การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

Ultraman Netflix (2)

 

ชินจิโร่ ลูกชายของฮายาตะพลัดตกจากชั้นสูงของพิพิธภัณฑ์อุลตร้าแมนลงไปพื้นข้างล่างแล้วแน่นิ่งไป ฮายาตะและอิเดะวิ่งตามลงไปดูพบว่าชินจิโร่ไม่เป็นอะไรมาก ฮายาตะเห็นเช่นนั้นจึงรีบพาลูกชายกลับบ้าน

คืนนั้นฮายาตะกลับมาพบอิเดะที่พิพิธภัณฑ์อีกครั้งหนึ่ง เขาบอกแก่อิเดะว่าเขาสูญเสียความทรงจำ เขาจำอะไรเกี่ยวกับอุลตร้าแมนไม่ได้เลย อิเดะจึงเปิดคลิปข่าวเครื่องบินระเบิดกลางอากาศเมื่อหกเดือนก่อนให้เขาดู อิเดะเล่าว่า ในตอนแรกเราคิดว่าเป็นก่อการร้าย แต่ที่จริงไม่ใช่

ว่าแล้วอิเดะขยายภาพควันระเบิดกลางอากาศให้ฮายาตะเห็น ที่เห็นเป็นเงาร่างลอยอยู่กลางอากาศนั้นคล้ายอุลตร้าแมน ฮายาตะตื่นตระหนกกับภาพที่เห็น ความจำบางส่วนหวนคืนมา เขาบอกว่าเขาจำไม่ได้ว่าตนเองคืออุลตร้าแมน ในขณะที่อิเดะบอกว่าทุกคนในหน่วยวิทยะรู้

ดูถึงตอนนี้จึงคลายข้อสงสัยที่เก็บงำมานานกว่าห้าสิบปี ฮายาตะวิ่งหนีออกจากสถานการณ์คับขันไปชูเบต้าแคปซูลแล้วยอดมนุษย์ก็ออกมาสู้สัตว์ประหลาด ตอนที่สู้กันนั้นฮายาตะจะหายตัวไปทุกที พอยอดมนุษย์ปราบสัตว์ประหลาดได้แล้วบินจากไป ฮายาตะก็จะหวนคืนมา เป็นแบบนี้ทั้งหมด 39 ครั้ง

เด็กๆ ที่ดูยอดมนุษย์หน้าจอทุกสัปดาห์ยังรู้เลยว่าใครเป็นอุลตร้าแมน สมาชิกหน่วยวิทยะจะไม่รู้ได้อย่างไร สร้างความรำคาญใจแก่เราเป็นอันมาก

วันนี้สบายใจแล้ว ที่จริงทุกคนรู้

 

อิเดะพาฮายาตะไปดูเบื้องหลังของพิพิธภัณฑ์ ที่แท้แล้วหน่วยวิทยะยังคงอยู่ อิเดะอธิบายว่าเพราะฮายาตะได้รับยีนของอุลตร้าแมนมาและส่งต่อให้ชินจิโร่ ชินจิโร่จึงมีพลังพิเศษด้วย หน่วยวิทยะดำเนินงานอย่างลับๆ เพื่อปกป้องพ่อ-ลูกและยีนอุลตร้าแมนเอาไว้

เวลาผ่านไปอีกสิบปี ชินจิโร่เติบโตเป็นหนุ่ม เขากระโดดข้ามหลายตึกได้แต่เก็บงำความสามารถนี้เอาไว้ไม่บอกพ่อรู้ คืนหนึ่งขณะที่เขานั่งเหม่ออยู่บนคัตเอาต์ขนาดใหญ่ เอเลี่ยนตนหนึ่งก็ปรากฏตัว

มันคือเอเลี่ยนที่ระเบิดเครื่องบิน มันใส่ชุดเกราะแหลม และมันไม่ใช่อุลตร้าแมน

ชินจิโร่กระโดดเหินหาวหลายครั้งหนีมันไปจนถึงลานโล่งกว้างของสนามกีฬา เอเลี่ยนเสื้อเกราะบินตามมาไม่ลดละ ฮายาตะในชุดสูทพลังร่อนลงจากเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยวิทยะมาขวางเอเลี่ยนนั้นไว้ ฮายาตะโยนชินจิโร่ขึ้นบนท้องฟ้า ชินจิโร่ใช้พลังอุลตร้าดีดตนเองเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ที่ซึ่งอิเดะรออยู่ได้

