กาละแมร์ พัชรศรี : รักษาใจ ไม่ต้องแข่งกับใครเลย

สิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตคือ การต้องสู้กับใจของตัวเอง

คุณว่าจริงไหม แข่งกับใครไม่เท่าแข่งกับตัวเอง ชนะใครว่ายากแล้ว ชนะตัวเองนั้นยิ่งยากกว่า

เมื่อเราโตขึ้นเราได้เรียนรู้โลกมากขึ้น เราได้เปิดหูเปิดตามากขึ้น ทำให้เรารู้ว่านอกจากสมอง สติปัญญาของคนเราที่ว่าแน่แล้ว สิ่งที่เหนือกว่านั้นคือ “ใจ” ของเราเอง

สมอง ความคิด ปัญญา ยิ่งบวกอัตตา ความเป็นตัวตน ความเก่ง ความฉลาด ความที่คิดว่าตัวเองรู้นั่นรู้นี่ มันทำให้เรามีข้อจำกัดในชีวิต บางทีเราก็ไปจนสุดทางที่ปัญญา ความสามารถจะไปได้แล้ว

แต่มันมีสิ่งที่ไร้ข้อจำกัดยิ่งกว่านั้น มันคือ “จิตใจ”

เคล็ดลับหนึ่งของจักรวาลก็คือ เราสามารถสมหวังได้อย่างที่ใจเราต้องการเสมอ ไม่ว่าเราอยากจะมีอะไร อยากจะเป็นอะไร อยากมีชีวิตแบบไหน ทุกอย่างมันมาจาก “ใจ” เราทั้งนั้น แต่ถ้ามันง่ายอย่างนั้น ใครๆ ก็คิดแล้วก็ได้อย่างนั้นสิ

ก็ไม่ได้ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ สิ่งเดียวที่เราต้องทำคือ รักษาใจเราให้ดีอยู่เสมอ

ฟังดูเหมือนง่ายๆ แต่มันก็ไม่ยากเกินความตั้งใจฝึกฝนหรอกค่ะ เพราะไม่มีใครรู้และทำอะไรเป็นตั้งแต่เกิด เรามาเรียนรู้เอาใหม่ทั้งสิ้น และทำมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเกิดความเคยชิน

เหมือนกับที่เราได้ยินบ่อยๆ ว่า สุขหรือทุกข์มันอยู่ที่ “ใจ” มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เหตุการณ์เดียวกัน จะคิดให้ทุกข์ก็ได้ คิดให้สุขก็ได้ เราจะเอาแบบไหนล่ะ

ถ้าเราเคยชินกับการคิดลบ คิดแย่ๆ คิดโกรธ คิดเศร้า คิดเสียใจ คิดหงุดหงิด คิดบั่นทอน คิดท้อแท้ เมื่อมีเหตุการณ์อะไรเข้ามากระทบ แล้วเราตอบสนองมันไปด้วยความเคยชิน เราก็จะได้ผลลัพธ์แย่ๆ เหมือนเดิม

แต่ถ้าเรารู้ว่า แค่เราเปลี่ยนการตอบสนองเป็นด้านบวก หาวิธีคิด วิธีพูด วิธีการอยู่ได้แบบสนุกๆ มีความสุขในทุกสถานการณ์ เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในชีวิตไปอีกด้านเลยทีเดียว เพียงแต่เราต้องมีสติและฝึกทำมันบ่อยๆ เท่านั้น เพื่อให้เรามีร่องความคิดใหม่ มีความเคยชินแบบใหม่ และมันก็จะนำไปสู่นิสัยใหม่ที่ดีขึ้นของเรานั่นเอง เพียงแต่เราต้องบอกกับตัวเองว่าเราจะฝึกฝนมันทุกๆ วัน

เพราะในชีวิตมีเรื่องมาทดสอบ “ใจ” เราเสมอ

%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b9%8c-2

ทุกวันนี้ ฉันจึงสนุกกับการเล่นเกมกับตัวเอง เป็นผู้กำกับให้ชีวิตตัวเอง เมื่อก่อนไม่เคยรู้สึกตัวว่า เราทำ เราพูด เราคิด เรามีปฏิกิริยากับสิ่งที่มากระทบอย่างไร เพราะทุกอย่างทำไปโดยไม่รู้ตัว มี “กิเลส” มาเป็นผู้กำกับชีวิตตัวเองตลอดเวลา

เจอคนทำแบบนี้ใส่ เราก็ต้องโกรธ พอโกรธเราจะทำหน้าอย่างนี้ น้ำเสียงอย่างนี้ คิดกับเขาอย่างนี้ ไม่เคยรู้ตัวหยุดคิด หรือรู้ตัวเลย ทุกอย่างเป็นไปตามอัตโนมัติ แล้วคนที่แย่ก็คือตัวเอง

