หลังเลนส์ในดงลึก/ปริญญากร วรวรรณ/ ‘เข้าใจ’

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ
ช้างป่า - ช้างป่า แม้จะเป็นชีวิตที่ต้องการอาหารมากในแต่ละวัน แต่พวกมันก็มีโอกาสได้ดำเนินชีวิตไปตามวิถี เมื่อแหล่งอาศัยได้รับการปกป้องดูแลอย่างดี

หลังเลนส์ในดงลึก/ปริญญากร วรวรรณ

‘เข้าใจ’

 

แมวตัวผู้สีขาวตุ่นๆ ตัวหนึ่ง อาศัยอยู่ในหน่วยพิทักษ์ป่าลูกไม้แดง หรือที่เรียกในภาษากะเหรี่ยงว่า เซซาโว่

ได้รับชื่อว่า หมอก

ว่าตามจริง มันอยู่ในสถานภาพของผู้หลบหนีเข้าเมือง และอาศัยอยู่ที่นี่อย่างไม่ถูกกฎหมาย

เพราะกฎของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้น ห้ามสัตว์เลี้ยงเข้ามาอาศัย

“เจ้าหมอกเป็นแมวป่านะครับ มันเกิดในป่านี่แหละ” ชัยพร หัวหน้าหน่วย อ้างเหตุผลเข้าข้างแมวที่เขาและลูกทีมในหน่วยถือเป็นสมาชิกของหน่วยผู้หนึ่ง

ในเขตนี้มีแมวสองตัว แยกกันอยู่คนละหน่วย

อีกตัวค่อนข้างชรา ถือสันโดษ ไม่ค่อยมีเรื่องวุ่นวาย รวมทั้งไม่ออกไปมีเรื่องกับชะมด หรืออีเห็น แม้ตอนกลางคืนชะมดเข้ามารื้อหาของกินในครัว มันก็แค่ปรือตามองเฉย

แมวตัวนี้อยู่ที่หน่วยทิคอง

เราเรียกมันว่า อ้วน แมวชรา

 

ส่วนเจ้าหมอก ไม่ใช่อย่างนั้น เดิมเจ้าหมอกอยู่หน่วยพิทักษ์ป่ามหาราช แต่เพราะชอบมีเรื่องกับชะมดและอีเห็นบ่อยๆ จิตติหัวหน้าหน่วยจึงมีคำสั่งเนรเทศให้หมอกมาอยู่ในความดูแลของชัยพร ซึ่งตอนนั้นรับหน้าที่พนักงานประจำสถานีวิทยุแม่ข่าย

จะเรียกว่าโดนย้ายไปชายแดนก็ได้ โดนเนรเทศมาแล้วดูเหมือนเจ้าหมอกไม่ปรับปรุงนิสัย ยังก่อเรื่องเสมอ

รวมทั้งจะประกาศอาณาเขตด้วยวิธีพ่นฉี่ไว้ทั่วไป โดยเฉพาะเป้, รองเท้า, เปล

มันสเปรย์เช่นเดียวกับที่เสือทำ

เจ้าหมอกเป็นแมวท่าทางนักเลง ตัวโต ล่ำสัน กล้ามเนื้อแข็งแกร่ง ดวงตาสีเหลือง เวลาจ้องหน้าคน จะเหมือนขมวดคิ้วตลอด ชอบเที่ยวกลางคืน

“มันเดินไปถึงหน่วยแม่กะสะเลยครับ” ชัยพรบอก

มีหลักฐานจากกล้องดักถ่ายภาพของทีมสำรวจประชากรเสือโคร่ง ถ่ายรูปเจ้าหมอกขณะเดินไว้ได้

หน่วยแม่กะสะอยู่ห่างไป 18 กิโลเมตร

ในหน่วยเซซาโว่ ทุกคนรู้ดีว่า

เจ้าหมอกกับผม ไม่ถูกกัน

 

ถ้าผมพักอยู่ที่หน่วย เป้ต้องเก็บ ไม่ก็ต้องแขวนไว้สูงๆ รองเท้าผมจะเอาไปเก็บในรถ

กระนั้นก็เถอะ ถ้าเผลอ เจ้าหมอกจะสเปรย์ใส่ทันที

คืนหนึ่งมันเข้ามาสเปรย์ใส่เปลที่ผมนอน จนผมทนกลิ่นฉี่มันไม่ไหว ต้องลุกไปหาที่นอนใหม่

รุ่งเช้า ผมเอาเปลไปซักในลำห้วย เจ้าหมอกครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่บนโต๊ะกินข้าวในครัว มองดูผมซักเปล

ตรงมุมหนึ่งของครัว มีแผ่นไวต์บอร์ดเขียนรายชื่อพนักงานหน่วย

ชื่อสุดท้ายเขียนว่า หมอก แมวดื้อ

 

จะว่าไป ในหน่วยพิทักษ์ป่าก็ทำผิดระเบียบอย่างหนึ่ง คือ มีแมวอยู่ประจำ การมีสัตว์เลี้ยงในป่านั้น มีเรื่องเสี่ยงกับเชื้อโรคต่างๆ จะแพร่ไปถึงสัตว์ป่า

“มันไม่ได้มาจากในเมืองหรอกครับ” ชัยพรยืนยัน

เขาทำหน้าที่เป็นพนักงานวิทยุอยู่นาน ก่อนรับหน้าที่หัวหน้าหน่วย

“อยู่คนเดียวเป็นเดือนๆ ไม่เหงาหรอก คุยกับแมว กับนก หรือเก้ง กวางที่มากินในโป่งเทียมข้างสถานีไปเรื่อย”

