กมธ.ลับ-ลับมาก

มีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญชุดหนึ่ง ที่สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต้องตั้งขึ้น

นั่นคือ กมธ.วิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ข้อ 82

กำหนดให้มี กมธ.วิสามัญไม่เกิน 30 คน

เป็น “คนนอก” ไม่เกิน 1 ใน 3 ของจำนวน กมธ.ทั้งหมด

มีหน้าที่และอำนาจพิจารณา สอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใดๆ ที่เกี่ยวกับการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์

ส.ว.มีมติตั้ง กมธ.นี้ไปแล้วเมื่อ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา

และประชุมนัดแรกในวันเดียวกันทันที

โดยเลือกนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ เป็นประธาน

นายสุวพันธุ์ย้ำว่า

นอกจากกำหนดไว้ในข้อบังคับของวุฒิสภา ให้ตั้ง กมธ.แล้ว

กมธ.ยังไม่ได้ถูกตั้งขึ้นตามข้อเสนอหรือญัตติของสมาชิกคนใด เป็นฉันทามติร่วมกัน

กมธ.จะถูกเลือกมาจากทุกคณะ กมธ.สามัญ ทุกคณะ

รวมทั้งมีผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกเข้ามาร่วมด้วย

โดยต้องผ่านการหารือกลั่นกรองจากวุฒิสภาก่อน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มี กมธ.ทำนองนี้

ในสมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก็มีตั้งขึ้นมาชุดหนึ่ง

มี พล.อ.ชาลี จันทร์เรือง เป็นประธาน

กมธ.ก็ตัวกลั่นๆ ทั้งนั้น

เช่น พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ นายสมชาย แสวงการ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ เป็นอาทิ

และแน่นอนมีส่วนหนึ่งที่แปลงร่างมาเป็น กมธ.วิสามัญชุดปัจจุบัน

ความพิเศษอย่างหนึ่งของ กมธ.

คือวิธีการทำงาน

นั่นคือส่วนใหญ่จะเป็นการประชุมลับ หรือลับมาก

อย่างเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2560 พล.อ.ชาลี จันทร์เรือง เสนอประธานสภานิติบัญญัติ

ขออนุมัติให้การประชุมของ กมธ. 9 ครั้ง เป็นประชุมลับ 8 ครั้ง และลับมาก 1 ครั้ง

ไม่มีที่ให้เปิดเผยเลย

เหตุผลที่ต้องลับ-ลับมาก เพราะ

1) การประชุมจะพิจารณาและรับทราบความคืบหน้าการดำเนินการปิดกั้น “คลิป” ที่มีลักษณะอาจเป็นการหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามที่ปรากฏอยู่ในผู้ให้บริการยูทูบ

ซึ่งคณะ กมธ.ทำความตกลงกับผู้ให้บริการในทางลับ

หากมีการเปิดเผยออกไปอาจจะส่งผลกระทบต่อข้อตกลงได้

2) การประชุมแต่ละครั้ง จะติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวการกระทำที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

ซึ่งมีการกล่าวอ้างถึงชื่อบุคคลและเครือข่ายผู้กระทำผิด

หากมีการเปิดเผยออกไปอาจทำให้บุคคลที่ถูกกล่าวอ้าง ทราบความเคลื่อนไหว

อาจเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงานตามอำนาจหน้าที่ของคณะ กมธ.ได้

3) การเปิดเผยอาจส่งผลกระทบต่อหน่วยงานด้านความมั่นคง หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย

หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่ง กมธ.ได้เชิญมาให้ข้อมูล

4) จำเป็นต้องบันทึกเป็นการประชุมลับ และลับมาก เพื่อรักษาข้อมูลเชิงลึกไว้สำหรับการวิเคราะห์ และประมวลผลในการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

กมธ.ย้ำว่า จะไม่เปิดเผยข้อมูล

เป็นไปตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารราชการ พ.ศ.2540 มาตรา 14 ซึ่งบัญญัติว่า ข้อมูล ข่าวสารของราชการ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์จะเปิดเผยมิได้

แม้ กมธ.นี้จะเคลื่อนไหวในทาง “ลับ”

แต่ถูกคาดหมายว่าจะมีบทบาทสูงมาก

โดยเฉพาะในยามที่เรื่องสถาบัน “ร้อน”

ร้อนทั้งในและนอกสภา