การ์ตูนที่รัก : One Night in One City คืนมืดหม่นในเมืองมืดมิด

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

ในเมืองที่มืดมิด ไม่มีอะไรจะดู แต่ละบ้านหาอะไรฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ

สำหรับบางเมือง หรือบางประเทศ ผ่านเดือนปีที่มืดมิดนานมาก นานเป็นร้อยปี เชโกสโลวะเกียเป็นหนึ่งในนั้น บ้านเรายังไม่รู้อีกกี่ปี

การ์ตูนจากสาธารณรัฐเช็ก ในชื่อภาษาอังกฤษ One Night in One City หรือ One Night in a City หรือ One Night in the City เป็นผลงานปี 2007 เขียนเรื่องและกำกับฯ โดย Jan Balej

หนังการ์ตูนของเช็กและสโลวักมีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ปี 1920 ผ่านยุคนาซีและคอมมิวนิสต์ครั้งที่ยังเป็นเชโกสโลวะเกีย เนื้อเรื่องและเนื้อหาส่วนใหญ่มืดหม่นเหมือนบ้านเมือง คือยุโรปตะวันออก แม้จะพ้นระบอบคอมมิวนิสต์มาเกือบ 20 ปีแล้ว คืนหนึ่งในเมืองหนึ่งก็ยังมืดหม่นอยู่

คืนหนึ่งในเมืองหนึ่งเป็นการ์ตูนพัพเพ็ทสต๊อปโมชั่นซึ่งเป็นงานถนัดของเช็กและสโลวักอยู่ก่อนแล้ว การออกแบบตัวละครแต่ละตัวดูน่าสยองมากกว่าน่ารัก แต่ต้องยอมรับว่า “สวย”

ฉากหลังคือที่พักอาศัยแบบยุโรปตะวันออก ไม่มีสีสัน มืดทึบ ซึมเซา คับแคบ เหมือนดั่งจะสำลักอากาศตายได้ดังที่ ฟรานซ์ คัฟคา เขียนไว้ในชีวประวัติของเขา

ใครไปปราก หากเดินออกจากเขตนักท่องเที่ยวเข้าตรอกซอกซอย ผ่านไปย่านชุมชนชาวยิว จะเข้าใจความรู้สึก “เหมือนดั่งจะสำลักอากาศตาย” ได้ดี

คืนหนึ่งในเมืองหนึ่ง สมมติว่าเหตุเกิดที่เขต Zizkov ไกลออกไปทางทิศตะวันออกของเขตเมืองเก่ากรุงปราก เล่าเรื่องชาวแฟลตโบฮีเมียนและงานอดิเรกสยองขวัญของแต่ละบ้าน นี่คือการ์ตูนดาร์คสยองที่น่ารักมากเรื่องหนึ่ง ไม่มีบทพูด มีเพียงเสียงงึมงำ และดนตรีประกอบ

หนังแบ่งเป็น 3 ช่วง แต่ละช่วงมีส่วนย่อยที่ดูคล้ายจะเชื่อมต่อหรือสัมพันธ์กันอยู่บ้าง ความสนุกอยู่ที่นักดูหนังแต่ละคนจับได้คนละประเด็น แล้วเลือกที่จะสร้างความสัมพันธ์หรือความเชื่อมโยงของประเด็นได้ตามใจชอบ

ใช้เวลาสร้าง 6 ปี ความยาวรวม 75 นาที ทุนสร้าง 700,000 ดอลลาร์สหรัฐ บางตอนหาดูได้ในยูทูบ รับรองว่าแปลกใหม่ไม่เหมือนสต๊อปโมชั่นทั่วไป

1nite1city

แฟลต 5 ชั้น อย่างที่เคยเห็นในกรุงปราก ค่ำคืนหนึ่ง มดฝูงหนึ่ง

ชายวัยกลางคนหิ้วกระเป๋าเดินขึ้นชั้นบน หยุดพักเหนื่อย ใบหน้าผอมซูบดูคล้ายหนังติดกะโหลก หัวเถิก ใส่แว่นหนา สวมเสื้อคลุมยาว หอบหายใจพลางล้วงเอากล่องกระดาษสีแดงเล็กๆ เก่าๆ ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ดูเหมือนจะเป็นของรักของหวง

