ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12 - 18 กรกฎาคม 2562 |
---|---|
ผู้เขียน | เสถียร จันทิมาธร |
เผยแพร่ |
วิถีแห่งกลยุทธ์ เหมยฉางซู/เสถียร จันทิมาธร
คำประกาศ ณ ตำหนักอู่อิง (1)
เหตุเกิดในงานพระราชพิธีฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพ ณ พระตำหนักอู่อิง ท่ามกลางบรรยากาศอันขรึมขลังอันกรมพิธีการจัดระเบียบวาระและข้อกำหนด
จักรพรรดิเหลียงประทับนั่งในท่ามกลางพระบรมวงศานุวงศ์และขุนนางอำมาตย์
ขณะมาถึงรjายบทกวีเพื่อเทิดพระเกียรติของเหล่าเชื้อพระวงศ์และขุนนางชั้นสูงทีละคนโดยมีไท่จื่อเป็นผู้นำขบวน
บรรยากาศเปลี่ยนเป็นผ่อนคลายชื่นมื่น
พระขนิษฐาลี่หยางขยับปลายแขนเสื้อสีอ่อนจาง จัดผ้าคลุมผมเบาบางสีดำที่คลอเคลียข้างแก้มตลบขึ้นไปด้านหลังศีรษะ
สีหน้าซีดขาวแต่ดวงตานิ่งลึก
หลังจากลอบสบสายตากับเซียวจิ่งเหยียน รัชทายาทไม่นาน นางก็ลุกขึ้นยืนช้าๆ กระโปรงยาวพลิ้วไหวเบาๆ คนก็นวยนาดออกมาด้านนอกฉากกั้นสีทอง ก่อนเยื้องกรายถึงพรมหน้าพระที่นั่งแล้วหยุดยืนแช่มช้อย
เมื่อเงาร่างของนางปรากฏขึ้น ทั่วทั้งโถงใหญ่พลันบังเกิดเป็นความเงียบกริบ ทุกคนอดชะงักตะเกียบและจอกสุรามิได้
ดวงตาเบิกกว้างจับจ้องไปที่นาง
หม่อมฉันไร้ความสามารถเชิงอักษร ไหนเลยจะเสกสรรบทกวีได้ ฝาพระบาทโปรดประทานอภัยโทษ หม่อมฉันขออาศัยวโรกาสอันดีงามต่อหน้าผู้มีเกียรติประกาศความผิดมหันต์ของเซี่ยอวี้ที่หลอกลวงเจ้านายเหนือหัวและปรักปรำขุนนางภักดีจนถึงแก่ความตาย
หม่อมฉันทำให้พระองค์รงตื่นตระหนก มีโทษสมควรตาย ทว่าความผิดของเซี่ยอวี้ฉกาจฉกรรจ์ท่วมฟ้า ทวยเทพทวยราษฎร์ร่วมประณามด่าทอ
หม่อมฉันมิอาจปิดบัง หากไม่ประกาศต่อเบื้องพระพักตร์เกรงว่าอาจถูกลงทัณฑ์จากสวรรค์
13 ปีก่อน เซี่ยอวี้สมคบคิดกับเซี่ยเจียงให้บัณฑิตคนหนึ่งลอกเลียนลายมือของแม่ทัพใหญ่เนี่ยเฟิง ปลอมแปลงจดหมายขึ้นมาฉบับหนึ่งเพื่อใส่ความว่าขุนทัพหลินก่อการกบฏกระทั่งกลายเป็นคดีใหญ่สะเทือนฟ้า การปิดบังและลวงหลอกเจ้านายเหนือหัวนี้เป็นความผิดประการที่ 1
เพื่อให้เนื้อความที่ปรักปรำเป็นจริง เซี่ยอวี้ลอบจุดเพลิงปิดล้อมหุบเขาปลิดวิญญาณบีบคั้นให้ทัพของเนี่ยเฟิงเข้าสู่จุดอับจนต้องประสบกับความพ่ายแพ้อย่างยับเยิน ทั้งยังให้ร้ายป้ายสีว่าเป็นคำสั่งของขุนทัพหลิน นี่เป็นความผิดประการที่ 2
