ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 28 มิถุนายน - 4 กรกฎาคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | สำเริงคดี |
เผยแพร่ |
ผู้สืบทอด
หมู่นี้แองเจลีนาทำเรื่องให้อดีตสามี…แบรด พิตต์ โทสะกระฉูดได้ทุกบ่อย
เป็นต้นว่า ทั้งๆ ที่ความหย่าก็คาศาลอยู่ นางยังยื่นคำร้องให้ศาลพิพากษาว่า “โสด” แล้ว (จ้า) และอนุญาตให้นางใช้ชื่อสกุลเดิมคือ “โจลี” ได้เลย
อีกเรื่องคือแองจี้เปลี่ยนชื่อมูลนิธิเพื่อการกุศลของนางในกัมพูชาเป็น “THE MADDOX JOLIE-PITT FOUNDATION” เพื่อเป็นเกียรติแก่แมดดอกซ์ ลูกชายบุญธรรมเลือดเขมร
แต่เหล่านี้ก็มิได้ทำให้แบรดฉุนขาดเท่ากับการที่นางจะยกธุรกิจมูลค่า 116 ล้านดอลลาร์ให้ลูกชายคนโตวัย 17 ปี…แมดดอกซ์แต่เพียงผู้เดียว
ธุรกิจที่ว่าก็คือบริษัทโปรดักชั่น “JOLIE PAS” ซึ่งเคยทำหนังดังออกมาแล้วหลายเรื่อง ทั้งแบบดังได้เข้าชิงออสการ์อย่าง UNBROKEN
และดังแบบเฟอะฟุบฟ่อบแฟ่บอย่าง BY THE SEA ที่แองจี้เล่นคู่กับแบรดในช่วงรักหน่ายคลายเกลียว
นางก์ เลย์ วัย 65 ผู้สมาชิกของวัดพุทธเขมรในลองบีช ซึ่งแองจี้พาลูกๆ ไปบ่อยในห้วง 2 ปีหลังนี้บอกว่า “ฉันได้ยินว่าแมดดอกซ์จะเป็นคนดูแลบริษัทสร้างภาพยนตร์ของแองเจลีนา เพราะว่าเธอต้องการให้เขาสืบทอด”
ตอนที่แมดดอกซ์อายุแค่ 15 เขาก็ได้เครดิตเป็น EXECUTIVE PRODUCER ของหนังเรื่อง FIRST THEY KILLED MY FATHER แล้ว มันเป็นหนังที่เล่าเรื่องราวชาวเขมรภายใต้การปกครองที่เหี้ยมโหดโฉดทารุณของคอมมิวนิสต์เขมรแดงในกัมพูชา
“แมดดอกซ์เป็นคนฉลาด เขาเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อจะได้ขึ้นเป็นบอสใหญ่กิจการสร้างภาพยนตร์ของแม่” นางก์แจงเจรจา
แต่พระเอกวัย 55 แบรดมองฉีกมุมไปว่า นี่เป็นอีกคราที่แองจี้มุ่งร้ายเขา แบรดคิดว่าน่าจะมีใครไปเตือนสติแองจี้ว่าเธอยังมีลูกอีก 5 คน ทั้งแพกซ์ 15, ซาฮารา 14, ไซโลห์ 12, นอกซ์กับวิเวียน คู่แฝดวัย 10 ขวบด้วย
แต่แองจี้อาจคิดว่าลูกคนอื่นๆ เข้ากับแบรดได้ดี หากเธอไม่อยู่ ลูกๆ เหล่านั้นพึ่งพ่อได้ ขณะที่แมดดอกซ์ซึ่งมีเรื่องปะทะปะทุกับแบรดบนเครื่องบินเมื่อเดือนกันยายน 2016 จะไม่มีใครอีก…ก็เป็นได้
“แมดดอกซ์เข้าข้างแม่ตลอดมาในเรื่องหย่า แล้วตอนนี้เธอก็ยกให้เขาเป็นผู้สืบต่ออาณาจักรภาพยนตร์ของเธอ” วงในเล่าแหลง
“สุขภาพที่เสื่อมทรุดลงอย่างมากเป็นอีกเหตุผลที่ดาวดังแห่ง MALEFICENT ตัดสินใจพึ่งพิงลูกชาย (บุญธรรม) คนโต”
แม้การผ่าตัดขจัดโอกาสเกิดมะเร็งจะได้ผลดี แต่แองจี้ก็ยังทุกข์ตรมด้วยโรคอัมพาตแบบหน้าเบี้ยว หรือ Bell”s Palsy
ขณะที่เพื่อนฝูงกังวลบ่นว่าแองจี้ไม่ถนอมตัวเลย น่ากลัวว่าเธอจะเป็นโรคอะนอเร็กเซีย หรือไม่ก็อวัยวะล้มเหลวเข้าสักวัน
“น้ำหนักตัวเธอลดรูดลงมาเหลือแค่ 92 ปอนด์ (ราว 42 กิโล) และนับวันเธอก็ต้องพึ่งพาแมดดอกซ์มากขึ้นเรื่อยๆ”
เมาธ์กันว่าทั้งๆ ที่ผอมผ่ายคล้ายป่วยไข้อยู่ยามนี้ แองจี้ก็มีคู่เดตคนใหม่ เป็นเศรษฐีหนุ่มที่การเมืองก็โดน การกุศลก็เพียบ
เขาคนนี้ช่วยโยงแมดดอกซ์กับระดับท็อปของมหาวิทยาลัยทั้งในชิคาโกและนิวยอร์ก
เพื่อปูทางการเรียนต่อคอลเลจของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้เธอ