ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 2 - 8 สิงหาคม 2562 |
---|---|
เผยแพร่ |
รายงานพิเศษ/โชคชัย บุณยะกลัมพ https://www.facebook.com/ChokCyberAIEntertainment/
แอพพ์ AI จีน ช่วยระบุตัวตนสุนัข
ตามหา-เอาผิดเจ้าของไร้สำนึก
สุนัขเป็นสัตว์ที่รักเจ้าของและเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์กับมนุษย์ คนจึงนิยมเลี้ยงสุนัขกันมาก
ไม่ว่าจะเลี้ยงเพราะใจรัก เลี้ยงไว้แก้เหงา หรือเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน
สุนัขมีความแสนรู้และความสามารถโดดเด่นต่างกันไปในแต่ละสายพันธุ์
และสุนัขทุกตัวก็ต้องการการเอาใจใส่ดูแลเหมือนคนเราเช่นกัน
แต่ปัญหาสังคมที่ไม่สามารถแก้ไขได้เกี่ยวกับเรื่องสุนัขจรจัดในปัจจุบันที่มีจำนวนมาก
ไม่สามารถควบคุมจากการเพิ่มจำนวนสุนัขได้ต่อเนื่อง นับจากในอดีตความต้องการซื้อสุนัขมาพอเริ่มโตไม่น่ารักก็เอาไปปล่อย อาจมีคนใจบุญที่มาคอยให้อาหารสุนัข ทำให้เกิดปัญหาในการดูแล
คนส่วนใหญ่นั้นได้แต่บอกให้รัฐช่วยแก้ไขปัญหา ควรมีกฎหมายที่รุนแรงในการทอดทิ้งสุนัขโดยไม่มีการรับผิดชอบต่อสังคมทำให้สังคมเดือดร้อน
แต่ก็มีคนบางส่วนที่รักสุนัข ยอมดูแลสุนัขจรจัดไปเรื่อยๆ เพราะสุนัขมันต้องการความรัก อยากมีเจ้าของเหมือนกัน
ปกติของสังคมไทยจะเลี้ยงสุนัขแบบปล่อย ไม่อยู่ในขอบเขตบ้าน ทำให้เวลาเจอตามถนนแล้วไม่รู้ว่ามีเจ้าของหรือไม่ สุนัขจรจัดบางตัวอาจมีพฤติกรรมก้าวร้าว ดุร้าย สุ่มเสี่ยงกับการติดและแพร่เชื้อโรค ทำร้ายผู้คน
สุนัขจรจัดถูกมองว่าเป็นปัญหาสังคมที่สร้างผลกระทบด้านต่างๆ มากมาย ทั้งเห่าหอนสร้างมลภาวะทางเสียง วิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถ เสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน คุ้ยขยะสกปรกเรี่ยราด
ขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทางส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์
ปัจจุบันประเทศไทยมีสุนัขจรจัดหลายแสนตัว และยังมีแนวโน้วเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
การจัดระเบียบด้วยการขึ้นทะเบียนเพื่อแยกแยะสัตว์มีเจ้าของกับจรจัด ในการควบคุมป้องกัน บางประเทศได้ทำการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงแล้วนำไปฉีดวัคซีน
หากเกิดปัญหาขึ้นมา จะได้ตามหาผู้ที่เป็นเจ้าของให้มารับผิดชอบได้
แม้กระทั่งการปกป้องสัตว์เลี้ยงของตนเองและสามารถตามหาได้เมื่อเกิดการสูญหาย เป็นความพยายามที่จะควบคุมจัดการดูแลขึ้นทะเบียนสัตว์เพื่อจัดระเบียบและสร้างความรับผิดชอบแก่เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ผ่านมาทั้งการออกกฎหมายและการรณรงค์ทั่วไปโดยมูลนิธิเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ
ทำให้มีมาตรการในการดูแลป้องกันแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดออกมามากมาย
ทั้งนี้ เทคโนโลยี AI กำลังถูกนำมาใช้เพื่อติดตามค้นหาสุนัขจากปัญหาต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าที่ใช้กับมนุษย์ที่นำไปใช้กับสุนัข
เมกวี (Megvii) บริษัทสตาร์ตอัพรายใหญ่ของจีน ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ AI และระบบจดจำใบหน้าสำหรับนำไปใช้งานกับกล้องวงจรปิด ด้วยการเพิ่มความสามารถใช้งานจดจำรูปจมูกของสุนัขที่เปรียบเหมือนกับลายนิ้วมือของมนุษย์นั่นเอง
เทคโนโลยีจดจำใบหน้านี้เริ่มนำมาใช้แพร่หลายกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น จากแนวคิดนี้เป็นแบบเดียวกับที่ทีมนักวิจัยได้นำเทคโนโลยี AI มาใช้กับการติดตามสัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์
