คุยกับ ‘แอฟ ทักษอร’ ว่าด้วย วิธีเลี้ยงลูก

เลี้ยงลูกแบบแอฟ

“เขาโตขึ้นเยอะค่ะตอนนี้ พูดรู้เรื่องขึ้น แต่ความซนยังเท่าเดิม พลังเยอะกว่าแม่มาก” คือคำที่แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ พูดถึงปีใหม่ ลูกสาววัย 4 ขวบเศษ จากนั้นก็ยิ้มชื่น

ก่อนเล่าต่อว่า ความเป็นคนมีพลัง สดใส ร่าเริง และมีความสุข เธอจึงรู้สึกได้ว่าปีใหม่ได้เผื่อแผ่สิ่งต่างๆ เหล่านั้นไปยังทุกคนที่ได้พบ ได้อยู่ด้วย

“แต่ไม่ได้บอกว่าลูกตัวเองดี” คนเป็นแม่รีบออกตัวตามมา

แล้วจึงว่า “ทุกอย่างมี 2 ด้าน ปีใหม่พลังเยอะ เรียนรู้เร็ว ความเรียนรู้เร็วมันง่ายสำหรับเราในการสอน สอนอะไรไปแล้วเขาจะเข้าใจ จำได้ แต่อีกด้านคือ แอฟจะเหนื่อยเพราะว่าแอฟพลังอ่อน ก็ต้องพยายาม”

ผลจากความพยายามรับมือกับหนูน้อยพลังเยอะ จึงกลายเป็นว่า “แอฟทำอะไรเร็วขึ้นเยอะตั้งแต่มีลูก ต้องแข็งแรง ทุ่มเทให้ลูกมากกว่าที่คิด”

“ตอนแรกคิดว่าลูกสาวก็ดีออก ง่ายๆ เหมือนเพื่อนกัน ไปไหนไปกัน แต่ว่าจริงๆ แล้วมันมากกว่านั้นเยอะ ลูกสาวต้องการความสนใจ เรียนรู้ อยากให้เราสอน อธิบาย และทำกิจกรรมร่วมกัน มันเป็นชีวิตที่แอ๊กทีฟมาก”

นางเอกคนงามยังเล่าด้วยว่า สิ่งที่เห็นได้ชัดว่ามาพร้อมกับพัฒนาการของลูกที่เริ่มโตคือ “เดี๋ยวนี้มีข้อโต้เถียง และมีเหตุผลของตัวเองมากขึ้น”

จากที่เคยพูดแล้วเชื่อฟังโดยง่าย ก็กลายเป็นแม่ต้องพูดมากขึ้น ต้องอธิบายเยอะ ซึ่งในช่วงเวลาโต้เถียงและอธิบายดังกล่าวนั้น แอฟบอกว่าเธอเลือกใช้วิธีสื่อสารกับลูก แบบผู้ใหญ่คุยกับผู้ใหญ่ ไม่ใช่ผู้ใหญ่คุยกับเด็กน้อย

“จะไม่หลอกเขา เพื่อจะได้จบปัญหานั้นไปได้ง่ายๆ หรือว่าเร็วๆ เพราะสุดท้ายแล้วปัญหานั้นจะย้อนกลับมา สุดท้ายแล้วเราจะอธิบายให้เขาเข้าใจในบางสิ่งบางอย่าง พูดไปเขาอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่เชื่อว่าวันหนึ่งเขาจะเข้าใจ เพราะเขาเป็นคนจำได้ บางทีเคยสอนอะไรแล้วเขาจำได้ เขาพูดว่าหนูจำได้แล้วที่วันนั้นคุณแม่สอนหนูแบบนี้ หนูเข้าใจแล้วที่วันนั้นแม่บอก แต่แค่วันนั้นหนูไม่เข้าใจ เลยรู้สึกว่าทุกอย่างที่ทุ่มเท ที่สอนไป ไม่มีวันเสียเปล่า แต่วันนี้ที่เขาเป็นเด็กเล็ก มันอาจจะเหนื่อยหน่อย”

