ฟ้า พูลวรลักษณ์ : หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (153) : ความขัดแย้งนี้น่าพิศวงยิ่งนัก

ฟ้า พูลวรลักษณ์

เมื่อวานฉันไปหอศิลป์แห่งหนึ่ง มีหลายภาพที่ฉันชอบ ราคาก็ไม่แพง แต่กระนั้นฉันก็ไม่ได้ซื้อ เพราะมีปัญหาหนึ่งที่ฉันแก้ไม่ได้ นั่นคือฉันไม่รู้จะเอาไปแขวนที่ไหน นี้เป็นปัญหาที่พื้นฐานยิ่งนัก

คอนโดฯ ของฉัน มีพื้นที่ ๑๐๐ ตารางเมตร มองยังไงก็ไม่เห็นพื้นที่ที่จะแขวนภาพจิตรกรรม ไม่ใช่เฉพาะฉันหรอก แต่หมายถึงคนส่วนใหญ่ในโลก

งานจิตรกรรม เป็นงานศิลปะที่ยังสืบทอดจากระบบศักดินา กล่าวคือ แทนที่บรรดาเหล่าลอร์ดและบารอน บรรดาเจ้าพระยาทั้งหลาย มาเป็นกลุ่มอภิมหาเศรษฐี บรรดาเจ้าสัว นายธนาคาร เพราะบุคคลเหล่านั้น ที่อยู่อาศัยล้วนไม่ธรรมดา พวกเขาสามารถสร้างคฤหาสน์หรู สร้างปราสาท สร้างวัง

แต่คนธรรมดาไม่ได้เป็นเช่นนั้น ที่อยู่อาศัยสมัยใหม่ ล้วนมีขนาดเล็ก มีพื้นที่จำกัด

นอกจากปัญหาโลกมีประชากรหนาแน่น ยังเพราะปัญหาการดูแลรักษา ปราสาทหนึ่งหลัง ใช้คนดูแลอย่างน้อยหลายสิบคน เทียบกับคอนโดฯ หนึ่งหลัง อาจไม่ต้องใช้คนดูแลเลย

หรือหากใช้ ก็อาจเช่นอาทิตย์ละครั้ง หรือเดือนละครั้ง แล้วแต่กรณี

จิตรกรรมที่ฉันกล่าว ฉันหมายถึงงานศิลปะบริสุทธิ์ ซึ่งจิตรกรล้วนทำงานด้วยใจบริสุทธิ์ แต่พวกเขาอยู่ได้ด้วยการอุปถัมภ์ของชนชั้นสูงเหล่านั้น มันขัดแย้งกัน และนี่ให้ความรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนัก ฉันจินตนาการตัวเองเป็นจิตรกร และพบว่า ฉันจะรุ่งเรืองได้ เพราะชนชั้นสูงเหล่านั้นรุ่งเรือง ฉันเหมือนไม่ประจบสอพลอ แต่ก็ประจบสอพลอ ไม่สนับสนุนระบบชนชั้น แต่ก็คือสนับสนุนระบบชนชั้น

ภาพจิตรกรรมราคาเป็นล้าน หรือหลายร้อยล้าน ใครจะซื้อ ซื้อแล้วจะเอาไปแขวนไว้ที่ไหน มีแต่อภิสิทธิ์ชนเหล่านั้นที่ทำได้ มีแต่พวกเขาที่สร้างหอศิลป์

บางคนมีจิตสำนึกที่ดี สร้างหอศิลป์ให้สาธารณะได้เข้าชม สร้างมูลนิธิ สร้างประโยชน์ให้สังคม บางคนอาจไม่มีจิตสำนึกนี้ พวกเขาเพียงสร้างหอศิลป์หรูไว้ดูเอง และไว้อวดกับเพื่อนสนิทเพียงบางคน

แต่รวมความคือ จิตรกรรมเป็นงานศิลปะที่ชั่วร้ายยิ่งนัก แม้มันจะไม่ได้ชั่วร้าย

ความขัดแย้งนี้ ฉันรู้สึกน่าสนใจ ยิ่งนั่งคุยกับศิลปินบริสุทธิ์ ที่น่ารัก และมีชีวิตเรียบง่าย แต่งานที่เขาทำ มันรับใช้เหล่าอภิสิทธิ์ชน ทำไมพวกเขาต้องทำอย่างนั้น ไม่มีทางเลือกอื่นเลยหรือ

จริงอยู่ ภาพราคาหลักพันหลักหมื่นมีอยู่ และชนชั้นกลางก็ซื้อได้ แต่ปัญหายังคงเป็น เอาไปแขวนไว้ที่ไหน หากจะแขวนไว้ในคอนโดฯ หรือบ้านหลังเล็ก อย่างมากก็แขวนได้เพียงรูปสองรูป มันไม่มีผลต่อวงการภาพเขียน นอกจากชนชั้นกลางนับล้านมีใจตรงกัน หนึ่งคนซื้อหนึ่งหรือสองรูป หลายล้านคนก็หลายล้านรูป นอกเสียจากฉันเป็นเศรษฐีที่มีโครงการใหญ่ ที่มีพื้นที่สำหรับภาพเขียนนับพัน หรือนับหมื่น มิเช่นนั้น การที่ฉันคนเดียวซื้อหนึ่งหรือสองรูป ไม่มีความหมาย

ประเด็นนี้จริง แม้กับหนังสือ แม้จะรุนแรงน้อยกว่า เพราะหนังสือราคาไม่แพง ชนชั้นกลางซื้อได้ไม่ยาก ราคาของมันเท่ากาแฟสมัยใหม่ถ้วยเดียว คนสมัยใหม่ที่สามารถดื่มกาแฟเป็นพันถ้วยต่อปี ก็สามารถซื้อหนังสือเป็นพันเล่มต่อปีเช่นกัน หากพวกเขาต้องการ

