วางบิล/เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์ /ทีมงานประชาชาติ กลับมาอาสาประชาชน

วางบิล/เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์    

ทีมงานประชาชาติ กลับมาอาสาประชาชน

 

หนังสือพิมพ์มติชนรายวันฉบับแรก จัดพิมพ์ฉบับพิเศษแทรกแนะนำตัวเองจำนวน 12 หน้า ส่วนฉบับจริงจำนวน 8 หน้า ราคา 1.50 บาท หรือ 6 สลึง ขณะที่หนังสือพิมพ์รายวันฉบับอื่นมีอย่างน้อย 12  หน้า ราคาเดียวกัน ด้วยเหตุผลที่แจ้งไว้ในหน้า 2 ฉบับพิเศษ

หัวข้อ “หกสลึง ราคามาตรฐานหนังสือพิมพ์รายวัน?” ว่า

 

กว่าจะตกลงกันได้ในราคาหนังสือพิมพ์มติชน ซึ่งมีเพียง 8 หน้า เป็น 1.50 บาท เราถกเถียงหาข้อสรุปกันหลายครั้ง

ในที่สุดผลออกมาเป็นว่า ถึงอย่างไร เราเชื่อว่าผู้อ่านของเราซึ่งอุดหนุนกันมาตั้งแต่ครั้งประชาชาติรายวัน รวมประชาชาติรายวัน และเข็มทิศ ทั้งรายสัปดาห์และรายสามวัน ยังอยากที่จะเห็นพวกเราทำงานด้านหนังสือพิมพ์ เป็นผู้อาสานำข่าวสารที่ตรงไปตรงมาจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ด้านความคิดเห็นทั้งสนับสนุนและทักท้วงรัฐบาล เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติต่อไปไม่หยุดยั้ง

แต่การที่จะปฏิบัติหน้าที่นั้นให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เรายังคำนึงถึงปัญหาค่าครองชีพซึ่งสูงโลดขึ้นทุกวันด้วย

และที่สำคัญ เมื่อคำนึงถึงต้นทุนการผลิตไม่ว่าจะเป็นด้านการลงทุน ด้านการพิมพ์ ค่ากระดาษ และเงินเดือนของผู้ที่ทำงานทุกคน หนังสือพิมพ์จำนวน 8 หน้าไม่สามารถขายในราคาหนึ่งบาทได้

ไม่เพียงแต่เท่านั้น ในภาวะเศรษฐกิจยอบแยบนี้ เราเห็นใจผู้อ่านของเราอย่างยิ่งที่ต้องเสียเงินมากกว่าการซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นซึ่งมีจำนวนหน้ามากกว่า

แต่ด้วยเหตุผลนี้ เมื่อเรามาคำนวณถึงขนาดของกระดาษของเราที่มีความกว้างมาตรฐานและมีเนื้อที่พิมพ์มากกว่าหนังสือพิมพ์ทั่วไป หน้าละ 15 เปอร์เซ็นต์ การใช้เนื้อที่ในการเสนอข่าว บทความ ปกิณกะ ในหนังสือพิมพ์อย่างรัดกุม รวมทั้งตัวอักษรที่มีขนาดบรรจุได้มากกว่าในการตีพิมพ์ จะเห็นได้ว่าหนังสือพิมพ์แต่ละฉบับจะมีเนื้อที่พิมพ์ไม่มากไปกว่ามติชนเลย

หนังสือพิมพ์มติชนแม้ว่าจำนวนหน้าจะมีเพียง 8 หน้า หากเมื่อคำนวณเนื้อที่แล้ว เราใช้วิธีการพาดหัวกินเนื้อที่น้อย การเขียนข่าวถูกหลักวิชา บรรจุจำนวนข่าวได้มากขึ้นกว่า สามารถใช้เนื้อที่อันไม่เป็นประโยชน์ต่อข่าวเป็นเนื้อที่โฆษณา และการใช้รูปที่เพียงพอกับการรับรู้ ไม่ใหญ่โตจนกินเนื้อที่อื่นๆ หน้าในอันเป็นบทความและปกิณกะ

เราพยายามจะใช้เนื้อที่บรรจุเนื้อหาสาระให้กับผู้อ่านได้มากที่สุด จึงเท่ากับว่า ใน 8 หน้าของมติชน จะมีเนื้อที่การเสนอข่าวและเนื้อหาสาระอื่นๆ ถึง 12 หน้า…

จะอย่างไรก็ตาม เรา “มติชน” ด้วยสำนึกในหน้าที่หนังสือพิมพ์ซึ่งจะทำความจริงให้ปรากฏ จะไม่หยุดยั้งเพียงเท่านี้ ตราบเมื่อเราสามารถเลี้ยงตัวเองได้ด้วยจำนวนจำหน่ายและโฆษณามากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าเป็นระยะเวลาอันสั้นที่มองเห็นได้ เราจะเพิ่มหน้าขึ้นเป็น 12 หน้าอย่างที่เคยทำมาแล้ว ทั้งนี้เพื่อจะมีเนื้อที่ในการเสนอเนื้อหาสาระในทุกด้านต่อผู้อ่านให้เพียงพอ เราขอสัญญา

ด้วยการเป็นผู้อาสา เพื่อให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ และประชาชนผู้อ่านเป็นผู้ตัดสิน เราให้สัญญาว่า วันหนึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ ท่านจะได้รับเนื้อหาสาระทั้งด้านข่าว ความคิดเห็น ตลอดจนความบันเทิงในหน้าหนังสือพิมพ์ของเราเพิ่มขึ้นแน่นอน

 

