ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต/ตรวจแถวรถใหม่ 2019 ‘อัลติส’ ปะทะ ‘มาสด้า 3’

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

ตรวจแถวรถใหม่ 2019

‘อัลติส’ ปะทะ ‘มาสด้า 3’

ตามธรรมเนียมของ “ยานยนต์ สุดสัปดาห์” ในฉบับส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ จะรวบรวมรถรุ่นใหม่ๆ ทั้งแบบ “โมเดลเชนจ์” หรือรุ่นใหม่กิ๊ก และ “ไมเนอร์เชนจ์” หรือรุ่นปรับโฉม ที่จะเปิดตัวในปี 2019 มานำเสนอกัน

โดยจะยกรุ่นดังๆ มาพูดถึงบางส่วน แต่ถึงจะเลือกแต่รุ่นเจ๋งๆ ทว่าพื้นที่สัมปทานของผมก็ไม่มากพอที่จะบรรจุข้อมูลทั้งหมดได้

จึงขอแยกออกเป็น 2 ตอน

ประเดิมกับ “โตโยต้า” ที่ช่วงปลายปี 2561 อวดโฉม “คัมรี” ใหม่ ปี 2562 ถึงเวลาที่ “อัลติส” เก๋งยอดนิยมทั้งของบุคคลทั่วไปและนำไปเป็นรถแท็กซี่ จะมาในโฉมใหม่หมดจด

ก่อนหน้านี้ “อัลติสใหม่” เปิดตัวที่เมืองจีนไปแล้ว

 

ดีไซน์ภายนอกดูโฉบเฉี่ยวมากขึ้น กระจังหน้าวัสดุมันวาว ทอดยาวรับกับไฟหน้าดีไซน์ใหม่ กันชนหน้าพร้อมที่ดักลมขนาดใหญ่ มองผาดๆ คล้ายกับ “คัมรี” ย่อส่วนอยู่ไม่น้อย

ขนาดตัวถังขยายขึ้นในทุกมิติ ช่วยเพิ่มความกว้างขวางให้กับห้องโดยสาร

ภายในเน้นความเรียบหรูหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ เชื่อมต่ออุปกรณ์สื่อสาร และความบันเทิงที่ติดตั้งอยู่กลางคอนโซลหน้า เหนือปุ่มควบคุมเครื่องปรับอากาศ

ขณะที่ขุมพลังยังไม่แน่ชัดว่าจะวางเครื่องยนต์บล๊อกไหน ขนาดเท่าไหร่ แต่ที่แว่วมาน่าจะเป็นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร DYNAMIC FORCE มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และอัตโนมัติ

พร้อมกันนี้ยังมีรุ่น “ไฮบริด” ให้เลือกด้วย

ซึ่งก็เป็นไปตามนโยบายของโตโยต้า ประเทศไทย ที่จะมีรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด เป็นทางเลือกสำหรับรถรุ่นใหม่ๆ ที่จะออกมา เนื่องจากมีความพร้อมฝนเรื่องเทคโนโลยี รวมถึงยังประกาศลงทุนโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดในบ้านเราด้วย

อัลติสใหม่น่าจะเข้ามาบ้านเราในช่วงต้นครึ่งปีหลัง และต้องรอลุ้นกันว่าในงาน “มอเตอร์โชว์ 2019” จะมาอวดโฉมให้ชมกันล่วงหน้าหรือไม่

 

ค่าย “ฮอนด้า” ที่ประสบความสำเร็จเหลือเกินในปี 2561 รถหลายๆ รุ่นผงาดเป็นผู้นำในเซ็กเมนต์

ที่มาแน่นอนไม่พ้น “แอคคอร์ด” เจเนอเรชั่นที่ 10 นำตัวเป็นๆ มายั่วน้ำลายในงาน “มอเตอร์ เอ็กซ์โป” ช่วงปลายปี 2561

ดีไซน์ภายนอกหรูหรา แต่แฝงไว้ซึ่งอารมณ์สปอร์ต เส้นสายตัวรถปราดเปรียว เฉียบคม

ขณะที่เครื่องยนต์มีทั้งเบนซิน เทอร์โบรุ่นใหม่ ที่คาดว่าน่าจะเป็นรุ่น 1.5 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ CVT

อีกบล๊อกเป็นเครื่องยนต์ที่มาพร้อมระบบ Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) ใหม่ ซึ่งเป็นระบบ Full Hybrid เจเนอเรชั่นที่ 3 ทำงานร่วมกับเกียร์ E-CVT

นอกจากนี้ยังติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบอัจฉริยะ “ฮอนด้า เซนซิ่ง” (Honda SENSING) ซึ่งมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยของทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสารในรถ รวมถึงเพื่อนร่วมทางบนท้องถนนในทุกการเดินทาง

น่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการงานมอเตอร์โชว์ ปลายเดือนมีนาคม 2562

อีกรุ่นที่ถึงเวลาปรับโฉมคือ “BR-V” รถอเนกประสงค์ 5 ประตู ถึงเวลาแต่งหน้าทาปากแบบไมเนอร์เชนจ์ แต่น่าจะปรากฏตัวในช่วงครึ่งปีหลังไปแล้ว หรืออาจจะไปโผล่ในงาน “มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2019” ปลายปีโน่นเลยก็ได้

