คนของโลก : เอคเรม อิมาโมกลู นักการเมืองดาวรุ่งแห่งตุรกี

เอคเรม อิมาโมกลู กลายเป็นม้ามืดของวงการการเมืองตุรกีอย่างแท้จริง เมื่อสามารถคว้าเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครอิสตันบูล ด้วยคะแนนขาดลอยในการเลือกตั้งครั้งที่สองที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา

อิมาโมกลู ตัวแทนพรรคฝ่ายค้านอย่างรีพับลิกันพีเพิลส์ปาร์ตี้ (ซีเอชพี) ชนะเลือกตั้งนายกเทศมนตรีครั้งแรกไปเมื่อเดือนเมษายน เฉือนชนะตัวแทนจากพรรคพีเค พรรครัฐบาลอย่างพรรคเอเคพี ของประธานาธิบดีเรเจพ เทยิพ แอร์โดอาน ไปได้

อิมาโมกลูดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีได้เพียง 18 วันก่อนถูกคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ถูกมองว่าเอียงข้างรัฐบาลประกาศให้การเลือกตั้งครั้งดังกล่าวเป็นโมฆะ

แม้จะถูกเล่นงานจาก กกต.ตุรกี แต่อิมาโมกลูกลับได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน มีผู้ติดตามทวิตเตอร์จากเดิม 350,000 คน กลับพุ่งขึ้นมากกว่า 2.5 ล้านคนในช่วงเวลาไม่กี่เดือน

นั่นส่งผลให้การเลือกตั้งครั้งที่ 2 อิมาโมกลูกลับคว้าชัยชนะไปได้อย่างใสสะอาดด้วยคะแนนที่สูงยิ่งกว่าเดิม และนับเป็นการสิ้นสุดยุคการปกครองอิสตันบูลของพรรคเอเคพี ที่กินเวลายาวนาน 25 ปีลง

 

ชัยชนะของนักการเมืองวัย 49 ปีผู้นี้นับเป็นการ “เสียรังวัด” ครั้งใหญ่ของพรรคเอเคพี พรรครัฐบาลที่ครองเสียงข้างมากในการเมืองระดับประเทศ เมื่อตำแหน่ง “นายกเทศมนตรีนครอิสตันบูล” นั้นถูกมองว่าเป็นเส้นทางที่ทอดไปสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีตุรกี อย่างที่ “แอร์โดอาน” เคยเดินมาก่อนแล้ว

อิมาโมกลูเกิดในปี 1970 ใน “เมืองแทร็บซอน” เมืองชายฝั่งทะเลดำ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของตุรกี จบปริญญาตรีด้านการจัดการธุรกิจ ก่อนจบปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยอิสตันบูล

อิมาโมกลูทำงานในธุรกิจครอบครัวด้านการก่อสร้าง ก่อนเข้าทำงานด้านการเมืองเมื่อกว่า 10 ปีก่อน และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกเทศมนตรี “เขตเบย์ลิคดูซู” ย่านคนรวยทางตะวันตกของนครอิสตันบูลได้เมื่อปี 2014 บทบาทการเมืองแรกซึ่งได้รับความชื่นชมถึงความสามารถในการบริหารงาน

อิมาโมกลูมีความชื่นชอบฟุตบอลเช่นเดียวกับประธานาธิบดีแอร์โดอาน ผู้ที่เคยเป็นนักฟุตบอลกึ่งอาชีพในวัยเด็ก ขณะที่อิมาโมกลูนั้นเคยเป็นนักเตะสมัครเล่น

และยังคงมีสายสัมพันธ์อันดีกับทีม “แทร็บซอนสปอร์” ทีมอันดับ 4 ของตุรกีซูเปอร์ลีกา ลีกสูงสุดของตุรกี

 

อิมาโมกลู นักการเมืองหน้าใหม่ที่ไม่มีใครรู้จัก สร้างความประหลาดใจตั้งแต่การคว้าตั๋วเป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีอิสตันบูล เหนือ “มูฮาเร็ม อินซ์” นักการเมืองชื่อดัง ผู้เคยเป็นตัวแทนชิงตำแหน่งประธานาธิบดีตุรกีเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา

ด้วยเทคนิคการหาเสียงด้วยการลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างเป็นกันเอง บุคลิกสุภาพเป็นมิตร ต่างจากบุคลิกนักการเมืองส่วนใหญ่ที่เน้นความดุดัน เกรี้ยวกราด กลายเป็นข้อได้เปรียบเหนือ “บินาลี ยิลดิริม” ตัวแทนจากพรรคเอเคพี ขณะที่ประสบการณ์ 18 วันของอิมาโมกลูในตำแหน่งนายกเทศมนตรี ถูกนำมาใช้ในการตีแผ่การใช้งบประมาณอันฟุ่มเฟือยของภาครัฐ

“อิมาโมกลูเป็นชายที่มีความเป็นธรรมชาติผู้ที่สามารถพูดคุยกับผู้คนได้ง่ายๆ” ซิลัน คาราเคิร์ต ช่างภาพวิดีโอสำหรับสื่อโซเชียลมีเดีย ระบุถึงบุคลิกของอิมาโมกลู ที่มักจะถ่ายเซลฟี่กับผู้คนริมถนน ในคาเฟ่และร้านอาหารในนครอิสตันบูล

และว่า “ไม่ใช่ผู้สมัครทุกคนจะสามารถทำสิ่งนี้ได้”

 

การสื่อสารทางการตลาดของอิมาโมกลู ก็มีความหลักแหลม โดยเฉพาะการเลือกสโลแกนของพรรคในการหาเสียงครั้งใหม่ก่อนได้รับชัยชนะ

“ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี” สโลแกนหาเสียงของพรรคเป็นคำพูดของเด็กชายวัย 13 ปี ที่เรียกกันว่า “เบอร์เกย์” เด็กชายที่วิ่งตามรถบัสหาเสียงของอิมาโมกลู และตะโกนประโยคดังกล่าว

แนวทางการหาเสียงที่ว่าได้รับการตอบสนองอย่างดีจากภาคธุรกิจ รวมไปถึงศิลปิน ที่ก่อนหน้านี้มักจะกลัวที่จะท้าทายพรรครัฐบาล บวกกับการที่อิมาโมกลูเป็นชาวมุสลิม ก็ส่งผลให้คะแนนนิยมของพรรคไม่อิงศาสนาอย่างซีเอชพีเพิ่มสูงขึ้นอีกมาก

ชัยชนะของอิมาโมกูล กลายเป็นความหวังของพรรคซีเอชพีในสังเวียนการเมืองที่เป็นรองมาตลอด 17 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีตุรกีครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นอีกครั้งในปี 2023

ทว่า อิมาโมกูลก็ยังคงไม่ได้มองไกลถึงอนาคตของตัวเอง เมื่อมีผู้สื่อข่าวถามถึงความเป็นไปได้ในการชิงเก้าอี้ผู้นำประเทศ

“เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์” อิมาโมกลูระบุ