มองบ้านมองเมือง/ปริญญา ตรีน้อยใส /ร้านอาหารที่ฮานอย

มองบ้านมองเมือง/ปริญญา ตรีน้อยใส

ร้านอาหารที่ฮานอย

 

ครับ ยังอยู่ที่ฮานอยครับ ตอนไปฮานอย มีคนชวนไปเที่ยวชมเมืองหลังอาหารเย็น ฮานอยยามราตรีคึกคักไม่แพ้เมืองอื่น

ตรงย่านถนน 34 สาย มีร้านอาหาร บาร์ คาเฟ่มากมาย

ยิ่งคืนวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จะมีการปิดถนนให้คนเดิน แต่เหลือแค่ช่องเดินได้คนเดียว เพราะทุกร้านจะตั้งโต๊ะและเก้าอี้บนผิวจราจร เพื่อให้รองรับผู้คนได้มาก

โต๊ะและเก้าอี้จึงมีขนาดเล็กเหมือนนั่งยอง ขนาดเดียวกับม้านั่งพลาสติกที่ใช้นั่งซักผ้าในบ้านเรา

เมื่อรวมกับสภาพอาคารสองฝั่งถนน ทำให้เกิดบรรยากาศไม่ธรรมดา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเริงรื่น เถิดเทิงกันทั่วหน้า

Cheering Restaurant แต่ร้านอาหารที่จะพาไปมองคราวนี้ ไม่ได้เป็นแบบที่ว่ามา หากเป็นแบบทันสมัยเหมือนร้านอาหารหรูในกรุงเทพฯ ขนาดใหญ่จึงมีทั้งส่วนเปิดโล่ง กับส่วนในห้องปรับอากาศ

แม้เป็นอาคารชั้นเดียว แต่สถาปนิกก็ยกเพดานสูงกว่าปกติ ทำให้ดูโล่งโปร่ง ไม่อึดอัด ทั้งๆ ที่คนเยอะเต็มร้าน

แต่ก็ยังอยากนั่งดื่มนานๆ

 

ลักษณะหรือรูปแบบที่โดดเด่นของร้าน มาจากความคิดของสถาปนิกชื่อดังของเวียดนามสำนักงาน H&P Architects HPA. ที่สนใจศึกษาสาระต่างๆ ของอาคารสิ่งก่อสร้างในฮานอยและเวียดนาม ที่มีทั้งสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น สถาปัตยกรรมฝรั่งเศส และสถาปัตยกรรมสมัยใหม่

สถาปนิกผู้นี้สังเกตเห็นความสวยงามของค้ำยันชายคา ที่อาคารต่างๆ ที่สถาปนิกออกแบบให้แข็งแรง รองรับน้ำหนักชายคาในรูปแบบต่างๆ จนเกิดเป็นลักษณะพิเศษ ค้ำยันของอาคารคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮานอย ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของบาร์เบียร์ ที่ออกแบบให้มีการใช้ไม้ชิ้นเล็กหลายชิ้น ประกอบต่อเป็นชั้นๆ ค่อยๆ ยื่นจากผนังออกไปรับชายคา

จึงนำรูปแบบดังกล่าวมาเป็นต้นแบบ หากลดทอนรายละเอียดและขยายเพิ่มขนาดให้ใหญ่ จนกลายเป็นเสา รองรับผืนหลังคาบาร์เบียร์

แม้ว่าโครงสร้างจริงจะเป็นเหล็ก แต่สถาปนิกอยากให้เป็นไม้ จึงใช้ไม้ปิดโดยรอบ ให้ดูรู้สึกเป็นโครงสร้างไม้ เป็นค้ำยันไม้รับหลังคา เกิดบรรยากาศที่แปลกต่างออกไป

ไม่ถึงกับบังคับให้ไปมองร้านอาหารแห่งนี้ แต่ถ้ามีโอกาสไปฮานอย อยากเห็นอะไรแปลกหูแปลกตา สวยงามบ้าง ก็อยากแนะนำให้ไปมองบาร์เบียร์แห่งนี้

มองแล้วเห็นแล้ว รับรองว่า จะได้เข้าใจอะไรงานออกแบบในบ้านเรามากขึ้นกว่าเดิม