“บิ๊กป้อม” คืนสังเวียน! แผ่บารมี “สีกากี-ลายพราง” ไม่มีคำว่า “น้อยใจ” สำหรับ “พี่ใหญ่” คนนี้

โดย ปรัชญา นงนุช

“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เพิ่งเปิดตำแหน่งใหม่รองรับนายพลสีกากี ได้แก่

ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เทียบเท่าจเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เทียบเท่าผู้บัญชาการ และ ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เทียบเท่าผู้บังคับการ

ในรั้วสีกากีมองกันว่าเพื่อรองรับการปรับโครงสร้าง สตช. ในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับ ผบก.-รอง ผบ.ตร. วาระปี 2560

น่าสนใจว่าหากดูชื่อตำแหน่งกลับไปเหมือนตำแหน่งในกองทัพ ที่ปรึกษาพิเศษ สตช. ที่เทียบเท่าจเรตำรวจแห่งชาติ ก็เหมือนตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ รองรับนายทหารที่ติดยศ พลเอก พลเรือเอก และ พลอากาศเอก

ต่อมาตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สตช. เทียบเท่าผู้บัญชาการ ก็เทียบเท่ายศในกองทัพ คือ พลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก และ พลโท พลเรือโท พลอากาศโท ที่ถูกโยกเข้าไปประจำอยู่ในกองทัพ

ส่วนตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิ สตช. เทียบเท่าผู้บังคับการ ก็ตรงกับการที่เหล่าทัพเปิดโอกาสให้นายทหารได้เลือนชั้นยศขึ้นเป็นนายพล โดยให้เข้าไปประจำอยู่ในกองทัพ

ทั้งหมดนี้สะท้อนการจัดทัพสีกากียุค “บิ๊กป้อม” ที่ไม่ต่างกับทัพลายพราง และย่อมหมายความถึง “บารมี” ของ พล.อ.ประวิตร ที่แผ่เข้าไปในทัพสีกากีมากขึ้น หลังนายกฯ มอบตำแหน่ง ประธาน ก.ตร. ให้

AFP PHOTO / PORNCHAI KITTIWONGSAKUL
AFP PHOTO / PORNCHAI KITTIWONGSAKUL

ล่าสุด พล.อ.ประวิตร ก็ได้นั่งนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย คนที่ 17 ตามมติสโมสรสมาชิกโดยไร้คู่แข่ง

จึงมีการมองกันว่าเป็นการปูทางไปสู่การนั่งเก้าอี้ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ที่ “บิ๊กอ๊อด” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา จะหมดวาระลงในปี 2560 เนื่องจาก “บิ๊กอ๊อด” ก็เคยเป็นนายกสมาคมว่ายน้ำฯ เช่นกัน

“ผมยังไม่รู้เลย ไปไกลเหลือเกิน” พล.อ.ประวิตร เผย

ก่อนหน้านี้ “บิ๊กป้อม” อยู่ในสภาวะ “บารมี” ฉายแสงลดลง ครั้งตั้งแต่การจัดโผทหารปลายปี ที่สุดท้ายนายกฯ ขอเลือกเอง ในตำแหน่งคุมกำลัง คสช. และคุมกำลังปฏิวัติ ทั้ง “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. และ “บิ๊กแดง” พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ที่มาแรงแซงโค้งสุดท้าย

เพื่อลดอุณหภูมิในรั้ว ทบ. ที่ “บูรพาพยัคฆ์” ครองเก้าอี้ ผบ.ทบ. มายาวนานนับ 10 ปี และส่งสัญญาณสมานรอยร้าวในกองทัพให้สายอื่นได้โตบ้าง

นี่จึงเป็นยุค “รบพิเศษ” ผงาดในรอบหนึ่งทศวรรษ ส่วนการให้ “บิ๊กแดง” นั่งแม่ทัพภาคที่ 1 ก็เป็นการปูทางไปสู่เก้าอี้ ผบ.ทบ. ของสาย “วงศ์เทวัญ-ราบ 11” ในอนาคตได้เช่นกัน

ทั้งหมดนี้ทำให้พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์อย่าง พล.อ.ประวิตร ถูกมองว่ามี “บารมี” ลดลง

อีกทั้งมีเหตุการณ์ “ไฟลต์บินฮาวาย” ครั้ง พล.อ.ประวิตร ไปร่วมประชุม รมว.กลาโหมอาเซียน-สหรัฐ ที่มีการตั้งคำถามถึงงบประมาณที่ใช้บินกว่า 20.9 ล้านบาท มีผู้ร่วมคณะกว่า 38 คน และมีการนำเอกสารที่อ้างว่ามีการนำ “บุคคลใกล้ชิด” ร่วมไฟลต์ไปด้วย

จนทำให้เป็นเรื่องที่ถูกจับจ้องจากสังคมในเวลานั้น กระทั่ง พล.อ.ประวิตร ต้องออกมาชี้แจงให้ทุกคนคลายสงสัย

