ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 11 - 17 ตุลาคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | อะไร(แม่ง)ก็เป็นศิลปะ |
ผู้เขียน | ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์ |
เผยแพร่ |
เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมาเรามีโอกาสได้ไปดูงานศิลปะที่แปลกใหม่น่าสนใจมาอีกนิทรรศการ เลยถือโอกาสเอามาเล่าสู่กันอ่านตามเคย
นิทรรศการที่ว่านี้มีชื่อว่า
Objective
โดยสองศิลปินหนุ่ม พาสเทล-พรภพ สิทธิรักษ์ และดุ๊ก-ลัทธพล ก่อเกียรติตระกูล
แรกสุด เมื่อเราย่างเท้าเข้าไปในแกลเลอรี่ เราไม่เห็นอะไรมากไปกว่าก้อนหินขนาดย่อมหลายสิบก้อนวางเรียงรายอยู่บนแท่นวางสีขาวสะอาดตาห้าแท่นราวกับเป็นงานศิลปะก็ว่าได้
จริงๆ ในเมื่ออยู่ในหอศิลป์ มันก็น่าจะเป็นงานศิลปะนั่นแหละนะ!
เพราะถ้าใครเคยอ่านคอลัมน์นี้มาตั้งแต่ต้นก็คงไม่ประหลาดใจเท่าไหร่นัก ที่ก้อนหินหน้าตาธรรมดาๆ ถูกเอามาวางในหอศิลป์ให้กลายเป็นงานศิลปะแบบนี้
เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีคนเอาโถฉี่ เก้าอี้ หรืออุจจาระ มาทำให้กลายเป็นศิลปะมาแล้วทั้งนั้น
แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุปกันง่ายๆ ว่าพวกเขาแค่หยิบฉวยเอาก้อนหินจากข้างทางมาวางให้เป็นงานศิลปะกันง่ายๆ เสียอย่างงั้น
เพราะก้อนหินที่เราเห็นเหล่านี้เองก็ไม่ใช่ก้อนหินจริงๆ อย่างที่เรา (คิดว่า) มันเป็น
หากแต่เป็นผลงานศิลปะที่ศิลปินทั้งสองทำการจำลอง ตีความ และสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่นั่นเอง
ด้วยความที่ศิลปินทั้งคู่มักจะนำวัตถุในชีวิตประจำวันและวัสดุที่ใช้ทำงานศิลปะมาใช้เป็นสื่อหลักในการเล่าเรื่อง โดยการแปรสภาพและให้ความหมายของวัตถุและวัสดุเหล่านั้นใหม่ด้วยวิธีการต่างๆ
เหมือนกับเป็นการค้นคว้าทดลองและหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์
ลัทธพล หนึ่งในสองศิลปิน กล่าวถึงที่มาของผลงานในนิทรรศการนี้ว่า
“ผมเริ่มทำงานชุด “ก้อนหิน” ครั้งแรกตอนที่ไปเป็น Artist Residency (ศิลปินพำนัก) ที่เวียดนาม ผมได้ไปเดินรอบเมือง แล้วเห็นว่ามีตึกเก่าที่ถูกทุบทิ้งเพื่อที่จะสร้างเป็นโรงแรมหรือห้างสรรพสินค้าเยอะมาก”
“ผมก็เก็บเอาเศษหินจากซากอาคารเหล่านั้นกลับมาที่สตูดิโอ แล้วเอามาทำขึ้นใหม่ด้วยการใช้กระดาษทาบแล้วใช้แท่งถ่านแกรไฟต์ค่อยๆ ฝน จนพื้นผิวด้านนอกของกระดาษกลายเป็นพื้นผิวและรูปทรงของก้อนหินขึ้นมา”
“แล้วเราก็เอากระดาษที่ห่อก้อนหินที่ว่าออกมาสร้างรูปทรงใหม่เป็นก้อนหินอีกก้อนที่ด้านในกลวง”
“พอกลับมาจากเวียดนาม ผมได้เห็นงานชุดหนึ่งของพี่พาสเทลที่ทำเรื่องก้อนหินเหมือนกัน มีรูปลักษณ์คล้ายกัน แต่ถูกสร้างด้วยวิธีการต่างกัน ผมเลยสนใจว่า ถ้าเราเอางานที่มีวัตถุต้นทางแบบเดียวกัน (ก้อนหิน) แต่มีบุคลิกหรือวิธีการสร้างงานแตกต่างกันมาแสดงด้วยกัน มาทำให้เป็นงานชุดเดียวกัน มันจะสามารถสร้างบทสนทนาแบบไหนได้บ้าง?”
