อสังหาฯ ปีระกา เชื่อว่าปี 2560 จะไม่มีอะไรแย่ลงกว่าปี 2559

สิ้นปี 2559 วงการอสังหาริมทรัพย์เหลียวหน้าแลหลัง ก็พอรู้ว่า ตัวเลขผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฯ และนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ได้สวยงามเท่ากับสิ้นปี 2558 นัก

ยอดจองใหม่ลดลง ยอดรายรับไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะมาเจอฤทธิ์การปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ

แต่กระนั้นก็ยังไม่หนักหนาสาหัสถึงขั้นที่จะทำให้เกิดอาการซวดเซ ขาดสภาพคล่องแต่อย่างใด

ไม่ป่วย เพียงแต่สวยน้อยกว่าเดิมนิดหน่อยแค่นั้นเอง

ปีหน้า 2560 เดาได้ไม่ยากว่า เรื่องใหญ่คือการทำตลาดคอนโดมิเนียมสร้างแล้วเสร็จเหลือขาย เพราะมีปริมาณมากน่าดู ทั้งจากการขายไม่หมดตั้งแต่แรก รวมกับที่ลูกค้าถูกปฏิเสธปล่อยกู้โครงการต้องรับกลับมาขายใหม่

สินค้าเหลือขายเหล่านี้ ค่าใช้จ่ายการตลาดถูกใช้จ่ายไปแล้วตามงบประมาณที่กำหนดไว้แต่ต้น เมื่อจะนำมาขายใหม่ก็ต้องมีต้นทุนการตลาดใหม่เพิ่มขึ้น จะจัดสรรกันอย่างไร โปรโมชั่นจะทำอย่างไรจึงจะทำให้คนตัดสินใจซื้อ

ถ้าเป็นบริษัทอสังหาฯ ขนาดใหญ่มีจำนวนโครงการมากมีเงินทุนหนา มีบางรายตัดสินใจดำเนินการ “คัตลอส” ขายขาดทุน เพื่อนำเงินสดกลับเข้ามาที่บริษัท ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดการสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นในตลาดต่างจังหวัดหลายจังหวัด

แต่สำหรับบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก คงทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะจะกระทบถึงตัวเลขกำไรขาดทุนในบรรทัดสุดท้ายของงบการเงิน ต้องหาวิธีการที่เหมาะสมกับตัวเอง

 

โครงการแนวราบ หากดูจากแผนงานของบริษัทอสังหาฯ จะเห็นว่า ปีหน้า 2560 ต่างเบนเป้าหมายมาที่โครงการแนวราบกันเป็นจำนวนมาก เพราะรู้ๆ กันว่า ตลาดคอนโดฯ แข่งขันสูง

แต่ตลาดแนวราบดูเหมือนจะไม่ยาก แต่ความจริงจะพบว่า แม้แต่บริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ทางด้านคอนโดมิเนียม มาลงตลาดแนวราบโครงการแรกๆ ก็มักพบปัญหายอดขายไม่เดินหน้าตามเป้าสักเท่าไหร่ เพราะโปรดักต์ยังไม่ลงตัว

แต่สำหรับรายใหญ่ที่มีแบรนด์ย่อยหลากหลายครบทุกระดับราคาตลาด ก็จะปรับกลยุทธ์ธุรกิจได้คล่องตัวกว่า

 

ปีหน้า 2560 วงการอสังหาฯ จะเป็นอย่างไร

เหตุการณ์ใหญ่ที่ส่งผลกระทบมากที่สุดได้ผ่านไปแล้ว ที่จะเกิดขึ้นตามมาก็จะเป็นเพียงการคลีคลายของเรื่องราวต่างๆ เท่านั้น

จึงเชื่อว่าปี 2560 จะไม่มีอะไรแย่ลงกว่าปี 2559 ที่ผ่านไปแล้ว ปัญหาอุปสรรคต่างๆ ก็มองเห็นกันตั้งแต่ต้น น่าจะเตรียมตัวรับมือได้ไม่เกินความสามารถ

ส่วนแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจธุรกิจต่างๆ ทั่วโลก อันเนื่องจากเทคโนโลยีดิจิตอล ที่เรียกกันว่า Disruption ซึ่งจะทำลายรูปแบบธุรกิจเดิมๆ เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ขึ้นมานั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

การจะผ่านด่านนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการปรับตัวของแต่ละธุรกิจ เพราะจะเป็นทั้งหายนะและมหาโอกาสพร้อมๆ กัน

การเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์อยู่แล้ว

ขอให้โชคดีปีใหม่ ครับ