จดหมาย

0 ห่วง ‘คนหนุ่มสาว’

หลายคนที่มีอายุวัยกลางคน หรือวัยดึก

คงได้ดูหนัง ประวัติการต่อสู้ของนักการเมืองหน้าใหม่ และพรรคการเมืองใหม่ ที่หวังจะได้เป็นรัฐบาล เพราะมีกระแสนิยมสูง

อย่างพรรคพลังใหม่ โดยนายแพทย์กระแส ชนะวงศ์

พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย ดร.สนอง บุญโยทยาน หรือบุญโญทยาน

อะไรทำนองนั้นแหละ ในช่วงระหว่าง 14 ตุลาคม 2516-6 ตุลาคม 2519

พวกเขาถูกปัดแข้งปัดขา ฆ่ากัน จนกระทั่งบ้านเมืองพังพินาศสันตะโร ผู้คนล้มตายมากมาย

มาเวลานี้ มีพรรคการเมืองใหม่ มีอยู่สามพรรคการเมือง กำลังมีกระแสนิยมสูงมาก

กำลังถูกตัดแข้งตัดขา เตะสกัดขาด้วยกติกาสารพัด ด้วย พ.ร.บ.ขยะ พ.ร.บ.ที่ไร้สาระ พร่ำเพรื่อ เพื่อให้แพ้ฟาวล์ไปก่อนถึงวันเลือกตั้ง

ในประเทศที่เขาเจริญมา

เขาจะไม่ให้มีการอุปโลกน์ให้มากเรื่อง เพื่อให้แพ้ฟาวล์กันไปก่อน

พวกขี้แพ้เจ้าเก่า เขาถนัดนักในเรื่องอย่างนี้

ประชาชนคนไทยเวลานี้ ทุกครัวเรือนมีปริญญาตรี หรือปริญญาโทหมดแล้ว

เขารู้ดี และหนักแน่น ไม่หลงกลด้วยหรอก

เขากำลังอัปเปหิพวกชอบป้ายสีผู้อื่น

ขอขอบคุณ

เชย ชาวริมเมย

 

คน-พรรค หนุ่มสาว ที่ถูกมองเป็นฝ่ายก้าวหน้า

แล้วถูกเข่นฆ่าสังหารนั้น

เป็นความทมิฬในอดีต

ที่หวังว่าจะไม่ย้อนกลับมาอีก

เพราะหากทั้งการเข่นฆ่าด้วยเทคนิคกฎหมาย

มาผสมผสานกับการเข่นฆ่าด้วยปืนอีกในวันนี้

ก็จะเป็นยิ่งกว่ายุคทมิฬอีก

 

0 วิธีป้องกันความรุนแรง

 

เรียน ท่านบรรณาธิการที่เคารพและนับถือ

…ย้อนยุคกลับมาหาเสียงกันใหม่ สำหรับผู้มีใจรักเป็นนักการเมือง

แม้ว่ายังมีรูปแบบวิธีการเดิมๆ

แต่ด้วยระยะเวลาที่ถูกเว้นวรรคกิจกรรมทางการเมืองให้เงียบหายไปหลายปี

เมื่อได้ออกเดินสายโฆษณาประชาสัมพันธ์ขอเป็นปากเป็นเสียงแทนพ่อแม่พี่น้องประชาชนในสถานะผู้แทนราษฎร

สีสันบรรยากาศการเลือกตั้งก็ปลุกเร้าเอาใจพี่ป้าน้าอาประชาธิปไตยให้มีทางออก…

จากเหตุความขัดแย้งทะเลาะวิวาทกันในวงการเมืองการปกครองมาตลอดสิบกว่าปี

จึงมีผู้คนไม่น้อยที่ปรารถนาให้บรรดาผู้มีอำนาจ-นักการเมืองหลังการเลือกตั้งทั้งหลายได้ให้อภัยซึ่งกันและกัน

เลิกอาฆาตมาดร้าย ลดทิฐิการยึดมั่นถือมั่นตัวตนและน้อมนำธรรมะมาเป็นหลักในการทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากพี่น้องประชาชน

ก็จะเป็นคุณูปการต่อประเทศชาติบ้านเมืองของเราอย่างสูงยิ่ง

…ด้วยว่าต่างฝ่ายต่างมีจุดมุ่งหมายปลายทางเดียวกันที่จะทำงานรับใช้ชุมชน สังคม ประเทศชาติโดยประชามติส่วนใหญ่ของผู้คนพลเมือง

การเคารพกฎ-กติกา-มารยาทและสิทธิของผู้อื่นจึงถือเป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานของนักการเมืองและวิญญูชนผู้เจริญแล้ว

ท่านใดคะแนนเสียงยังได้ไม่ถึงอันดับหนึ่งก็ต้องลดอัตตา

มีโยนิโสมนสิการและสปิริต, รู้แพ้รู้ชนะ มีความอดทน อดกลั้นและรอโอกาส-สู้ต่อไป

คิดเสียว่า “แพ้เป็นพระ ชนะเป็นรัฐบาล”

…ต่างฝ่ายต่างทำงานรับผิดชอบหน้าที่กันไป ให้เกียรติกัน

ไม่นานปีก็มีวาระเลือกตั้งครั้งใหม่

ผลงานที่ทำๆ ไปในท่วงทำนอง “มิตรแท้กับสิ่งแวดล้อม-ศัตรูถาวรกับคอร์รัปชั่น” ก็จะสะท้อนย้อนกลับมาเป็นเสียงศรัทธาของประชาชน…

ตลอดระยะกาลที่ผ่านมามีเด็กๆ และผู้ด้อยโอกาสในบ้านเมืองเรามากมายมหาศาลที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวความเป็นไปของโลกย์การเมือง

ทว่ามีอันต้องวิปโยคโศกศัลย์ด้วยเหตุแห่ง “ช้างสารชนกัน”

…หากท่านผู้มีอำนาจบาตรใหญ่ทั้งหลายยังคงมุ่งห้ำหั่นประหัตประหารทำลายล้างกันให้บรรลัย

แล้วอนาคตเด็กๆ เยาวชน-คนไทยจะก้าวเดินไปยังทิศทางใดกันเล่าครับ ท่านที่เคารพ…

สงกรานต์ บ้านป่าอักษร

 

ก็หวังว่า “สงครามการเมือง”

จะชิล-ชิล แบบ “สงกรานต์ บ้านป่าอักษร” ว่า

แพ้เป็นพระ ชนะเป็นรัฐบาล

ไม่ชโลมเลือด อย่างที่ห่วงกัน