“เรื่องส่วนตัวคือเรื่องอะไร ผมมีเรื่องอะไร เรื่องผู้หญิงหรือ ผมไม่ได้ไปยุ่งกับผู้ชาย มันแปลกหรือ ก็ผมเป็นโสดจะไปยุ่งกับใครก็ได้ ถ้าผมไปยุ่งกับผู้ชายก็แปลก ส่วนจะแต่งงานเมื่อไหร่ เรื่องของฉัน และมีคนรู้ใจหรือยัง ก็เรื่องของฉัน เป็นเรื่องส่วนตัว” พล.อ.ประวิตร เผย

201411171201322-20061002145931

มีการมองว่าด้วยสถานภาพ “โสด” นี้เอง ที่เป็นแรงผลักดันให้ “บิ๊กป้อม” เปล่ง “บารมี” ได้อย่างเต็มเปี่ยมในวงการสีกากีและลายพราง เพราะมีเวลาดูแลน้องๆ เต็มที่

นายทหารใกล้ชิดหรือคนที่เคยทำงานกับ พล.อ.ประวิตร พูดตรงกันหลายคน ถึงเหตุผลที่ “บิ๊กป้อม” มาก “บารมี” ทุกวันนี้ เพราะช่วยเหลือน้องทหารทุกคน ไม่ว่าน้องจะขออะไรก็ตาม พี่ก็ให้น้องเต็มที่เสมอ

บรรดาน้องรัก-น้องเลิฟของ พล.อ.ประวิตร จึงไม่ลืมความช่วยเหลือที่มีมา ไม่ว่าในวันนั้นจะเกิดอะไรกับ “พี่ป้อม” ก็ตาม

สิ่งที่สัมผัสได้คือ หลังแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลประจำปี 2559 แม้รายชื่อ ผบ.ทบ. และแม่ทัพภาคที่ 1 จะถูกเลือกโดยนายกฯ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ “บารมี” ของ พล.อ.ประวิตร ลดลงนัก เพราะนายทหารยศนายพลที่เติบโตตามพื้นที่ต่างๆ ก็ยังมีน้องรัก-สายตรง “บิ๊กป้อม” อยู่เต็มไปหมด

อีกทั้งวันนี้ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย จะนั่ง ผบ.ทบ. ครบวาระ 2 ปีหรือไม่ หรือจะถูกโยกไปนั่ง ผบ.สส. ในปีหน้า เพื่อเปิดทางให้ “บิ๊กเข้” พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. สายบูรพาพยัคฆ์-ทหารเสือราชินี ได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ปีหน้า

เรื่องนี้อยู่ที่ว่า นายกฯ มีสัญญาใจกับ “บิ๊กป้อม-บิ๊กเจี๊ยบ” หรือไม่ อย่างไร?

%e0%b8%9b%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a11

ด้วยความเป็นพี่ใหญ่ของ “บิ๊กป้อม” แม้รอบปีที่ผ่านมา จะมีเหตุการณ์ต่างๆ เข้ามาปะทะจำนวนมาก แต่ก็ไม่ได้ลด “ความเคารพ” ที่น้องๆ ในกองทัพมีให้พี่คนนี้

แม้เราจะเห็นการตบเท้าเข้าพบ-ติดตาม “บิ๊กป้อม” ลดลงไปบ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้กำลังใจของ พล.อ.ประวิตร ลดลง ถ้าลดก็จะเป็นเพียงความรู้สึกของคนใกล้ชิดหรือแววตา พล.อ.ประวิตร ที่ดูอ่อนลงเท่านั้น

“พี่ป้อมไม่น้อยใจหรอก” นายทหารใกล้ชิด พล.อ.ประวิตร เผย

ตามสไตล์ “บิ๊กป้อม” จะให้ “น้อยใจ” หรือ “งอน” ใคร คงจะเห็นได้ยาก แต่ถ้าให้ “โกรธ” นั้นมีแน่นอน หากถูกโยงเข้าไปเป็นประเด็นทางการเมืองและถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักๆ

แต่ส่วนใหญ่จะเห็นเพียงการ “งอน” เช่น เรื่องให้ชาวนาขายปุ๋ยแทนข้าว และให้ “ยิ่งลักษณ์” ช่วยชาวนาทั้งประเทศ

ทำให้ พล.อ.ประวิตร ต้องออกมาอธิบายเพิ่มเติมว่าสื่อตีความสิ่งที่ตนเองพูด “ผิด” และทำให้เป็นประเด็น ตนให้สื่อมวลชนไปขายปุ๋ย ไม่ได้หมายถึงชาวนา และไม่ได้ท้า “ยิ่งลักษณ์” ซื้อข้าวทั้งประเทศ แต่บอกว่าจะนำมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่รัฐบาลทำให้ชาวนาทั้งประเทศไม่ได้

ดังนั้น จึงของดตอบคำถามการเมืองไปสักพักหนึ่ง แม้จะยืนยันว่าไม่ได้ “งอน” แค่เพียง “ไม่อยากคุย” เท่านั้น

“ผมไม่อยากคุยในสิ่งที่ไม่อยากคุย คืออะไรที่ถามไม่เป็นเรื่องเป็นราว ก็ไม่มีการพูด” พล.อ.ประวิตร แจง

โดยไม่มีคำว่า “น้อยใจ” สำหรับพี่ใหญ่คนนี้!!