ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 16 - 22 สิงหาคม 2562 |
---|---|
ผู้เขียน | เสถียร จันทิมาธร |
เผยแพร่ |
วิถีแห่งกลยุทธ์ เหมยฉางซู/เสถียร จันทิมาธร
แม่ทัพแดนใต้ หนีหวงจวิ้นจู่ (6)
ความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งก็คือ นามของหนีหวงจวิ้นจู่ได้รับการเอ่ยขึ้นเป็นหนแรกในหนังสือ “บุรุษบูรพา ทำเนียบหลางหยา”
ท่ามกลางการถกเถียงถึงการเข้ามาของทูตจากแคว้นต้าอวี๋และแคว้นเป่ยเอี้ยน
อันนำไปสู่การตัดสินพระทัยของจักรพรรดิต้าเหลียงให้มีการจัดการแข่งขันเลือกคู่เพื่อสนองกับเจตนาและเป้าหมายจาก 2 แคว้นสำคัญ
คำถามจากเซี่ยปี้ต่อเหยียนอวี้จินก็คือ
“ฟังจากที่เจ้าว่า ต้าอวี๋กับเป่ยเอี้ยนยกขบวนมาในครั้งนี้ หรือมีการเจาะจงคู่อภิเษกไว้แล้ว”
“มิผิด” เป็นคำตอบจากเหยียนอวี้จิน “ผู้ที่ถูกเจาะจงเป็นพิเศษ ผู้ที่ทำให้อีกฝ่ายถูกทุบตีจนหัวปูดเป็นซาลาเปาก็ยังเต็มใจแต่งด้วย พวกเจ้ามิลองทายดูว่าใคร”
ไม่ทันขาดคำ เหมยฉางซูพลันวางชามโจ๊กลง “ข้าเดาว่าเป็นหนีหวงจวิ้นจู่”
เซียวจิงรุ่ย เซี่ยปี้สะดุ้งตัวลอย เหยียนอวี้จินแสดงสีหน้าขัดใจ จ้องหน้าเหมยฉางซู ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันเอ่ยขึ้น
“พี่ซู แม้ท่านสติปัญญาแหลมคมเหนือมนุษย์ ชวนให้ผู้คนนับถือ แต่นิสัยคาดเดาอะไรก็ถูกไปหมดเช่นนี้กลับไม่ใช่เรื่องประเสริฐ ทั้งขัดความสนุกผู้อื่น และทำให้ผู้อื่นเสียความภาคภูมิใจ”
เรื่องนี้แฝงความซับซ้อนซ่อนปมอย่างแน่นอน
ในความเห็นของเซี่ยปี้ “ต้าอวี้กับเป่ยเอี้ยนเสนอข้อเรียกร้องเช่นนี้นับเป็นอะไร ตั้งแต่แรกฝ่าบาทก็น่าจะทรงปฏิเสธไปก็สิ้นเรื่อง นี่กลับจัดงานแข่งขันอะไรกัน หรือพวกขุนนางมิได้ทูลทัดทาน
หนีหวงจวิ้นจู่จะแต่งออกไปได้อย่างไร”
“ไห่เยี่ยน” บรรยายตอนนี้ว่า เหมยฉางซูผุดรอยยิ้มที่มุมปาก เป็นรอยยิ้มที่แฝงแววเหยียดหยันเบาบาง
เบาบางจนไม่มีใครสังเกตเห็น
นั่นสิ หนีหวงจวิ้นจู่จะแต่งให้ชนต่างเผ่าได้อย่างไร นางหาใช่สตรีสูงศักดิ์ที่เก็บตัวมิดชอบอยู่ในรั้วในวัง แต่เป็นถึงผู้บัญชาการทหารม้า 10 หมื่นประจำชายแดนใต้
กอปรด้วยความสามารถอันโดดเด่นคนหนึ่ง