เซี่ยอวี้อาศัยฐานะในกองทัพสำรวจสถานการณ์การรบของแนวหน้าและความเคลื่อนไหวของทัพอัคคีแดง จากนั้นเพ็ดทูลว่าขุนทัพหลินจะยกทัพบุกนครจินหลิง หลอกเอาตราอาญาสิทธิ์จากฝ่าบาทร่วมมือกับเซี่ยเจียงยกทัพสู่ภูเหมยหลิง ฉวยโอกาสที่ทัพอัคคีแดงเพิ่งผ่านศึกอันดุเดือดกับทัพใหญ่แห่งแคว้นต้าอวี๋จนสิ้นเรี่ยวหมดแรง ไม่มีการประกาศราชโองการ ไม่มีการแจ้งให้ยอมแพ้ก็เคลื่อนพลบดขยี้ ทำให้ 70,000 วิญญาณผู้ภักดีต้องทอดซากอยู่เหนือภูเหมยหลิง
หลังเหตุการณ์นั้นยังใส่ความว่าผู้ถูกทำร้ายฝ่าฝืนราชโองการไม่อาจไม่กำจัดให้สิ้นซาก นี่เป็นความผิดประการที่ 3
หลังการสังหารหมู่ที่ภูเหมยหลิง เซี่ยเจียงและเซี่ยอวี้ก็ใช้ประโยชน์จากป้ายทองและตราประทับประจำตัวของขุนทัพหลินปลอมแปลงจดหมายติดต่อขึ้นมาเพื่อสร้างหลักฐานที่บ่งชี้ว่าการก่อกบฏของทัพอัคคีแดงมีฉีหวังเป็นผู้บงการเพราะต้องการบีบให้ฝ่าพระบาทสละราชสมบัติ ส่งผลให้ฉีหวังต้องแบกรับความผิดที่ไม่ได้ก่อถูกอาญาประหารทั้งบ้าน นี่เป็นความผิดประการที่ 4
หลังสร้างคดีปรักปรำสำเร็จ เซี่ยอวี้กับเซี่ยเจียงก็อาศัยอำนาจทางทหารปิดสกัดทุกหนทางไม่ให้มีการยื่นฎีกาคำฟ้อง คนที่พอรู้เรื่องความนัยและยังไม่ล้มเลิกความคิดยื่นฎีกาก็ถูกกำจัดไปทีละรายสองราย
ดังนั้น คำฟ้องไม่เคยเข้าถึงพระกรรณ นี่เป็นความผิดประการที่ 5
เป็นการกราบทูลยาวเหยียด ณ เบื้องพระพักตร์ของฮ่องเต้ เป็นการกราบทูลทั้งๆ ที่ไม่เพียงแต่ลี่หยางจะเป็นพระขนิษฐาของฮ่องเต้
หากที่สำคัญ เซี่ยอวี้ยังเป็นบิดาของบุตร 3 คนอันเกิดจากนาง
เป็นการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาในขณะที่ก่อนหน้านี้เซี่ยอวี้เป็นขุนนางระดับโหวรับผิดชอบกรมลาดตระเวน ก่อนหน้านี้เซี่ยเจียงเคยเป็นเจ้าสำนักส่องอธรรม
ล้วนเป็นมือไม้ของฮ่องเต้
เป็นการรื้อฟื้นทั้งๆ ที่รู้ว่าอำนาจอันแข็งแกร่งของฮ่องเต้ที่ดำรงมาอย่างแข็งแกร่งมั่นคงยาวนานกว่า 13 ปีอยู่บนรากฐานของปฏิบัติการร่วมของเซี่ยอวี้ เซี่ยเจียง
เป็นการรื้อฟื้นที่แม้ว่าฮ่องเต้จะต้องรับผิดชอบ แต่ก็โดยความรู้เห็นของไท่จื่อ รัชทายาท
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น การออกโรงของพระขนิษฐาลี่หยางเป็นไปตามแผนที่เหมยฉางซูจัดวางและดำเนินกลยุทธ์อย่างรอบคอบรัดกุม
นี่คือผลงานอย่างเป็นรูปธรรมของนักวางแผน กำหนดกลยุทธ์