เหตุใดคนไทยจึงรังเกียจคนจีน : ข้อเสนอแด่ผู้กำหนดนโยบายฝ่ายจีนและฝ่ายไทย

ศาสตราจารย์จาง ซี เจิ้น เขียน อาทร ฟุ้งธรรมสาร วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แปล

 

เหตุใดคนไทยจึงรังเกียจคนจีน (จบ)

ข้อเสนอแด่ผู้กำหนดนโยบายฝ่ายจีนและฝ่ายไทย

 

1.ควรจัดวางตำแหน่ง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ให้ถูกต้อง

ผู้เขียนใคร่จะแนะนำสื่ออย่าพยายามตีความเลยเถิด ควรตีความในรูปแบบเดียวกัน อย่าเอาแต่ปลุกเร้าความหวือหวาเพื่อดึงดูดความสนใจ

ควรกลับคืนสู่การรายงานโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางในเชิงเศรษฐกิจเดิม

จุดมุ่งหมายเดิมของหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางก็ต้องการสร้างโครงสร้างพื้นฐานในเอเชีย ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ มีการเกื้อกูลที่ต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์

เราต้องกำหนดจุดยืนไว้ที่เศรษฐกิจ อย่าเน้น “จีนเป็นหลัก” มากนัก ควรเน้นที่ “เพื่อเอเชีย” ที่มีความเป็นภูมิภาคมากขึ้น

ต้องยึดมั่นจุดยืนของทางการจีน นั่นคือต้องยึดมั่น “ค้าขายด้วยกัน พัฒนาไปด้วยกัน เสวยความสัมฤทธิผลด้วยกัน” ที่เป็นหลักการพื้นฐาน

จีนไม่ใช่เป็นผู้มาเปลื้องทุกข์ชาวโลก จีนจะไม่ยัดเยียดอะไรให้ผู้อื่น ยิ่งไม่ควรพ่วงเงื่อนไขอื่นใดที่ไม่บังควร

เราต้องไม่ทำให้คนอื่นเกิดความรู้สึกที่รังเกียจ

เราต้องดูว่าอะไรเป็นเรื่องที่เหมาะสม เราจะต้องยึดมั่นหลักการแห่งความเสมอภาค ความสมัครใจ และเอื้อประโยชน์ต่อกัน

2.พูดให้น้อย ทำให้มาก

ไม่กี่ปีมานี้ การประชาสัมพันธ์โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางมีมากเกินไป รีบร้อนเกินไป

คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะคนไทยเป็นคนมีปฏิกิริยาแบบสบายๆ เนื่องจากจีนเรากระหน่ำแรงเกินไป ทำให้คนอื่นรับลูกไม่ทัน

เพื่อนคนไทยของผู้เขียนบางคนกล่าว “พวกคุณใจร้อน เร่งเกินไป จนพวกเรารับไม่ไหว”

ผู้เขียนเห็นว่า เราควรพูดให้น้อย ทำให้มาก ให้อีกฝ่ายเห็นอะไรที่เป็นรูปธรรม

ทางการจีนกับสื่อจีนควรให้ความสำคัญกับการร่วมมือในโครงการที่เป็นรูปธรรม

และสื่อสารให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับงานที่ร่วมมือทำอยู่

3.ควรมีความเข้าใจความรู้สึกของคนไทยให้มากขึ้น

เวลาทางการของจีนกับสื่อของจีนลงข่าวเกี่ยวกับความร่วมมือกับจีนนั้น มักจะยึดเอาปฏิกิริยาของทางการไทยเป็นหลัก ส่วนที่ทางการสะท้อนออกมานั้นก็จะมีนัยที่เป็นมารยาททางการทูตกับวัฒนธรรมเข้ามาข้องเกี่ยว เรื่องจะดูดีและเท่ไปหมด

ผลก็คือทำให้มองเรื่องในแง่ดีเกินไปจนตีความผิดพลาด

วัฒนธรรมของไทยก็เป็นแบบที่แม้มีอะไรไม่เห็นด้วย แต่ปากก็บอกว่าดีๆๆ แต่เมื่อถูกพลังจากประชาชนกดดันหนักเข้า ทางการไทยก็อาจล่าถอยหรือเปลี่ยนคำพูด

เพราะฉะนั้น หากจีนไม่ใส่ใจกับการวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อในไทย คิดว่าคุยกับรัฐบาลรู้เรื่องเป็นอันใช้ได้ เรื่องก็จะล้มเหลวได้เช่นกัน

จีนควรสำรวจตรวจสอบประชามติ หากพบว่ามีความระแวงและความเข้าใจผิด ก็ควรจะหาทางชี้แจงให้คลายความกังวล