10 ปีก่อน ชายแดนใต้ของต้าเหลียงถูกแคว้นฉู่ศัตรูสำคัญยกทัพประชิด อวิ๋นหนานหวัง (บรรดาศักดิ์ชั้นหวัง) มู่เซิน ผู้รับผิดชอบแนวป้องกันชายแดนใต้ได้พลีชีพกลางสนามรบ
ในห้วงคับขัน หนีหวงจวิ้นจู่ ผู้เป็นธิดา จึงได้รับมอบหมายให้นำทัพต่อต้านข้าศึก
สุดท้าย สยบแคว้นฉู่ได้สำเร็จที่ด่านชิงหมิง ฝ่ายศัตรูสูญเสียทหารถึง 30,000 นาย
หลังศึกครั้งนั้น ราชสำนักมีราชโองการแต่งตั้งหนีหวงจวิ้นจู่ดำรงตำแหน่งแม่ทัพ บัญชาการป้องกันชายแดนใต้
แทนน้องชายที่ยังเยาว์วัย
หนีหวงจวิ้นจู่ถึงกับเคยตั้งสัตย์ปฏิญาณต่อฟ้า หากน้องชายยังไม่อาจแบกรับภาระตำแหน่งอวิ๋นหนานหวังได้วันหนึ่ง นางก็ไม่ขอออกเรือนวันหนึ่ง
บัดนี้ นางอายุ 27 ปี ยังครองตัวเป็นโสด
และเพราะฐานะที่สำคัญยิ่งยวดของหนีหวงจวิ้นจู่นี้เอง เรื่องการตัดสินพระทัยขององค์จักรพรรดิที่ทรงเห็นด้วยกับการให้ชนต่างแคว้นเข้าแข่งขันคัดเลือกคู่ครองจึงสร้างความประหลาดใจให้แก่บรรดาคุณชายชั้นสูงทั้งหลายอย่างยิ่ง
กระนั้น การตัดสินใจสนองรับกับราชโองการของหนีหวงจวิ้นจู่ก็มาจากหลายองค์ประกอบอันกลายเป็นเงื่อนไข
บุตรของอวิ๋นหนานหวัง มู่ชิง อายุถึงกำหนดสืบทอดตำแหน่งพอดี
เป็นการตอบตกลงพร้อมกับเงื่อนไข 1 ผู้เข้าร่วมแข่งขันต้องเป็นผู้ขออภิเษก 1 จะบุ๋น บู๊ ไม่สนใจ ขอให้ฝ่าบาทเป็นผู้ตัดสินพระทัย
ทว่า 1 ผู้ชนะถึงด่านสุดท้ายต้องประลอง หากนางแพ้จึงยอมแต่งด้วย
ที่สามารถต่อรองและตั้งเงื่อนไขได้เช่นนี้ “ไห่เยี่ยน” ให้เหตุผลรองรับว่า หนีหวงจวิ้นจู่แม้มิใช่เชื้อพระวงศ์แต่สร้างความดีความชอบใหญ่หลวงปรากฏเป็นชื่อเสียงเกรียงไกร ดังนั้น ได้รับพระมหากรุณาเหนือกว่าองค์หญิงอื่นๆ มาโดยตลอด
งานประลองเลือกคู่ของนางในครั้งนี้สถานที่จัดงานแน่นอนต้องเป็น “ตึกหงส์เสด็จ”
ปมเงื่อนมิได้อยู่ที่สถานะของหนีหวงจวิ้นจู่ประการเดียว หากแต่อยู่ที่ความสนใจอย่างเป็นการจำเพาะของเหมยฉางซู
การจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดต้องศึกษาเส้นสนกลในของเรื่องนี้
มีแต่ต้องพยายามรวบรวมแต่ละร่องรอยในการพบปะ ในการสนทนาแลกเปลี่ยนระหว่างหนีหวงจวิ้นจู่กับเหมยฉางซูเท่านั้นจึงจะเข้าใจ
เข้าใจในความรู้สึก “ร่วม” ของ 2 คนนี้ลึกลงไป ลึกลงไป