เอเลี่ยนนั้นพุ่งเข้าใส่ฮายาตะซึ่งบัดนี้ทั้งสูงอายุและผมเป็นสีขาวหมดแล้ว หลังจากการต่อสู้เอาเป็นเอาตายได้สักพัก ฮายาตะก็เพลี่ยงพล้ำถูกเอเลี่ยนนั้นกะซวกท้องทะลุหลังเลือดกระอักปากล้มลง

ชินจิโร่กลับลงมาจากฟ้า ชูกำปั้นขึ้นเหมือนเมื่อครั้งที่พ่อแปลงร่างเป็นยอดมนุษย์ ชุดสูทอุลตร้าแมนจากหน่วยวิทยะถูกถ่ายโอนมาหาชินจิโร่ ดีเอ็นเอของเขาหลอมรวมกับดีเอ็นเอของอุลตร้าแมน นี่คืออุลตร้าแมน 2019 ขนาดเท่าคนจริงในชุดเกราะลายอุลตร้าพร้อมแถบเรืองแสงที่ปลายแขนทั้งสองข้าง

อุลตร้าแมนชินจิโร่สู้เอเลี่ยนร้ายกาจมิได้ อิเดะจึงบอกให้เขาตั้งข้อมือซ้ายขนานกับพื้น วางข้อมือขวาตั้งฉากแล้วประกบลงบนข้อมือซ้าย นี่คือแสงสเปเชี่ยมทำลายล้าง เสียงระเบิดกึกก้องควันโขมง เอเลี่ยนเพียงแขนขาดไปข้างหนึ่ง

แต่นั่นก็เพียงพอให้มันถอยไป

 

ฮายาตะนอนจอมกองเลือดแต่ไม่ตาย (คงเพราะดีเอ็นเอของยอดมนุษย์กระมัง) ส่วนชินจิโร่หมดพลังล้มลงแล้วไปฟื้นที่โรงพยาบาล มีเอเลี่ยนหัวยาวสีดำตาเดียวใส่สูทเรียบร้อยรอเขาตื่น อิเดะเดินเข้ามา ที่แท้ทั้งสองรู้จักกัน

เอเลี่ยนดำตาเดียวแนะนำตนเองว่าชื่อเอโดะ คือมนุษย์ดาวเซ็ตตันที่เคยส่งสัตว์ประหลาดมาทำลายโลกเมื่อหลายสิบปีก่อน ดังที่ปรากฏในยอดมนุษย์ตอนที่ 39 ตอนอวสาน ซึ่งการ์ตูนที่รักฉายให้ชมครั้งที่แล้ว

เอโดะเล่าว่า หลายสิบปีที่โลกสงบสุขเพราะเอเลี่ยนดวงดาวต่างๆ ทำสนธิสัญญาสงบศึกและเกิดสมาพันธ์ระหว่างดวงดาวขึ้น วันนี้มีเอเลี่ยนมากมายในคราบมนุษย์อาศัยอยู่บนโลก (เหมือนที่เห็นใน Men in Black MIB) แต่ภัยร้ายใหม่กำลังเกิดขึ้น มันคือเอเลี่ยนที่ฮายาตะและชินจิโร่ปะทะด้วย ชื่อของมันคือ Bemular

ดูถึงตรงนี้เราไปค้นนามานุกรมสัตว์ประหลาดของยอดมนุษย์อีกครั้งหนึ่ง สัตว์ประหลาดตัวที่ 1 ในตอนที่ 1 ของหนังทีวียอดมนุษย์ยุค 60 คือมันนั่นเอง เบมิวลาร์ ห้าสิบปีก่อนมันมิใช่ฮิวแมนนอยด์ใส่เสื้อเกราะแหลมแบบวันนี้ มันคือไคจูดั้งเดิมในชุดยางจริงๆ มันสูง 50 เมตร หนัก 25,000 ตัน คือสัตว์ประหลาดสไตล์ก๊อดซิลล่าแท้ๆ