บันไดเก่า แฟลตเก่า ฝาผนังเก่า หน้าต่างกระจกสีมัวซัว เสียงเอี๊ยดอ๊าดยามค่ำคืน

เข้ามาในห้องของตัวเอง ถอดเสื้อคลุมออกแล้วนั่งที่โต๊ะ โต๊ะคลุมด้วยผ้าขาว มีหนังสือพิมพ์ที่ได้มาจากรถไฟใต้ดินและมดที่ซ่อนอยู่ บนกำแพงห้องมีรูปแมลงหลายชนิดใส่กรอบ

โคลสอัพใบหน้าของเขาใกล้ชิด ไม่อยากเห็นก็ต้องดู เขาประกอบโรงละครสัตว์จำลองน่ารัก เปิดกล่องสีแดงใบเล็กใบนั้น หยิบซากแมลงตายหลายพันธุ์รวมทั้งแมงมุมออกมาวาง หยิบกระเป๋าเครื่องมือเปิดออก ภายในมีคีมคีบที่ออกแบบมาเพื่อสวมเข้ากับนิ้วมือ

งานอดิเรกของเขาคือคีบแมลงแต่ละตัวมาเล่นละครสัตว์

โหมโรง แมลงลอดห่วง แมลงมนุษย์ปืนใหญ่ ยิง! ตุ้ม! แมลงมนุษย์ปืนใหญ่ลอยขึ้นสูง ฟิ้ว! ส่งเสียงประกอบ เหมือนเด็กกำลังเล่น มดตัวหนึ่งเดินหลงเข้ามาในละครสัตว์ เขาหยิบหนังสือพิมพ์เมโทรฉบับนั้นฟาดตาย แล้วนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ต่อไป

เป็นคืนเหงาในเมืองเหงา ไม่มีอะไรจะทำจริงๆ

ฝูงมดเดินทะลุห้องถัดไป ตอนแรกเหมือนเดินในป่า มีพุ่มไม้ มีต้นไม้ หลังต้นไม้มีใบหน้าหนึ่งซ่อนอยู่ หากชายเล่นแมลงคนแรกว่าน่ากลัวแล้ว คนนี้เพี้ยนยิ่งกว่าอีก เขาสวมชุดนายพรานนั่งบนเก้าอี้ที่สมมติว่าเป็นห้าง กล้องส่องทางไกลพร้อม ปืนพร้อม

เสียงนกร้องคุกคู ที่แท้เป็นแผ่นเสียงที่เปิดไว้ มีหุ่นนก มีเป็ดลอยน้ำ มีหัวกวาง มีเห็ดเรืองแสง ที่แท้เป็นโคมไฟลายจุด เสียงหมีคำรามมาแต่ไกล ที่แท้มาจากลำโพงข้างกำแพง นั่นอะไร! หมีนอนหลับ ชายหน้าตาวิปริตหยิบลูกสนขว้างไปปลุกมัน เขาประทับปืนเล็งแล้ว มีมดตัวหนึ่งที่ปลายกระบอกปืน เสียเวลาเคาะมดทิ้งอีก

ฝูงมดเดินเป็นขบวนในเงามืดดูน่ากลัว หมีตายแล้ว

หญิงชราคนหนึ่งเปิดประตูออกมา ไม่รู้ว่าเป็นแม่หรือเป็นเมีย นายพรานเอาปืนเคาะร่างหมีที่นอนตาย มันลุกขึ้นแล้วเดินออกไป นายพรานถอนใจอย่างเบื่อหน่าย งานอดิเรกของเขาค่ำคืนนี้จบแล้ว

หญิงชรารูดซิบหนังหมีออก ภายในเป็นหมาตัวหนึ่ง หญิงชราจูงหมาลงมาถึงชั้นล่าง เด็กหญิงฝาแฝดในชุดกันฝนสีดำคู่หนึ่งเปิดประตูหน้าเข้ามาเดินผ่านหญิงชราขึ้นชั้นบน หญิงชรามองตาม ปล่อยหมาหลุดจากมือเข้าไปในห้องหนึ่งที่ชั้นล่าง

ชายที่ห้องชั้นล่างแต่งกายภูมิฐาน หัวเป็นรูปสี่เหลี่ยมตัดตรงด้านบน ดูเหมือนผีดิบที่แฟรงเกนสไตน์สร้าง เขาเชิญหญิงชราเข้าไปในห้อง ห้องของเขาตกแต่งเหมือนสตูดิโอถ่ายรูป บนฝาผนังเป็นรูปหมาหลายตัวติดกรอบรูปเรียบร้อยพร้อมเขียนชื่อสวยงาม เขาเอาขนมมาให้หญิงชรากิน มีมดตัวหนึ่งบนถาดขนม

