เสียงโอดจาก ‘ริท เดอะสตาร์’ บางทีความน่าเชื่อถือก็ถูกวัดจากหน้าตา

อายุ 28 ปีแล้วก็จริง แต่ตัวเป็นๆ ของริท เดอะ สตาร์ หรือว่า นพ.เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช ดูเด็กกว่าอายุมาก-มากกกกกกก

เรื่องนี้ถ้าทำงานอยู่เฉพาะในวงการบันเทิงคงไม่เป็นปัญหานัก อย่างมากก็อาจกระทบแค่ถูกจำกัดบทบาทการแสดง เพื่อให้เข้ากับหน้า

แต่ว่าในชีวิตจริงซึ่งเป็นหมอนี่สิ “เจอมาเยอะครับ” เจ้าตัวเล่าแบบหัวเราะๆ

ริทซึ่งปัจจุบันยังรับงานควบ โดยในส่วนการแสดงก็เพิ่งมีภาพยนตร์เรื่อง “สิ้น 3 ต่อน” ที่กำลังลงโรงฉาย ขณะที่ในส่วนของการเป็นหมอ ตอนนี้เขาก็ทำหน้าที่รักษาคนไข้ไปพร้อมๆ กับเรียนต่อด้านผิวหนังและความงาม บอกว่า แม้จะเหนื่อย-หนัก หากเขาก็ชิน และรู้สึกมีความสุขดี

“ริทมาตั้งแต่อายุ 19 ที่เข้าเดอะ สตาร์ ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ คือริทไม่ได้เข้ามาด้วยความสามารถที่เพียบพร้อมเหมือนคนอื่น แต่มาด้วยความฟลุกหรืออะไรก็ไม่รู้ โชคชะตาพาริทมา เพราะฉะนั้น ริทก็ไม่อยากทิ้งไปเปล่าๆ เลือกที่จะประคองมันไว้ แต่ยังไงหมอก็เป็นอันดับ 1 อยู่ดี คืองานในวงการบันเทิงถ้าจะหมดก็ให้มันหมดครับ เพราะว่าไม่มียั่งยืนไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว ก็ปล่อยให้มันไปตามเวลาของมัน”

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะถึงเวลานั้น เขาก็ตั้งใจจะทำให้ดีที่สุด

“เป็นคนอยากทำอะไรแล้วก็จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้”

“เป็นคนเสียดายน่ะฮะ” ริทขยายเหตุผลบอก

“หมายความว่า ถ้ามีโอกาสเข้ามา มีการสอบ หรืออะไรที่เข้ามาในชีวิตที่เป็นครั้งใหญ่ๆ หรือครั้งสำคัญก็อยากทำให้ดีที่สุด ถามว่าคาดหวังไหม ทุกคนก็ต้องคาดหวัง แต่ถึงบางอันไม่ได้ตามหวังก็ไม่ถึงกับเครียด”

ด้วย “ริทไม่กดดันตัวเอง”

แค่ทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะได้อย่างที่บอกไว้ เท่านั้นก็พอ

จากเดอะ สตาร์ พอมาเป็นคุณหมอ ริทบอกว่า ภาพของเขาขณะทำงานใน 2 ด้านนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิง

“ถ้าริทใส่เสื้อกาวน์จะเป็นอีกบุคลิกหนึ่ง” เขาว่า

นั่นคือจะไม่ใช่ภาพของชายหนุ่มผู้ร่าเริง แจ่มใส เฮฮา

“จะเป็นบุคลิกที่เป็นหมอในโรงพยาบาล คือไม่ได้ตั้งใจจะทำขรึมนะ แต่ว่าเราเล่นไม่ได้ เพราะมันคือความป่วยไข้ของคน จะตลกกับทุกเรื่องไม่ได้ ทั้งที่จริงๆ เราเป็นคนตลก”

“แต่เรื่องความน่าเชื่อถือ ตอบไม่ได้จริงๆ ว่าเขามองเรายังไง”

“บางคนก็มีคอมเมนต์ให้ฟังต่อหน้า เช่น เราหน้าเด็กเกินไปเลยไม่น่าเชื่อถือ บุคลิกก็ดูเป็นเด็ก บางคนก็แบบไปปรึกษาอาจารย์ก่อนได้นะ” นี่ริทเล่าพลางหัวเราะ

“แต่จริงๆ ไม่ต้องปรึกษาเราก็ตรวจได้เลย” หมอริทยืนยัน

คำทักเหล่านั้น เขาบอกว่า เจอจนชิน

“เพื่อนริทอายุเท่าริท แต่หน้าเขาเป็นผู้ใหญ่มาก มีผมหงอกขึ้นมาแซมๆ แล้ว ทุกวันนี้เดินไปไหนคนไข้ยกมือไหว้หมด กลายเป็นว่าความน่าเชื่อถือต่างกันที่หน้าตา”

แต่ว่าไม่เป็นไร

เพราะเอาเข้าจริงก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากแสดงหลักฐานยืนยัน

“ริทพร้อมจะโชว์ป้ายชื่อ โชว์วุฒิให้เขาดู ว่าริทไม่ได้พูดมั่วๆ นะ เราเรียนจบแล้วนะ”

นั่นน่ะ สำหรับคนที่ไม่รู้จัก

หากสำหรับคนที่รู้จัก อย่างพี่ๆ น้องๆ เพื่อนพ้องเดอะ สตาร์ นี่แล้วใหญ่ นี่เขาเปิดใจพลางหัวเราะ

ด้วยที่ผ่านมาหลายๆ รายมักจะสอบถามเวลามีอาการโน่น นั่น นี่ และเมื่อเขาให้คำปรึกษาไปว่าควรจะต้องทำอย่างนี้ กินยาตัวนั้น ก็ดั๊นไม่ยอมเชื่อ กระทั่งไปหาหมอคนอื่นแล้วได้รับคำแนะนำแบบเดียวกันนั่นแหละ ถึงได้ตระหนักว่า ข้อวินิจฉัยของหมอริทก็เชื่อได้นี่นา

ครั้นพอถามไปว่าทำไมถึงอยากทำอาชีพนี้?

ริทบอกตรงๆ ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ทราบ รู้ก็แต่ “ที่บ้านอยากให้เป็น แล้วเราก็สอบได้”

“แต่พอเรียนไป ก็รู้ว่าหมอเป็นยังไง ต้องช่วยคนยังไง สำคัญยังไง”

แล้วก็ชอบ สนใจ อยากทำ

“แล้วอยากเป็นหมอผิวหนัง อาจเพราะการเข้ามาเป็นเดอะ สตาร์ ก็ยิ่งรู้ว่าด้านนี้น่าจะเหมาะกับเราที่สุด เหมือนอยู่กับความสวยงาม อยู่กับคน เวลาไปไหนเราดูได้ว่านี่คืออะไร จะดูแลได้ยังไง เหมือนช่วยเหลือคนรอบข้างได้”

“จริงๆ แล้วความงามเหมือนไม่สำคัญ แต่มันคือความมั่นใจ ความสวยของคนแบบหนึ่ง”

“ริทถึงอยากจะดูแลคนให้เขามีความสุข ให้เขาหน้าตาดี ให้มีความมั่นใจ”

ผ่านความรู้ความสามารถในการเป็นหมอผิวหนังของเขา