จับตาครั้งแรกรอบ 5 ปี ผบ.ตร.คืนอำนาจ “บช.” แต่งตั้งรอง ผบก.-สว.ปี “62 | โล่เงิน

เมื่อถึงวาระการแต่งตั้งเหล่า “สีกากี” ไม่ว่าครั้งใดมักถูกมองว่ามีการซื้อขายเก้าอี้ ใครได้นายดีก็ได้อยู่พื้นที่ทำเลทอง คนมีความรู้ความสามารถแต่ไม่มีนายก็กลับถูกเตะโด่งออกนอกหน่วย

แต่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ เข้ามาสร้างความมั่นใจให้กับเหล่าข้าราชการตำรวจว่าจะได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นธรรม ยืนยันว่าจะไม่ยอมให้มีการซื้อขายตำแหน่งอย่างเด็ดขาด การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจต้องเป็นไปด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตและยุติธรรม

เห็นได้จากการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับตำแหน่งผู้บังคับการ (ผบก.) ถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และจเรตำรวจแห่งชาติ วาระประจำปี 2562 จำนวน 317 ตำแหน่ง ก็แล้วเสร็จเรียบร้อยในกรอบระยะเวลาที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

นับว่าเป็นการสร้างมิติใหม่แห่งวงการ “สีกากี” ที่การแต่งตั้งรวดเร็ว ไม่มีการขอขยายเวลา หรือชักบัญชีเข้า-ออก สลับสับเปลี่ยนให้วุ่นวาย

แถมการแต่งตั้งครั้งที่ผ่านมายัง “ไม่มีโรคเลื่อน” ตอกย้ำวาจาของนายกรัฐมนตรี ที่ศักดิ์สิทธิ์และเห็นผลจริง

เมื่อการแต่งตั้งนายพลสีกากีเรียบร้อยตามกรอบระยะเวลา

ถึงคราวการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับนายพัน สารวัตร (สว.) ถึงรองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) วาระประจำปี 2562 ที่ข้าราชการตำรวจก็ต่างคาดหวังว่าจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว ทันใจ เหมือนการแต่งตั้งนายพลที่ผ่านมา

และให้เป็นไปตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตํารวจ พ.ศ.2561 ข้อ 7 ระบุถึงวาระการแต่งตั้ง ในวาระประจำปี ให้ดําเนินการคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตํารวจ ตําแหน่งระดับ สว.-รอง ผบก. ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายนของทุกปี

ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้ออกหนังสือคำสั่งที่ 297/2562 ลงวันที่ 10 พฤษภาคม “เรื่องการมอบหมายอำนาจการสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ”

ใจความระบุว่า คืนอำนาจให้ระดับผู้บัญชาการแต่งตั้งโยกย้ายระดับรอง ผกก.-ผู้บังคับหมู่ ซึ่งหมายความว่าในวาระการแต่งตั้ง สว.-รอง ผบก. วาระประจำปี 2562 นี้ ในส่วนของตำแหน่งรอง ผกก.-สว. “กองบัญชาการหน่วย” ก็จะมีอำนาจในการคัดเลือก แต่ในส่วนของ ผกก. ยังคงเป็นอำนาจของ ผบ.ตร. เหมือนเดิม

แต่แว่วๆ มาว่าช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ ผบ.ตร.จะมีคำสั่งคืนอำนาจให้ผู้บัญชาการหน่วยเป็นผู้แต่งตั้งเองทั้งหมด

ตั้งแต่ระดับรอง ผบก.-สว. เรียกได้ว่ากระจายอำนาจ ไม่แทงกั๊ก

ไม่รวมศูนย์อำนาจการแต่งตั้งไว้ที่ ผบ.ตร.อย่างเช่น 5 ปีที่ผ่านมา

การแต่งตั้งระดับนายพันเริ่มส่งสัญญาณที่ดี เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.สกพ.) ได้มีคำสั่งเรื่องจัดเตรียมข้อมูลข้าราชการตำรวจไปยังผู้บัญชาการทุกหน่วย และผู้บังคับการในสังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ใจความระบุว่า ด้วยขณะนี้ใกล้เข้าสู่ห้วงระยะเวลาการดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับสารวัตร ถึงรองผู้บังคับการ วาระประจำปี 2562 ดังนั้น เพื่อให้การแต่งตั้งดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงขอให้ท่านสั่งการเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบข้อมูลด้านกำลังพลของหน่วยหรือหน่วยงานดำเนินการจัดเตรียมข้อมูลดังนี้

