ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

‘Ferrari F8’ – ‘Audi TT’

2 รถสปอร์ตต่างสไตล์

ยิ่งใกล้งาน “บางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2019” เข้าไปเท่าไหร่ บรรดาค่ายรถน้อยใหญ่ในบ้านเราเริ่มโหมประโคมเปิดตัวรถทั้ง “ไมเนอร์เชนจ์” หรือปรับโฉม และ “โมเดลเชนจ์” หรือรุ่นใหม่กันอุตลุด

ซึ่งไม่เพียงแต่เมืองไทยเท่านั้น แต่ในระดับโลกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ก็เปิดตัวกันหลากหลายรุ่น เนื่องจากเป็นช่วงงาน “เจนีวา มอเตอร์โชว์ 2019” สวิตเซอร์แลนด์ จัดกันในช่วงเดือนมีนาคมนั่นเอง

“ยานยนต์สุดสัปดาห์” ฉบับนี้ขอแนะนำรถ 2 รุ่นหลักๆ ที่น่าสนใจ

หนึ่งคือ “Ferrari F8 Tributo”

และอีกหนึ่ง “Audi TT Coupe”

ไม่ต้องประหลาดใจครับเพราะผมไม่ได้นำรถทั้ง 2 รุ่นมาประชันกัน เนื่องจากเป็นคนละตลาดอย่างสิ้นเชิง

เพราะ “Ferrari F8 Tributo” ราคาขายเมืองไทยระดับ 8 หลักขึ้น

ส่วน “Audi TT Coupe” ถูกกว่าหลายเท่า

แต่เนื่องจากมาแนะนำตัวในเวลาไล่เลี่ยกันพอดี

ด้วยความรักพี่ เสียดายน้อง จึงถือโอกาสแนะนำรถทั้ง 2 รุ่นพร้อมกันไปเลย

เริ่มกันที่โคตรรถซูเปอร์คาร์ขวัญใจวัยรุ่นทั่วโลก “Ferrari F8 Tributo” เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน “เจนีวา มอเตอร์โชว์ 2019” เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ด้านหน้าของตัวรถโดดเด่นด้วย S-Duct ซึ่งเป็นสไตล์เดียวกับรุ่น “488 Pista” แต่ออกแบบใหม่ให้เหมาะกับความกว้างที่เพิ่มขึ้น ไฟหน้า LED แนวนอนทรงใหม่ขนาดกะทัดรัด จึงสามารถออกแบบเพิ่มช่องระบายความร้อนของเบรกไว้ใกล้ๆ ไฟหน้าได้ ทำงานร่วมกับช่องดักอากาศที่มุมกันชน

ข้อดีช่วยปรับปรุงการไหลของอากาศให้ทั่วทั้งซุ้มล้อ จึงไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดเบรกให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรับมือกับความเร็วที่เพิ่มขึ้นของรถ ผลที่ได้คือน้ำหนักตัวรถจะลดลง

กระจกหลัง Lexan เป็นวัสดุโพลีคาร์บอเนต แข็งแรงทนทานและเบากว่ากระจกทำให้มองเห็นองค์ประกอบต่างๆ ในห้องเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นอารมณ์เดียวกับรุ่น “F 40” ช่องบานเกล็ดช่วยดึงความร้อนออกจากห้องเครื่อง โดยการไหลของอากาศไม่ส่งผลกระทบต่อสปอยเลอร์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มดาวน์ฟอร์ซให้กับท้ายรถ

ติดตั้งสปอยเลอร์โอบล้อมตลอดแนวไฟท้าย ช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงของรถให้ต่ำลง

ชุดไฟท้ายคู่นำเอารูปทรงย้อนยุคของรุ่น “308 GTB” ในปี 1975 ซึ่งเป็นหนึ่งในตำนานรถเครื่องยนต์ V8 มาปรับใช้

ห้องโดยสารยังคงความคลาสสิค ที่มุ่งเน้นรูปลักษณ์โดยรวมที่เป็นเอกลักษณ์ของเฟอร์รารี่เครื่องวางกลางด้านหลัง

แดชบอร์ด แผงประตู และคอนโซลกลาง ออกแบบใหม่ ระบบ HMI รุ่นใหม่ (Human Machine Interface) มาพร้อมช่องแอร์แบบกลม, พวงมาลัยและตัวควบคุมแบบใหม่

มีหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วสำหรับผู้โดยสาร ที่ช่วยให้ผู้นั่งสามารถเห็นค่าการทำงานต่างๆ ของรถได้เช่นเดียวกับผู้ขับ

“Ferrari F8 Tributo” เป็นรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางลำ ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดของรถยนต์แบบสองที่นั่งของเฟอร์รารี่

ขุมพลังเครื่องยนต์ V8 turbo ความจุ 3,902 ซีซี กำลังสูงสุด 720 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 770 นิวตัน-เมตร ที่ 3,250 รอบต่อนาที

อัตราเร่งสุดจี๊ด 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 2.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 340 กิโลเมตร/ชั่วโมง

จัดเป็นเครื่องยนต์ทรงพลังที่สุดของค่ายม้าลำพอง หากไม่นับรวมรุ่นพิเศษต่างๆ

ใครที่สนใจ “Ferrari F8 Tributo” สอบถามราคาได้จากบริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเมืองไทย

มาถึงรถสปอร์ตของค่าย “Audi” คือ “The New Audi TT Coupe” เป็นรถนำเข้าเช่นกัน แต่ทำราคาได้เร้าใจเหลือเกิน

รถรุ่นนี้มีชื่อเต็มๆ “Audi TT Coupe 45 TFSI quattro S line” เป็นเก๋งสปอร์ต 2 ประตู

โดดเด่นด้วยชุดตกแต่งภายนอกแบบ S line ดีไซน์ใหม่ล่าสุด ชายล่างของกันชนด้านหน้า และสเกิร์ตข้างสีแพลตตินั่มเกรย์แบบด้าน ออกแบบใหม่เพื่อเพิ่มความดุดัน โฉบเฉี่ยว

กระจังหน้าขนาดใหญ่ได้รับการออกแบบใหม่ด้วยดีไซน์แบบรังผึ้ง (honeycomb) สีไททาเนียมแบล๊ก สอดรับกับกันชนด้านหลังดีไซน์ใหม่ ตามหลักอากาศพลศาสตร์ในรูปแบบของการวิ่งผ่านของกระแสลม

ชายล่างของกันชนด้านหลัง (diffuser) ตกแต่งด้วยสีแพลตตินั่มเกรย์แบบด้าน

เครื่องยนต์เบนซิน ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟต์ (DOHC) 4 สูบแถวเรียง พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (direct injection) และเทอร์โบชาร์จ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 230 แรงม้า ที่ 4,500-6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตรที่ 1,600-4,300 รอบต่อนาที

ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ S tronic 6 จังหวะ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ quattro เอกลักษณ์ที่โดดเด่นและเลื่องชื่อของอาวดี้

“The New Audi TT Coupe” ราคา 3,299,000 บาท

ขอแถมให้อีกรุ่นแล้วกัน เพราะเปิดตัวพร้อมกับ “The New Audi TT Coupe” โดยเป็นรถสปอร์ต 5 ประตู “Audi A7 Sportback 45 TFSI quattro”

เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดแบบจัดเต็ม ทั้งไฟหน้าแบบ HD Matrix LED พร้อมเอฟเฟ็กต์ไฟด้านหน้า-หลัง (light staging) เมื่อล็อกหรือปลดล็อกรถ

กระจกหน้าต่างแบบไร้ขอบ (frameless) เอกลักษณ์ของรถยนต์สปอร์ตคูเป้ หลังคาพาโนรามิกที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า

ภายในรถยังโดดเด่นด้วยการออกแบบ design language รูปแบบใหม่ของอาวดี้ พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว ให้อารมณ์เหมือนในห้องขับขี่ของเครื่องบิน

ผู้ขับขี่สามารถเลือกดูข้อมูลการขับขี่ได้ตามที่ต้องการโดยไม่ต้องละสายตาจากมาตรวัด

ระบบ MMI Navigation plus with MMI touch response พร้อมจอแสดงผลแบบสัมผัส ขนาด 10.1 นิ้ว ออกแบบการจัดเรียงไอคอนการใช้งานให้ดูเรียบง่าย แต่สะดวกในการควบคุม

ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแยกอิสระ 4 โซน

เครื่องยนต์เบนซิน mild hybrid (MHEV) แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (direct injection) เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า ที่ 5,000-6,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ที่ 1,600-4,300 รอบต่อนาที

ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 จังหวะ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ quattro

“Audi A7 Sportback” ราคา 4,399,000 บาท