หนังสือพิมพ์ฉบับพิเศษ เส้นทางเดินจากประชาชาติถึงมติชน แนะนำกองบรรณาธิการและคณะนักเขียนทั้งประจำและนักเขียนบทความ ความคิดเห็นพิเศษ ทั้งนักวิชาการ นักการเมือง และผู้นำความคิดทางสังคมหลากหลาย ทั้งยังบอกด้วยว่า

เราขอกลับมาอาสา ให้ท่านตัดสินผลงาน

หนังสือพิมพ์ฉบับแรกประจำวันที่ 9 มกราคม พุทธศักราช 2521 ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 มีข้อความบนหน้าแรกว่า “ทีมงานประชาชาติ กลับมาอาสาประชาชน” มีภาพขรรค์ชัย บุนปาน สัมภาษณ์ พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ นายกรัฐมนตรีที่บ้านพักบางเขน พร้อมข่าวพาดหัวหน้า 1 “นายกฯ ให้ปรับปรุงภาษี ยันไม่ถอนขนห่านคนจน”

หมายเหตุหน้าแรก แจ้งว่า

 

หนังสือพิมพ์มติชนฉบับปฐมฤกษ์ในมือท่านผู้อ่านฉบับนี้ หาใช่หนังสือพิมพ์ฉบับใหม่แต่อย่างไรไม่ ในแง่ความถูกต้องตามกฎหมาย “มติชน” คือวิวัฒนาการจากหนังสือพิมพ์เข็มทิศธุรกิจรายสัปดาห์ ซึ่งได้รับการอนุมัติให้ออกเป็นรายวันได้ แต่เพื่อขจัดความสับสนอันอาจจะพึงมี จึงแยกชื่อออกจากกันให้เห็นชัด และแน่นอนว่าในระยะเวลาอันใกล้ “มติชน” จะได้รับอนุญาตให้ใช้ชื่อได้ถูกต้องต่อไป

เมื่อมิใช่หนังสือพิมพ์ฉบับใหม่ คณะผู้จัดทำทั้งปวงก็มาจากผู้สุจริตในวิชาชีพหนังสือพิมพ์เก่าๆ นั่นเอง รายละเอียดของความเป็นมาในเรื่องนี้ ได้ตีพิมพ์แล้วเป็นเนื้อหาสาระอยู่ในฉบับ

นอกจากนโยบายอันแน่วแน่ในการเทิดทูนพิทักษ์ ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์แล้ว หนังสือพิมพ์มติชนขอสัญญาต่อประชาชน ณ ที่นี้ว่า “มติชน” จะเป็นหนังสือพิมพ์เพื่อประดับเกียรติยศแห่งประเทศนี้ให้จงได้ ด้วยการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา เปิดเผย ไม่หวั่นไหว ไม่เสแสร้ง และจะใช้เสรีภาพที่มีอยู่อย่างจำกัดจำเขี่ย ให้อยู่ในขอบเขตโดยคำนึงถึงความควร ไม่ควร ต่อส่วนรวม ต่อความมั่นคงของชาติเป็นสำคัญ

ขณะเดียวกัน “มติชน” ก็ตระหนักดีว่า ก้าวแรกของเราอาจเดินเตาะแตะอยู่บ้าง เหมือนเด็กที่ถูกผู้ใหญ่ขัดขาจนหกล้มแล้วเพิ่งลุกขึ้นมาได้ ฉะนั้น ขอท่านผู้มีอุปการคุณคือท่านผู้อ่านและบริษัทห้างร้านที่เห็นประโยชน์ในการลงโฆษณากับ “มติชน” พึงอดใจรอว่า ก้าวต่อๆ ไปของเราจะมั่นคง มากด้วยปริมาณและคุณภาพขึ้นเป็นลำดับ เพียงแต่ขณะนี้อย่าเพิ่งทอดทิ้งกันไปเสีย…

 

พลิกไปในฉบับ หน้า 7 คอลัมน์บนขวา มีล้อมกรอบไม่ใหญ่ไม่เล็ก เป็นคอลัมน์ “ข่าวคนๆๆ” ผู้เขียนคือ “หวาน สะเดาดง” ขึ้นต้นว่า

“ปฐมภาษิตวันนี้ – น้ำขึ้นอย่าผลีผลามตัก พบนางกวักให้รีบถอย…0 มะม่วงผลิช่อ น้ำเดือนอ้ายเปี่ยมคลอง น้ำใจเพื่อนพ้องทั้งวงธุรกิจและวงหนังสือพิมพ์ก็ไหลบ่าท่วมมติชน เป็นพ้นนัก…0 จะกล่าวตอบขอบใจก็ไม่หมด จะแทนทดคุณได้ก็ไม่สม ขอยืมมธุรสลิขิต ของท่านพี่ประยอม ซองทอง ลงให้ประจักษ์ ณ ที่นี้…0 มติชนจะเป็นหนังสือพิมพ์ และจะเป็นเพื่อนที่ดีของเพื่อนหนังสือพิมพ์…0 ข่าวคนๆ นั้นคืออะไร ตอบง่ายๆ คือ ข่าวสังคมธรรมดา…0 เหตุที่ต้องมีก็เพื่อความทัดเทียมเสมอภาคกับเพื่อนหนังสือพิมพฉบับอื่นหนึ่ง…0 สองนั้น เพื่อบรรเทาข่าวยาวเป็นข่าวย่อย ใครปวดหมองข้องใจ ใครใคร่ใครธุรกิจอันใด มโนสาเร่อะไร ให้หวาน สะเดาดง รับใช้ เป็นลงให้หวานไปข้างหนึ่ง…0 อย่าอึงไป มือเก่าก็ไม่ใช่ มือใหม่ก็ไม่เชิง

เอาเป็นว่า สวมถุงมือใหม่ก็แล้วกัน…0…