“ผมก็เลยออกไปหาหินชุดใหม่เพื่อเอามาทำงานสำหรับนิทรรศการนี้กับพี่พาสเทล โดยให้เขาเลือกก้อนหินไปจำนวนหนึ่งแล้วนำไปจำลองขึ้นมาใหม่ด้วยการหล่อปูนปลาสเตอร์”
พรภพ ศิลปินอีกคนของนิทรรศการกล่าวเสริมว่า
“หลังจากที่ดุ๊กติดต่อผมมา ผมคิดว่าหน้าที่ของผมคือการพยายามจำลองการจำลองก้อนหินของดุ๊กขึ้นมาใหม่ด้วยการใช้วัสดุ สี หรืออะไรก็ตามให้ออกมาคล้ายผลงานของดุ๊กที่สุด เพราะด้วยความที่ผมไม่ได้ไปใช้เวลาร่วมกับดุ๊กที่เวียดนาม”
“งานชุดนี้สำหรับผมเลยเป็นเรื่องของการสร้างวัตถุขึ้นมาจากการไม่มีเรื่องราว แต่เป็นการบันทึกและจำลองกระบวนการทำงานของศิลปินอีกคนขึ้นมาใหม่”
“คำถามก็คือ เมื่อไม่มีเรื่องราวแล้ว ผู้ชมจะตัดสินให้มันเป็นศิลปะได้ไหม? งานศิลปะจำเป็นต้องมีเรื่องราวหรือเปล่า? ตัววัตถุสามารถเป็นงานศิลปะได้ด้วยตัวของมันเองไหม?”
“ในนิทรรศการนี้ สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ความเป็นต้นแบบหรือของจำลอง หรือการที่เราจะบอกว่ามันเป็นก้อนหินจริงๆ หรือไม่ เราไม่อยากชี้นำหรือบอกข้อเท็จจริงใดๆ เกี่ยวกับผลงานเหล่านี้ แต่อยากให้คนดูตัดสินด้วยตัวเองว่าอะไรคือของจริงหรือของปลอม”
“สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างสภาวะให้คนดูตั้งคำถาม ว่าพวกเขาพร้อมที่จะยอมรับสิ่งเหล่านี้ให้เป็นงานศิลปะได้หรือเปล่า?”
นอกจากจะเล่นสนุกด้วยการปล่อยให้ผู้ชมสงสัยและคาดเดากันเอาเองว่าผลงานชิ้นไหนเป็นฝีมือของศิลปินคนไหนแล้ว
ศิลปินทั้งสองยังเล่นสนุกกับ Wall Text หรือป้ายชื่อและคำอธิบายผลงานที่ติดอยู่บนผนัง
ด้วยการจับเอามาใส่กรอบเรียบหรูจนดูเหมือนกับว่าเป็นภาพถ่ายหรือภาพวาด มากกว่าจะเป็นป้ายชื่อธรรมดา
และเล่นกับการจัดวางตัวหนังสือและพื้นที่ว่าง จนทำให้เราสับสนว่ามันเป็นแค่ Wall Text หรือเป็นงานศิลปะอีก (หลาย) ชิ้นในนิทรรศการนี้กันแน่?
หลังจากดูงานนี้ หลายคนอาจตั้งคำถามกับตัวเองว่า ก้อนหินธรรมดาๆ เหล่านี้มีความสำคัญอะไรถึงได้ถูกเอามาทำให้กลายเป็นงานศิลปะไปได้?
หรือการหยิบเอาวัตถุธรรมดาสามัญอย่างก้อนหิน (ไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือของที่ถูกจำลองขึ้นมาก็ตามที) มาวางตั้งบนแท่นแสดงงานภายในพื้นที่หอศิลป์จะสามารถทำให้พวกมันกลายเป็นงานศิลปะไปได้จริงๆ หรือไม่?
หรือแม้แต่ใครที่สงสัยใคร่รู้ ว่าในบรรดา “ก้อนหินศิลป์” ที่เราเห็นอยู่ในนิทรรศการนี้ มีก้อนหินจริงๆ รวมอยู่บ้างไหม?
เราคงตอบให้ไม่ได้ ใครอยากรู้ก็ต้องไปพิสูจน์ในนิทรรศการนี้กัน
ส่วนถ้าใครทายถูกแล้วจะได้รางวัลอะไรหรือเปล่า?
อันนี้ก็คงต้องขอให้ไปถามไถ่กันเอาเองก็แล้วกันน่ะนะ
นิทรรศการ Objective โดย พรภพ สิทธิรักษ์ และลัทธพล ก่อเกียรติตระกูล จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน – 17 พฤศจิกายน 2019 ที่ 1PROJECTS, 672/63 เจริญกรุง ซอย 28
สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ 08-1699-5298
หรืออีเมล [email protected]
ขอบคุณภาพจาก 1PROJECTS