านข้อมูลอันหนักแน่น

ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า นพ.มโน เลาหวณิช

จึงสามารถมีกระทั่ง “คลิปเสียง”จากที่ประชุมของระดับผู้บริหารในคืนวันที่ 18 กุมภาพันธ์

หลังปฏิบัติการ “บุก” เข้าสู่ “วันที่ 2”

ข้อมูลของ พระธรรมศักดิ์ จารุวัณโณ จึงเหมาะสมอย่างยิ่งกับ

หนทาง “ลง” ของสถานการณ์

เป็นคำตอบว่าเหตุใดไม่พบ พระเทพญาณมหามุนี ในวัด

ขณะเดียวกัน ก็เป็นคำตอบหากว่าจะมีการขยาย”พื้นที่”จากอำนาจของ”มาตรา 44″ ออกไปอีก

อาจครอบคลุมทั้ง อ.คลองหลวง แห่ง จ.ปทุมธานี

 

ปมเงื่อนอยู่ตรงที่ว่า “ข้อมูล” จาก พระธรรมศักดิ์ จารุวัณโณ ยังมีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด

เทียบได้กับ นายไพบูลย์ นิติตะวัน หรือไม่

เทียบได้กับบทบาทและความสำคัญของ นพ.มโน เลาหวณิช หรือไม่

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ “ผลงาน”

ที่ว่า พระเทพญาณมหามุนี หายไปอย่างไร้ร่องร่อยในวันที่ 17 กุมภาพันธ์  กับอุบาสกนามว่า “โค้ก” นั้นมีความหนักแน่น สมบูรณ์ มากน้อยเพียงใด

และที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ จะมีข่าวจากวัดพระธรรมกายออกมาอย่างไรเกี่ยวกับ พระธรรมศักดิ์ จารุวัณโณ

เพราะ “ช่องทาง”ของ”ธรรมกาย”ก็ใช่จะขัดสน

นับจากนี้เป็นต้นไปกระบวนการ”ปฏิบัติการด้านการข่าว”จะยิ่งเพิ่มความคึกคักไม่ว่าด้าน”ดีเอสไอ” ไม่ว่าด้าน”ธรรมกาย”