ส่วนเรื่องที่ปีใหม่เชียร์แม่ให้แลหนุ่มๆ แอฟก็ว่า “เขาก็ขำๆ ของเขา”

ขณะเดียวกัน “พฤติกรรมพวกนี้ทำให้แอฟรู้สึกสบายใจ ว่าลูกไม่ได้ดราม่าอะไร เขาโอเพ่นจริงๆ อาจจะเห็นคุณตา คุณยายมีตั้ง 2 คู่ที่สวีตกัน ลูกอาจเห็นภาพอะไรแบบนั้น”

“แต่ไม่รู้ว่าถ้าเรื่องจริงเกิดขึ้น จะเป็นยังไง”

“ตอนนี้เขาอารมณ์เหมือนเพื่อน เหมือนพี่สาว ว่ามามี้ไม่มีเหรอ หนูยังมีแฟนแล้วเลย แต่ก็เด็ก 4 ขวบ ก็ขำๆ ไม่มีอะไร แค่เล่าให้ฟังตรงนี้ ว่าแม่รู้สึกสบายใจ ว่าลูกไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลก หรือเรื่องไม่ดี รู้สึกว่าลูกมีสุขภาพจิตที่ดี มีสภาพจิตใจดี แค่นี้แม่ก็แฮปปี้แล้ว ถ้าลูกไม่ทิ้งแม่ไปไหน แม่ไม่ต้องมีใครก็ได้”

เมื่อถามไปว่าที่ผ่านมาไม่ค่อยเห็นแอฟในมุมดุลูก คำตอบที่มาพร้อมเสียงหัวเราะคือ “ก็ดีแล้วค่ะ ให้ปีใหม่เห็นคนเดียวก็พอ”

อย่างไรก็ดี ขอยอมรับว่า บางทีเธอก็รู้สึกสงสารหลังการดุ แต่กระนั้นนั่นเป็นเรื่องที่ต้องทำ

“แอฟกล้าที่จะดุ เพราะตอนเราเลี้ยงเขา ดูแลเขา เขาต้องรู้อยู่แล้วว่าเรารัก คนที่อาบน้ำเช็ดก้นให้เขาเป็นเวลา 4 ปี มันเยอะมากนะคะ เพราะฉะนั้น ก็ต้องมีมุมดุบ้าง ดีบ้าง ก็หวังว่าลูกจะเข้าใจ”

ในฐานะของแม่ที่แยกทางกับพ่อ แอฟบอกว่าแม้การเลี้ยงดูลูกจะเป็นงานที่หนัก “แต่สำหรับแอฟ แอฟไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะแอฟได้ทำหน้าที่แบบนี้มาเต็มที่ตั้งแต่ต้น อย่าว่าตั้งแต่วันแรกที่ลูกคลอดเลย แอฟเต็มที่มาตั้งแต่รู้ตัวว่าท้องแล้ว แอฟรู้สึกว่าจะทำทุกอย่างเต็มที่เพื่อลูกคนนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือปล่า เราก็มีความตั้งใจแบบนี้ เลี้ยงลูกเต็มที่ด้วยพลังแบบนี้ ทั้งหมดที่มีมาตั้งแต่วันแรก เพราะฉะนั้น มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยว่า พอเราแยกกันอยู่ หรือว่าพอหย่าแล้ว พอแยกบ้าน จะรู้สึกว่าเราจะต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ไม่เลย ไม่ได้รู้สึกอะไร”

ส่วนคำชมที่มีคนมอบให้ ฐานที่เลี้ยงลูกดี เธอก็ฟังด้วยความรู้สึกขอบคุณ

“เขาให้คุณค่าและให้เกียรติแอฟในส่วนที่แอฟเลี้ยงปีใหม่มา เราก็ต้องดีใจ ถ้าเกิดมีคนเห็นคุณค่าเราในด้านนั้น”

นั่นคือคำตอบที่แอฟ ทักษอร ให้ พร้อมรอยยิ้มส่งท้าย