สื่อสารให้เกิดความกระจ่าง มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ให้ผู้คนมีความสบายใจกับความร่วมมือต่างๆ

4.จีนควรลงทุนลงแรงแก้ไขภาพลักษณ์ของตัวเอง

ภาพลักษณ์ของคนเราก็เป็นพลังอ่อน (พลังวัฒนธรรม) ชนิดหนึ่ง คนจีนอย่าด่วนสรุปว่าที่มีคนไทยเรียนภาษาจีนกันเยอะ พลังอ่อนของจีนก็จะมีมากยิ่งๆ ขึ้น หาเป็นเช่นนั้นไม่

ที่เขาเรียนภาษาจีนก็เพื่อทำค้าขาย ทำกำไรกับจีน

พลังอ่อนมีจริงหรือไม่ต้องดูที่ว่าเขาชื่นชอบเรา นับถือเราจริงหรือไม่

แม้ว่าประเทศจีนจะพัฒนาได้เร็ว เป็นมหาอำนาจ แต่ในลึกๆ ของใจคนไทยนั้น ผู้ที่พวกเขาชื่นชมยังเป็นคนญี่ปุ่นและฝรั่ง

คนไทยยังคิดว่าอารยธรรมและศีลธรรมของคนจีนยังต้อยต่ำอยู่ พวกเขาจึงมีความรู้สึกที่รังเกียจคนจีน

เรื่องนี้รัฐบาลจีนควรเข้มงวดกวดขันกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีน กับนักประกอบการจีนที่จะไปทำการค้ายังต่างประเทศ

โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและย่อมนั้น ต้องมีกฎระเบียบให้พวกเขาปฏิบัติตาม ต้องให้ผ่านการอบรม ให้พวกเขารู้จักเคารพขนบธรรมเนียมประเพณีของประเทศที่ตนจะไปทำมาค้าขาย

ควรเลิกนิสัยไปติดสินบนเจ้าหน้าที่ เอาแต่ค้ากำไร มีพฤติกรรมที่เลวร้ายและทำร้ายความรู้สึกและจิตใจของผู้คนในประเทศนั้นๆ

เพราะพ่อค้าวาณิชแบบนี้ออกไปทำการค้ามากเท่าไร ภาพลักษณ์ของจีนก็เสียมากเท่านั้น

พวกเขาจะกลายเป็นตัวทำลายโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ไปได้

5.ต้องรู้จักถ่อมเนื้อถ่อมตัว ใจเย็นและอดทนอดกลั้น รู้จักนอบน้อมและเป็นคนมีมารยาท

ประเทศเล็กคบหากับประเทศใหญ่ ก็ต้องตระหนักในความเป็นรองของตนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมักชอบมีความรู้สึกที่ตนไม่ได้รับการปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน

ด้วยเหตุนี้ ประเทศเล็กจึงมีความรู้สึกที่ไวต่อพฤติกรรมต่างๆ ของประเทศใหญ่

ส่วนประเทศใหญ่นั้น พลั้งเผลอทีไรก็จะทำตัวเป็นพี่เบิ้มใหญ่ ทำให้อีกฝ่ายเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีได้ง่าย

คนจีนควรรู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา หากตนเป็นเขาจะคิดอย่างไร จะได้รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร

คนจีนต้องยึดมั่นในนโยบายเป็นมิตรกับประเทศใกล้เคียง ให้เขามีความรู้ที่มั่นอกมั่นใจ จีนควรช่วยให้ประเทศเพื่อนบ้านมั่งคั่งขึ้น เราต้องให้มากกว่ารับ

คนจีนต้องไม่มีนิสัยหยิ่งยโสที่มักเกิดกับคนในประเทศมหาอำนาจ คนจีนฐานะดีหน่อยก็ลืมตัว พูดจากระโชกโฮกฮาก

นั่นเป็นข้อเสียของวัฒนธรรมของจีนเราที่ต้องระมัดระวังยิ่ง

6.รัฐบาลไทยควรมีมาตรการดูแลการลงทุนต่างชาติที่สมบูรณ์และปฏิบัติอย่างเข้มงวดกวดขัน

ประเทศต่างๆ ต่างก็ต้องเจอปัญหาที่เกิดจากการลงทุนจากต่างประเทศและแรงงานต่างด้าวทั้งนั้น เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศและของประชาชนของตัวเอง

รัฐบาลมีหน้าที่ต้องตรากฎหมายที่ควบคุมการลงทุนจากต่างชาติและใช้บังคับกับแรงงานต่างด้าว

อีกทั้งต้องมีบทลงโทษนักธุรกิจและแรงงานต่างด้าวที่ทำผิดกฎหมาย

เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีได้ทำสิ่งที่ฝ่าฝืนกฎหมายได้