บริษัท Megvii แต่เดิมอาจจะเป็นที่รู้จักจากแอพพลิเคชั่นเฟซพลัสพลัส (Face++) ได้ทำการต่อยอดเทคโนโลยีของตัวเองด้วยการพัฒนาแอพพลิเคชั่นระบุตัวสุนัขด้วยจมูก โดยแสดงให้เห็นว่าจมูกของเจ้าสุนัขแต่ละตัวนั้นมันมีลักษณะรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป โดยจะทำการบันทึกรูปถ่ายจมูกของสุนัขในหลายๆ มุมไว้ คล้ายกับการตัวตนคนเราด้วยลายนิ้วมือ
จากการเพิ่มขีดความสามารถใหม่นี้เพื่อนำเทคโนโลยีมาช่วยตามหาสุนัขหายด้วยการใช้ภาพถ่ายจากรูปจมูกของสุนัขเท่านั้น ซึ่งจมูกของสุนัขนั้นจะมีลักษณะเด่นของแต่ละตัวไม่เหมือนกัน
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีลักษณะนี้จะมีมาให้เห็นกันบ้างแล้วในสหรัฐ ที่ใช้แอพพลิเคชั่นไฟน์ดิ้งโรเวอร์ (Finding Rover) ระบบจดจำใบหน้ากับสัตว์ เพื่อใช้ตามหาสุนัขหรือแมวที่มีการแจ้งว่าหายไว้
แต่ในประเทศจีนแอพพลิเคชั่นที่จะพัฒนาอะไรขึ้นมาสักอย่างมันต้องครอบคลุมเพื่อความคุ้มค่ามากกว่า ครั้งนี้คงไม่ได้มีไว้เพื่อตามหาสัตว์เลี้ยงที่หายไปเฉยๆ เท่านั้น
ในเมื่อ Megvii ซึ่งพัฒนาระบบจดจำใบหน้าให้กับรัฐบาลจีนอยู่แล้ว ได้มีการเปิดเผยว่าแอพพลิเคชั่นนี้จะช่วยสอดส่องดูแลและระบุตัวตนผู้เลี้ยงสุนัข
ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ปล่อยให้สุนัขเดินในที่สาธารณะโดยไม่ล่ามสายจูงไว้
หรือผู้ที่ให้สุนัขถ่ายเรี่ยราดแล้วไม่เก็บอุจจาระ
เพื่อนำตัวเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ไร้ความรับผิดชอบเหล่านี้มาลงโทษปรับอีกด้วย
ประเทศจีนนอกจากจะมีประชากรจำนวนมากแล้วจำนวนสุนัขตามบ้านเรือนท้องถนนที่สาธารณะมีเยอะมากขึ้น โดยในปี 2018 เว็บไซต์ Goumin.com ออนไลน์ของสัตว์เลี้ยง ได้รายงานถึงประชากรสุนัขและแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงถึง 91.5 ล้านตัว
จากการที่ชาวจีนชนชั้นกลางที่มีกำลังทรัพย์จากการเติบโตทางธุรกิจเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกปี ทำให้เกิดปัญหาการเลี้ยงสัตว์ถูกปล่อยปละละเลย
สำหรับการใช้งานนั้นไม่ยาก แค่โหลดแอพพ์ของ Megvii จากนั้นก็ทำการลงทะเบียนน้องหมาของคุณ ด้วยการใช้กล้องถ่ายรูปจมูกของสุนัขเอาไว้ โดยแอพพ์จะให้เราถ่ายรูปหลายๆ มุม จากนั้นนำข้อมูลมาประมวลผลรวมกันสร้างเป็นเหมือนลายนิ้วมือขึ้นมา
ทาง Megvii ระบุว่าระบบของเขามีความแม่นยำถึง 95%
ตอนนี้มีผู้ใช้งานลงทะเบียนสัตว์เลี้ยงผ่านแอพพ์แล้วมากกว่า 15,000 ตัว
เทคโนโลยี AI นอกจากจะช่วยตามหาสุนัขหายแล้ว ทางภาครัฐเองยังใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบคุณภาพการเลี้ยงของเจ้าของด้วย
หากใครปล่อยหมาไม่คอยดูแลหรือปล่อยปละละเลยให้ออกมาเพ่นพ่านในที่สาธารณะก็จะต้องถูกปรับทันที
ถึงแม้เทคโนโลยีจะช่วยแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง
แต่ก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
ทุกคนต้องยอมรับว่ามันอยู่ที่สามัญสำนึกเบื้องต้นในความรับผิดชอบของเจ้าของในการดูแลสุนัขเป็นอันดับแรก
ผู้เลี้ยงควรเอาใจใส่ดูแลด้วยการทำหมัน ฉีดวัคซีน
ควบคุมดูแลการเลี้ยงสุนัข ไม่ปล่อยสุนัขในที่หรือทางสาธารณะ เพื่อไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้คนทั่วไป
การแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดสัตว์เลี้ยงจึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนทั้งในแง่กฎหมายและทางสังคม
ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันหาทางออกด้วยเหตุและผลที่เหมาะสมคงจะดีกว่า
ที่มา
https://www.abacusnews.com/future-tech/move-over-humans-startup-making-facial-recognition-pets/article/3018307