ข้างหลังสตูดิโอเป็นเตาเผา ชายคนนี้ทำงานอะไรเตาเผามีไว้ทำอะไร สตูดิโอถ่ายรูปมีไว้ทำอะไร โปรดติดตาม

เด็กสาวฝาแฝดเดินเข้าไปในห้องหนึ่งพบชายเพี้ยนๆ คนหนึ่ง แม่บ้านคนหนึ่งใช้ชีวิตทำอาหารให้สามีและลูกสองคนกิน ลูกสองคนเล่นกับมดบนโต๊ะอาหารรอแม่บ้านเสร็จงานประจำจึงเตรียมอาหารพิเศษสำหรับลาที่เลี้ยงไว้หลังบ้าน เด็กสาวฝาแฝดกลับลงมาแล้ว

1nite1city2

ฉากสุดท้าย มดสามตัวรุมกินผงสีขาวบนโต๊ะ ชายผมยาวหน้ายาวดูไม่น่าไว้ใจหยิบหลอดขึ้นมา เขาสูดผงขาวและมดทั้งสามตัวหายเข้าไปในโพรงจมูกหมดสิ้น

จบเรื่องที่หนึ่ง ยิ่งดูยิ่งหลอน

เรื่องที่สอง เล่าเรื่องต้นไม้ต้นหนึ่ง ปลาตัวหนึ่ง ใช้ชีวิตสัมพันธ์กันและกันตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ ผ่านหน้าร้อน ใบไม้ร่วง และฤดูหนาวช่วงคริสต์มาส เรื่องนี้ไม่หลอนเท่าไรนัก

ก่อนจะหลอนอีกครั้งในเรื่องที่สาม เมื่อนักดนตรีหูตึงแก้ไขปัญหาเรื่องหูอย่างถึงที่สุด

เป็นงานที่ได้รับอิทธิพลจากผู้บุกเบิกงานสร้างหนังการ์ตูนหุ่นชักยุคแรกๆ ของเช็กและสโลวักคือ Jiri Trinka ทริงคาได้ชื่อว่าเป็นทั้งนักสร้างหนังการ์ตูน นักชักหุ่น และนักวาด เขาทำหนังการ์ตูนตั้งแต่ปี 1945 ไปรับรางวัลจากงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ครั้งที่ 1 ตั้งแต่ปี 1946 หลังสงครามโลกครั้งที่สองหมาดๆ เขาเชี่ยวชาญการทำหุ่นและชักหุ่นเป็นที่หนึ่ง อีกทั้งเขียนนิทานประกอบภาพสำหรับเด็ก

ทริงคาเกิดที่เมือง Plzen หรือ Pilsen ห่างจากปรากไปทางทิศตะวันตก 90 กิโลเมตร เรารู้จักเมืองนี้จากเบียร์ Pilsner เสียมากกว่า ทริงคาประดิษฐ์หุ่นเองตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เริ่มศึกษาจริงจังตั้งแต่อายุ 11 ปี และชักหุ่นตั้งแต่ทศวรรษที่ 1920 หากไปเที่ยวเมืองนี้อย่าลืมแวะพิพิธภัณฑ์หุ่นชัก Muzeum Loutek

หุ่นชักเป็นสื่อสำคัญของเช็กและสโลวัก เมื่อโลกยังไม่มีหนังสือนิทานหรือโทรทัศน์ ไม่มีโรงเรียนหรือโรงละคร นิทาน ตำนาน ภาษาเช็กและสโลวักถ่ายทอดจากบรรพบุรุษสู่ลูกหลานผ่านละครเร่หุ่นชัก ประมาณว่ามีละครเร่หุ่นชักไม่น้อยกว่า 79 ครอบครัวในโบฮีเมียน เหลือ 10 ครอบครัวที่ยังทำเป็นอาชีพในปี 1958 ไม่ทราบปัจจุบันเหลือเท่าไร

หุ่นชักเหมือนตุ๊กตาสำหรับเด็ก ตัวเล็ก หัวโต แขนขาไม่ได้สัดส่วน สำหรับเชโกสโลวะเกียแล้ว แทบไม่มีช่องว่างระหว่างหุ่นชักกับหนังการ์ตูน เป็นพัฒนาการที่ต่อเนื่องและยาวนานจนถึงทุกวันนี้