ว่าแล้วเรามาเปิดดีวีดียอดมนุษย์ยุค 60 ตอนที่ 1 ใหม่ ชื่อตอนว่า Operation Ultraman No.1

 

เนื่องจากเป็นตอนปฐมฤกษ์ หนังเปิดเรื่องด้วยคำบรรยายถึงหน่วยงานตำรวจวิทยาศาสตร์ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่ปารีสชื่อ International Science Police Organization ไม่รู้ตำรวจวิทยาศาสตร์ทำอะไรเหมือนกัน

สาขาญี่ปุ่นมีชื่อว่า Science Special Search Party ย่อว่า SSSP แปลไทยว่าหน่วยวิทยะ

ฮายาตะนำยานขึ้นบินสำรวจพบลูกทรงกลมสีแดงไล่ลูกทรงกลมสีน้ำเงิน ลูกทรงกลมสีน้ำเงินดิ่งลงไปในทะเลสาบ ลูกทรงกลมสีแดงชนยานของฮายาตะระเบิด ฮายาตะเป็น-ตายเท่ากัน

ทันใดนั้นเอเลี่ยนร่างยักษ์ในชุดยางลวดลายลายแดงปรากฏตัวขึ้น มันแนะนำตัวเองว่ามาจากเนบิวลา M78 และขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้ฮายาตะบาดเจ็บสาหัสปางตาย

มันขอชดใช้ด้วยการให้ร่างและชีวิตแก่ฮายาตะ พร้อมทั้งโยนเบต้าแคปซูลบนหน้าอกให้ฮายาตะใช้กดเรียกเมื่อถึงเวลา

ทรงกลมสีน้ำเงินนั้นคือสัตว์ยักษ์คล้ายกิ้งก่าเดินสองขา มันคือเบมิวลาร์ มันโผล่ขึ้นจากน้ำแล้วอาละวาดตามหน้าที่ หน่วยวิทยะและฮายาตะใช้ทั้งยานบินและเรือดำน้ำเด็กเล่นเข้าต่อสู้อย่างถึงพริกถึงขิงดึ๊กดั๊กๆ ไฟไหม้ในอ่างน้ำและอ่างปลาน่าดูชม ยานบินไม่ค่อยนิ่ง แต่เรือดำน้ำแล่นค่อนข้างนิ่ง ตอร์ปิโดยิงแล้วออกจะดุ๊กดิ๊กๆ เวลาพุ่งเข้าชนสัตว์ประหลาด

เมื่อคับขันถึงที่สุด ฮายาตะชูเบต้าแคปซูลแล้วยอดมนุษย์ก็กระโดดเข้ากอดรัดฟัดเหวี่ยงสัตว์ประหลาดในชุดยางอย่างเมามันทั้งบนบกและในน้ำเกิดเป็นคลื่นเล็กๆ ซัดพุ่มไม้เล็กๆ ตามชายฝั่งที่เอาทรายมาโรยไว้

พอถึงสามนาทีสุดท้าย เมื่อปุ่มไฟแจ้งเตือนหมดพลังกะพริบถี่ขึ้น ยอดมนุษย์จึงยกสัตว์ประหลาดทุ่มลงน้ำตามด้วยท่าปล่อยแสงสเปเชี่ยมทำลายมันเป็นจุณ

 

หลังจากดูหนังไปหลายสิบตอน พวกเราเด็กๆ ก็สงสัยมากว่าทำไมเวลายอดมนุษย์ออกมาแล้วไม่ทุ่มสัตว์ประหลาดแต่ละตัวตามด้วยสเปเชี่ยมทิ้งเสียเลยตั้งแต่แรก ทำไมต้องมาทำใกล้หมดเวลาทุกตอนๆ จนบัดนี้ก็ยังไม่มีคำตอบที่น่าพอใจ

เมื่อเบมิวลาร์ตายแล้ว เพื่อนๆ หน่วยวิทยะขอให้ฮายาตะตั้งชื่อสหายใหม่จากต่างดาวตนนี้หน่อย

ฮายาตะจึงตั้งชื่อให้ว่า “อุลตะระมัน” นับแต่นั้นเป็นต้นมา