หรือเวลาเจอเรื่องเสียใจ เราก็ต้องร้องไห้ คิดดิ้นรนทุรนทุรายอยากจะหายจากอาการเศร้า ว่างๆ เหม่อๆ ก็นั่งจิตตกคิดเรื่องเศร้าที่ผ่านมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งๆ ที่มันผ่านไปแล้ว ยังเอากลับมาคิดได้เสมอ แล้วก็ปล่อยตัวเองเล่นมิวสิกวิดีโอไปเรื่อยๆ คล้ายเสพติดความเศร้า เศร้าไปเลย เศร้าให้สาแก่ใจ นี่เป็นเวลาเศร้าของเรานี่นา ใครจะว่าอะไร

แต่เมื่อเราได้มาเรียนรู้ว่ามันมีวิธีที่เราออกแบบชีวิตเราเองได้ โดยไม่ต้องปล่อยไหลทำชีวิตให้เศร้าเหมือนลอยตามน้ำไปเรื่อยๆ ก็ได้นี่นา

เพียงแค่เราคิดเรื่องดีๆ เรื่องอื่นๆ ที่มีความน่าสนใจ ความสำคัญ ความฝันในชีวิตที่เราอยากเห็นตัวเองเป็นแบบนั้นแบบนี้ มันยังมีเรื่องอื่นที่เราต้องทำ แค่เราไม่ต้องมาให้ความสำคัญกับความเศร้ามันก็จะไม่ตัวใหญ่ขึ้น ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตของชีวิต เพราะมันยังมีเรื่องที่น่าตื่นเต้น เรื่องสนุกอื่นๆ ในชีวิตเราให้เราได้ไปเจอมันอีกมากมาย

เรื่องเศร้าในที่สุดวันหนึ่งมันก็ต้องผ่านไป หายไป ดังนั้น เราข้ามมันไปได้เลย หาความสุขในปัจจุบันดีกว่า

เพียงแต่เราต้องหมั่นรู้ตัว มีสติอยู่เสมอ

เพราะเมื่อมันเศร้าขึ้นมาอีก เราจะได้สะกิดตัวเองให้ไปมองเรื่องดีอื่นๆ ของชีวิตได้ ไม่ไหลไปเรื่อยๆ

 

นอกจากการเปลี่ยนวิธีการมองโลกต่อเรื่องต่างๆ แล้ว การกระทำที่มีต่อตัวเองและผู้อื่นก็เป็นเรื่องที่เราต้องฝึกฝนเช่นเดียวกัน

เราต้องหมั่นยิ้มแย้ม มอบความรัก ความรู้สึกดีๆ ให้กับตัวเองและผู้อื่น รู้สึกซาบซึ้งและพึงพอใจกับชีวิตที่เป็นอยู่ ขอบคุณสิ่งดีๆ รอบตัวเรา และแม้แต่ตัวเรา เราก็ต้องขอบคุณ เพื่อให้ความรัก ความเมตตามันสะท้อนและแผ่ไปจากตัวของเรา

เมื่อเราให้ส่งสิ่งใดออกไป เราก็จะได้รับสิ่งนั้นกลับมาเท่าทวีคูณ เรื่องนี้ฉันทดลองทำกับตัวเองอยู่ทุกวัน แค่เรามีสายตา สีหน้า ท่าทางต่อผู้คนที่เปลี่ยนไป คนอื่นๆ ก็จะมีท่าทาง รอยยิ้ม แววตา สีหน้าดีๆ มอบให้เรากลับมา มันจึงเป็นพลังงานชีวิตที่ดีอบอวลอยู่รอบๆ ตัวเราเสมอ

ไม่มีรังสีอำมหิต ไม่มีพลังงานลบ ไม่มีหน้าเบื่อหน่ายโลก ไม่มีแววตาแห่งความเศร้า มันน่าแปลกที่ก่อนหน้านี้เราทำทุกอย่างออกไปอย่างไม่รู้ตัว ทำไปแบบอัตโนมัติ เหมือนตัวเองไม่เคยอยู่ในตัวเอง

มาวันนี้ฉันจึงฝึกฝนตัวเองอย่างตั้งใจที่จะเป็นคนใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม รักษาใจตัวเองอยู่เสมอ

ยังไม่ต้องพูดถึงสิ่งมหัศจรรย์ที่มันตอบแทนเรา แค่เราทำตอนนี้ ผลลัพธ์ดีๆ ที่ได้ทันทีก็คือ ความสุขสงบ

และรอยยิ้มในใจที่มีขึ้นทุกๆ วัน…