หลายคนลงความเห็นว่า “แปลกๆ” อย่างชัยพรนี่แหละ เหมาะสมกับงานนี้

สถานีวิทยุแม่ข่าย อยู่ห่างจากหน่วยราว 4 กิโลเมตร

“ตอนอยู่สถานี เจ้าหมอกเดินมาหาบ่อยครับ แต่มันไม่ชอบนอนที่สถานี คงชอบอยู่หน่วยมากกว่า”

ชัยพรเจอสถานการณ์เดียวกับผม ถ้าลืมปิดประตูห้องนอน จะถูกเจ้าหมอกเข้าไปพ่นฉี่ใส่ที่นอน ผ้าห่ม และของต่างๆ

“เดี๋ยวว่างๆ คงต้องสั่งสอนกันซะหน่อย”

ชัยพรหารือกับผม ซึ่งเห็นด้วยว่า คงต้องสั่งสอนไม่ให้เจ้าหมอกประพฤติอย่างนี้…

 

ช่วงฤดูหนาว ผมใช้เวลาอยู่ที่เซซาโว่

จนถึงช่วงผ่านพ้นสิ้นปี กระทั่งล่วงเข้าเดือนที่สองของปีใหม่ ป่าอยู่ในสภาพแห้งแล้ง ใบไม้หลายต้นเหลืองกรอบ บางต้นทิ้งใบเหลือกิ่งโกร๋นๆ

บนทางที่เราใช้ มีรอยตีนเสือโคร่งเดินทับรอยเสือดาว ในโป่งมีแต่กวาง 5-6 ตัว กระทิงส่วนใหญ่อพยพเข้าไปอยู่ในป่าดิบ ทิ้งไว้แต่รอยตีนที่พวกมันเหยียบย่ำไว้เป็นหลุม บนทางเข้าโป่งในช่วงฝน

อีกสักเดือน เมื่อไฟไหม้ทุ่งหญ้า และระบัดงอกงาม พวกมันจะมารวมฝูงอยู่ในทุ่งหญ้า

ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นหน่วยซึ่งอยู่ในพื้นที่ค่อนข้างหนาวเย็น อุณหภูมิลดเหลือ 4-5 องศาเซลเซียส คือเรื่องปกติ

ดังนั้น กองไฟริมลำห้วย ข้างๆ โรงครัว จึงไม่ค่อยดับ ควันไฟลอยเป็นสายตลอด

มีกองไฟอยู่ริมห้วย เป็นเรื่องดี เพราะเวลาเราล้างหน้า ล้างมือ จะเย็นจนเจ็บ ต้องรีบขึ้นมาอังไฟ

ข้างกองไฟจึงเป็นที่นั่งคุย ที่กินข้าว นั่งเล่น และผูกเปลนอน

เจ้าหมอกนอนใกล้ๆ กองไฟด้วย แต่มันจะไม่เข้ามาคลอเคลียกับคน ต่างกับอ้วน แมวชราตัวนั้น ที่มักจะเอนหัวมาซบคนบ่อยๆ

เจ้าหมอกเข้ามาเบียดๆ คนบ้าง แต่ถ้าใครจับตัวมันเพื่อให้นอนบนตัก มันจะขืนตัวไม่ยอม ถ้าไม่ปล่อย มันจะมองจ้องหน้า ทำหน้าดุ

ว่าไปแล้ว คนในหน่วยเห็นเป็นเรื่องบันเทิง

ได้เห็นแมวดื้อๆ

ที่น่าแปลกคือ คนที่โดนมันสเปรย์ใส่ มีแค่ชัยพรกับผม

“ว่างๆ เถอะ โดนแน่ๆ เจ้าหมอก” ข้างกองไฟค่ำหนึ่ง ชัยพรแอบกระซิบ

 

“ผมว่า มันเป็นแบบนี้เพราะขาดความอบอุ่นหรือเปล่า” ชัยพรปรึกษาเรื่องเจ้าหมอก

ผมมองไปที่เจ้าหมอก มันมองตอบ สายตาเอาเรื่อง

“นั่นสิ” ผมพยักหน้า

การสเปรย์ของมันอาจเพราะอยากเรียกร้องความสนใจ

ท่าทางอยากมีเรื่องตลอดของมัน ทำให้ไม่มีใครอยากเล่นด้วย

ผมกับชัยพรตกลงจะให้โอกาส และเราจะเปลี่ยนทีท่าในการอยู่ร่วมกับมัน

“เริ่มจากเปลี่ยนนามสกุลแล้วกัน” ผมบอก

ชัยพรพยักหน้า

เขาลบคำว่าแมวดื้อ ที่ต่อท้ายชื่อหมอกออก

และเขียนใหม่ว่า “หมอก สิงห์สเปรย์”

 

ทุกคืน เจ้าหมอกมาร่วมวงกับเราข้างกองไฟ

มันขยับหนีเมื่อผมเอื้อมมือลูบหลัง จ้องหน้าผม

ผมสบสายตากับมัน

เริ่มเข้าใจ

เจ้าหมอกเป็นสัตว์ป่า

กับสัตว์ป่า

สิ่งที่มันต้องการคือ ความ “เข้าใจ”

ไม่ใช่ไออุ่นๆ จากมือของคน