1. ข้อมูลตำแหน่งทั่วไปและตำแหน่งเฉพาะทางในระดับ สว.-รอง ผบก. รวมถึงตำแหน่งควบปรับระดับเพิ่ม-ลดได้ในตัวเองที่มีการกำหนดกรอบตำแหน่ง โดยจัดกลุ่มตามลักษณะงานหรือลักษณะหน้าที่ที่ว่าง ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2562

2. ข้อมูลการกันตำแหน่งสำหรับรองรับข้าราชการตำรวจที่ ตร.รับโอนมาหรือได้มีการบรรจุและแต่งตั้ง หรือการบรรจุกลับเข้ารับราชการ หรือกรณีอื่นๆ

3. ข้อมูลข้าราชการตำรวจระดับรอง สว. ถึงรอง ผบก. ในสังกัดที่ต้องหาหรือถูกฟ้องคดีอาญา หรือคดีแพ่ง หรือถูกดำเนินการทางวินัย หรือถูกดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือข้อมูลที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือคณะกรรมการ ป.ป.ท. ชี้มูลความผิด

4. ข้อมูลข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องกรณีที่มีการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 22/2558 เรื่องมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทาง และการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายสถานบริการ

5. ข้อมูลลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับรองสารวัตร ถึงผู้กำกับการ ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในวาระประจำปี 2562

6. ตรวจสอบทำเนียบข้อมูลข้าราชการตำรวจระดับสารวัตร ถึงรองผู้บังคับการ ว่าถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องให้จัดทำบัญชีสรุปรายการแก้ไขตามรูปแบบที่กำหนด

7. ทำเนียบข้อมูลข้าราชการตำรวจระดับรองสารวัตร ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในวาระประจำปี 2562

ทั้งนี้ ให้จัดส่งข้อมูลพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยัง ตร. (ผ่าน ทพ.(ทะเบียนพล)) ภายในวันที่ 13 กันยายน ซึ่งถือว่ารวดเร็ว เป็นสัญญาณที่ดี เพราะมีเวลาเกือบ 2 เดือนที่จะดำเนินการขั้นตอนต่างๆ ให้ทันตามกำหนดเวลา 30 พฤศจิกายน

23 กันยายน พ.ต.อ.กฤษณะได้ให้ความเห็นถึงการแต่งตั้งโยกย้าย โดยยอมรับว่าในระดับนโยบายหรือผู้ที่ทำหน้าที่แต่งตั้งนั้นคงไม่สามารถตอบสนองได้ทุกราย

เนื่องจากว่าการแต่งตั้งก็ต้องมองในภาพรวมว่า ในองค์กรขนาดใหญ่ที่มีบุคลากรประมาณ 200,000 กว่าคน การแต่งตั้งคงไม่สามารถทำตามใจผู้ที่มีความประสงค์ได้ทั้งหมด

แต่ต้องดูในภาพรวมว่าจะต้องเอาคนกลุ่มนี้ไปวางในกลุ่มไหน สายงานใด และต้องมีการวิเคราะห์อย่างใกล้ชิดกับฝ่ายที่กรองอัตรากำลังด้วยว่า การเจริญเติบโตของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละสายงานที่ต้องออกไปรับใช้ประชาชน เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในอีก 5-10 ปีข้างหน้าที่เมืองหรือประชากรจะขยายใหญ่ขึ้นหรือไม่

เมื่อตั้งลำดีแล้ว เชื่อว่าอีกเกือบ 2 เดือนข้างหน้า การแต่งตั้งนายพันวาระประจำปี 2562 จะรวดเร็วแล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลา แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้

ต้องรอลุ้นกัน