แต่ปัญหาพื้นฐานยังคงเป็น จะเอาหนังสือเป็นพันเล่มไปเก็บไว้ที่ไหน

ฉันเดินไปบ้านเพื่อนแต่ละหลัง ไม่เห็นห้องหนังสือเลย อย่างเก่งก็มีตู้หนังสือหนึ่งหรือสองตู้ อย่างมากก็จุหนังสือได้ยี่สิบสามสิบเล่ม ก็เต็มแล้ว ส่วนใหญ่มีหิ้งวางหนังสือเพียงไม่กี่เล่ม

ในขณะที่หนังสือตีพิมพ์ออกมาไม่ขาดสาย มีปริมาณนับแสนนับล้าน

ความขัดแย้งนี้น่าพิศวงยิ่งนัก หนังสือเหล่านั้นจะไปเก็บไว้ที่ไหน

๑๐

คอนโดฯ พื้นที่ ๑๐๐ ตารางเมตรของฉัน ซึ่งในโลกของคอนโดฯ ถือว่าเป็นห้องใหญ่พอควร ก็ยังไม่มีพื้นที่สำหรับเก็บหนังสือ

หากฉันต้องการเก็บหนังสือเป็นพันจริงๆ ฉันต้องซื้อคอนโดฯ พื้นที่ ๑๐๐ ตารางเมตรอีกหลัง เพื่อให้พื้นที่ส่วนใหญ่ในคอนโดฯ หลังนี้ ทำเป็นห้องหนังสือ แสดงว่าฉันรักหนังสืออย่างที่สุด และต้องซื้อคอนโดฯ หนึ่งหลังสำหรับมัน หนังสือมีน้ำหนักมาก และหากมีจำนวนมาก มันต้องการคอนโดฯ หนึ่งหลัง มีสักกี่คนที่จะทำอย่างนั้น

คอนโดหนึ่งหลังกับหนังสือนับพัน ไม่ต้องระดับมหาเศรษฐีหรอก ชนชั้นกลางก็ทำได้ หากต้องการ แต่ใจที่จะทำนั้น ก็ไม่ใช่ง่าย

๑๑

หากฉันมีภาพของปิคาสโซ่ ที่มีราคาเป็นพันล้านหมื่นล้าน ฉันก็ไม่รู้จะไปเก็บไว้ที่ไหน ต่อให้ฉันสร้างหอศิลป์ แต่หากระบบรักษาความปลอดภัยไม่ดีพอ ฉันก็กลัวถูกขโมย กลัวการสูญหาย แม้จะเป็นเพียงภาพเดียว มีขนาดเล็ก ก็ไม่รู้จะไปแขวนไว้ที่ไหน อาจต้องวางอยู่แต่ในห้องนิรภัย เท่ากับภาพเขียนนี้ ยากจะให้ใครดูได้

มันขัดแย้งกัน มันทำลายกันเอง

๑๒

ความขัดแย้งเล็กๆ แต่เป็นพื้นฐานนี้ น่าครุ่นคิดไม่รู้จบ

๑๓

ต้องการความสะดวกสบาย จึงจ้างแรงงานต่างชาติ ที่ราคาถูก แต่ต่อมาก็กลายเป็นปัญหาสังคม ที่ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลในการแก้ปัญหา

ยิ่งต้องการแรงงานที่ราคาถูกที่สุด จึงเกิดระบบทาส แต่ระบบทาสต่อมาก็ก่อให้เกิดสงครามกลางเมือง ที่ราคาแพงลิบลิ่ว

ความขัดแย้งเช่นนี้ มีไม่สิ้นสุด และมีอยู่รอบตัวเรา ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต มองยังไงก็ไม่เห็นว่าพวกมันจะหมดไป

๑๔

เด็กทารกเกิดใหม่ ที่เกิดขึ้นบนเสียงแสดงความยินดี บนความสุข ความสมใจของคนหลายคน แต่พวกมันก็คือที่มาของปัญหามากมาย มันเคียงคู่กันมา เป็นเส้นขนาน

ชีวิตคือเส้นขนาน ที่เป็นเส้นเดียวไม่มี

๑๕

ฉันไปบ้านป่าเมืองดอย ที่เขียวชอุ่มด้วยป่าไม้ หุบเขา มีความเร้นลับโรแมนติกมากมาย

แต่วันๆ ฉันก็ต้องรับมือกับแมลง ทั้งเวลาออกไปข้างนอก หรือเวลาอยู่ในบ้าน ทั้งห้องนอนและห้องน้ำ

มันต้องเป็นอย่างนั้น เพราะป่าอุดมสมบูรณ์ ย่อมอุดมสมบูรณ์ด้วยสิ่งมีชีวิต และกองทัพแรกคือแมลง

กองทัพที่สองจึงเป็นสัตว์เลื้อยคลาน

กองทัพที่สามจึงเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และอื่นๆ ยังไม่นับแบคทีเรียหรือไวรัส ที่เกาะกลุ่มมาด้วย ท่ามกลางความทุรกันดารในเรื่องการหาอาหาร

นี้เป็นการยืนยัน ว่าชีวิตเดินทางเป็นเส้นขนาน

มันเร้นลับเหลือเกิน มันโรแมนติก สวยงาม แต่มันก็อยู่ยาก มันก็ทุกข์ทรมาน

๑๖

จริงๆ นะ ภาพนี้ฉันชอบเหลือเกิน หยิบขึ้นมา แต่ไม่รู้จะไปแขวนไว้ที่ตรงไหน