แม้ หม่อม อุ๋ย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล จะมีแค้นฝังหุ่นกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และทีมเศรษฐกิจ ของรัฐบาล คสช.
แต่คำประกาศ “ผมไม่ต้องการให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกเลย”
ด้วยเหตุผล 8 ประการ นั้น
มิได้เป็นเพียงอารมณ์อาฆาตแค้นเท่านั้น
หากแต่เป็นเหตุผล 8 ประการไม่ธรรมดา
ด้วยเพราะมีลักษณะ การเปิดโปง เรื่องที่ เป็นประเด็นสาธารณะ-ส่วนรวม และเกี่ยวพัน ถึง”ผลประโยชน์ทับซ้อน” การคอรัปชั่น
ที่จำเป็นต้อง ชี้แจง ให้กระจ่างชัด ว่าเป็นความจริงหรือไม่
มิฉะนั้นแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นหลังการรัฐประหาร ย่อมไม่ต่างจากที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยกล่าวหา “คนอื่น”มาแล้ว
จึงไม่ทราบว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เลือกจะนิ่งเฉย
ใช้สำนวนตอบโต้เพียงแค่ว่า ให้ไปถามเขาเอง ว่าทำเพราะอะไร ตนไม่มีความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว
แล้วปล่อยให้ พี่ใหญ่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ในฐาน”เซ็นคาร์เบียล”คอนเน็กชั่นร่วมกับหม่อมอุ๋ย ออกมาทำสงครามตัวแทนให้ว่า
“พูดส่งเดชพูดไปเรื่อย คนไม่ชอบกันส่วนตัว”
ถือเป็นความพยายามของพี่ใหญ่ ที่จะพยายาม “กด”ความขัดแย้งครั้งนี้ ให้เป็นเรื่อง “ความไม่ชอบส่วนตัว”
แต่กระนั้น ประเด็นความไม่เหมาะสม จะเป็นนายกฯของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ม.ร.ว.ปรีดิยาธร โยนออกมา
เป็นประเด็นสาธารณะ ที่สังคมชะเง้อหูฟังด้วย
จึงถือเป็นวิบากกรรม “สำคัญ”ต่อการก้าวไปสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรอบ 2
เพราะนี่คือ ก่อกำแพงของราชนิกุล ขวาง เส้นทางอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ อย่างไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหม!
———————-