 

ส่วนค่าย “มาสด้า” ที่ปี 2561 ถือว่าเป็นค่ายที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในกลุ่มรถญี่ปุ่นเมื่อเทียบเปอร์เซ็นต์การเติบโต ปี 2562 ถือว่าจัดทัพหลวงมาก็ว่าได้

เพราะส่ง “มาสด้า 3” ใหม่ เข้ามาทำตลาดแทนรุ่นเดิม ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก

ดีไซน์ถอดแบบมาจากรถต้นแบบ “KAI CONCEPT” ซึ่งเส้นสายที่เห็นนี้ จะกลายเป็นอนาคตการออกแบบของมาสด้ารุ่นต่อๆ ไป

ภายนอกออกแบบกระจังหน้ารูปทรงห้าเหลี่ยมขนาดใหญ่ ไฟหน้าเรียวบาง ฝากระโปรงแบนราบ หลังคาลาดยาวไปถึงด้านท้ายรถ ทำให้ขยับเข้าใกล้ความเป็นรถคูเป้มากขึ้น

ภายในห้องโดยสารคล้ายรุ่นปัจจุบัน แต่ปรับแต่งให้ดูทันสมัยขึ้น พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน คอนโซลหน้าเรียบหรู รวมถึงหน้าจอแสดงผล

ขุมพลังยืนยันแล้วว่า ช่วงที่เปิดตัวยังคงเป็นเครื่องยนต์ “สกายแอ๊คทีฟ” แต่เป็นรุ่นอัพเกรด ใส่เทคโนโลยี นวัตกรรม และความปลอดภัยมากขึ้น

ส่วนเครื่องยนต์ “สกายแอ๊คทีฟ X” ยังไม่แน่ชัดว่าจะมาทันหรือไม่

“สกายแอ๊คทีฟ เอ็กซ์” เป็นเครื่องยนต์รุ่นที่พัฒนาจากเครื่องยนต์ “สกายแอ๊คทีฟ จี” หรือเครื่องเบนซิน

จุดเด่นมีอัตราเร่งไม่ต่างจากเบนซิน แต่มีความประหยัดพอๆ กับเครื่องดีเซล อาศัยการจุดระเบิดด้วยการอัดที่ควบคุมประกายไฟ (Spark-Controlled Compression Ignition – SPCCI) ซึ่งเป็นวิธีการเผาไหม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า

มาสด้าเคลมว่าเครื่องยนต์ “สกายแอ๊คทีฟ เอ็กซ์” มีความประหยัดเท่ากับรถยนต์มาสด้า 2 ดีเซล ความจุ 1.5 ลิตร หรือกว่า 23 กิโลเมตร/ลิตร แต่มีความแรงและอัตราเร่งพอๆ กับรถยนต์สปอร์ต “เอ็มเอ็กซ์-5”

 

พร้อมกันนี้มาสด้ายังส่ง “มาสด้า ซีเอ็กซ์-8” ครอสส์โอเวอร์เอสยูวีแบบที่นั่งสามตอน ซึ่งที่ญี่ปุ่นมีทั้งแบบขับเคลี่อน 2 ล้อและ 4 ล้อ โดยรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นแบบ 6 ที่นั่ง และขับเคลื่อน 2 ล้อมี 7 ที่นั่ง

ผมเองเคยไปเห็นตัวจริงและลองขับรถยะสั้นๆ ที่ฮิโรชิม่า เมื่อกลางปี 2561 ซึ่งเป็นทริปเดียวกับที่ไปลองขับมาสด้า 3 เครื่องยนต์ “สกายแอ๊คทีฟ X”

ตัวที่จะเข้าไทยน่าจะมาทั้ง 2 รุ่น

ภายในกว้างขวาง บรรทุกคนหรือบรรทุกของได้จุใจ

เครื่องยนต์คาดว่าจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 2.2 ลิตร ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ I-ACTIV AWD ติดตั้งเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย รวมถึงระบบ GVC หรือ G-VECTORING CONTROL ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบช่วยเบรก และออกตัวบนทางลาดชัน

ระบบแจ้งเตือนการขับออกนอกช่องทาง ระบบแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา เพื่อความปลอดภัยอย่างสูงสุด

การขับขี่บอกเลยว่าแรงจัดจริงๆ แถมภายในก็เงียบมาก ช่วงล่างก็เนี้ยบสุดๆ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้

จำได้เลาๆ ว่าช่วงที่ผมเหยียบราวๆ 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง แทบไม่รู้สึกว่ามันเร็วขนาดนั้น

ยิ่งเป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ช่วงล่างกระชับขึ้น การเข้าโค้งหรือกระชากเปลี่ยนเลน รวมไปถึงวิ่งในทางตรงยิ่งหนึบมากกว่า

ผู้บริหารมาสด้าบอกว่ารุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะจับตลาดผู้บริหาร เพราะภายในแต่งหรูหรามากๆ

ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อน่าจะเข้ามาพะบู๊กับรถกลุ่ม “พีพีวี” หรือปิกอัพดัดแปลง

“มาสด้า ซีเอ็กซ์-8” อาจต้องรอถึงปลายปีกว่าจะได้เห็นตัวจริงในเมืองไทย