ขอบคุณข้อมูลจาก | วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย ฉบับวันที่ 9 ต.ค. 2558- 15 ต.ค. 2558 |
---|---|
ผู้เขียน | เสถียร จันทิมาธร |
เผยแพร่ |
การตายของเอี้ยคัง การตายอย่างมากด้วยเงื่อนงำของบิดา เป็นปม 1 ซึ่งส่งผลสะเทือนอย่างลึกซึ้งและตกกระทบมายังเอี้ยก่วย
เหตุผล 1 เพราะว่าตราประทับของเอี้ยคัง
นั่นก็คือ ทรยศต่อแผ่นดินซ้อง กราบโจรเป็นบิดา เข่นฆ่าพี่น้องร่วมเผ่าพันธุ์ โจรที่ว่านี้ก็คือ อ้วนง้วงหงเลียก องค์ชายแห่งราชวงศ์กิม เท่ากับว่าเอี้ยก่วยเป็นลูกคนบาป
มองจากมุมของอึ้งย้งเมื่อแรกได้พบ เด็กหนุ่มนี้มีสีหน้ากลอกกลิ้งเกียจคร้าน มักรู้สึกว่าคลับคล้ายคนผู้นั้นยิ่งนัก อดทดสอบมิได้ พลางพุ่งมือซ้ายออกกดใส่ต้นคอเด็กหนุ่ม เด็กหนุ่มนั้นรู้สึกว่าแรงกดกล้าแข็งยิ่ง รีบใช้กำลังต้านทาน
อึ้งย้งพลันผ่อนคลายกำลังที่มือ เด็กหนุ่มถึงกับผงะหงายอย่างลืมตัวล้มฟาดลง อึ้งย้งชิงสะอึกเข้าหา 2 มือกดใส่หัวไหล่จับจ้องมองดูตา กล่าวอย่างแช่มช้าว่า
เจ้าแซ่เอี้ย นามก่วย มารดาเจ้าแซ่มกใช่หรือไม่”
เด็กหนุ่มนั้นแซ่เอี้ย นามก่วยจริง พลันถูกอึ้งย้งเปิดเผยออกมาสร้างความตื่นตระหนกยิ่ง เลือดลมประดังขึ้นพิษบนมือแผ่ซ่านกลับมา
สมองเลอะเลือนอลวน สิ้นสติสมประดีไป
กิมย้งบรรยายความตามไท้ ดัง น.นพรัตน์ แปลเรียบเรียงออกมาว่า ที่แท้อึ้งย้งยังเห็นเด็กหนุ่มนี้มีเค้าหน้าคลับคล้ายเอี้ยคัง
หวนนึกถึงครั้งกระโน้น
ตอนที่เฮ้งชูอิดแห่งเจ็ดบรรพชิตช้วนจินอยู่ในโรงเตี๊ยมเมืองตงโต้วเคยทดสอบพลังฝีมือต้นสังกัดของมกเนี่ยมซื้อ ยื่นมือกดใส่ต้นคอของนาง
มกเนี่ยมซื้อแทนที่จะถลาล้มไปเบื้องหน้ากลับหงายไปด้านหลัง
นี่เป็นเคล็ดวิชากำลังภายในอันพิเศษเฉพาะของอั้งชิดกง หากเด็กหนุ่มนี้เป็นบุตรของมกเนี่ยมซื้อ วิชาฝีมือที่ฝึกปรือต้องเป็นแนวทางเดียวกัน อึ้งย้งเป็นศิษย์ของอั้งชิดกงย่อมล่วงรู้เคล็ดความกำลังภายในประจำสำนัก พอลงมือทดสอบก็เปิดเผยชาติกำเนิดแท้จริงของเอี้ยก่วย
เอี้ยก่วยหลับใหลเลอะเลือน จวบจนท้องฟ้ามืดค่ำยังคงไม่ฟื้นตื่น กัวติ่งอักแวะเข้ามาดูอาการหลายครั้งย่อมงอมืออับจนปัญญา
เอี้ยก่วยยามสลบไสล ไม่ทราบผ่านไปนานเท่าใด พลันรู้สึกว่ามีคนนวดเส้นทรวงอกของเขาดังนั้น ฟื้นคืนสติมาอย่างแช่มช้า พอลืมตาขึ้นเห็นเงาสีดำเคลื่อนไหววูบหนึ่งมีสิ่งใดพุ่งทะลวงออกนอกหน้าต่างไป
นี่ย่อมเป็นปรากฏการณ์ 1 อันแปลกประหลาดยิ่งสำหรับเด็กอย่างเอี้ยก่วย
ฝืนใจผุดลุกขึ้นใช้มือเกาะขอบโต๊ะ เดินถึงริมหน้าต่าง ชะโงกศีรษะมอง เห็นบนชายคาตึกมีคนผู้หนึ่งยืนห้อยหัว ศีรษะอยู่ล่าง เท้าอยู่บน
คือบุคคลประหลาดที่เมื่อตอนกลางวันให้เขาเรียกอีกฝ่ายหนึ่งเป็น “บิดา”
ท่ายืนของบุคคลประหลาดส่ายหน้าโงนเงน คล้ายกับจะพลัดร่วงหล่นลงจากหลังคาห้องได้ทุกเมื่อ
“เป็นท่าน”
“ไฉนไม่เรียกบิดา”
“บิดา”
แม้เอ่ยคำนี้แต่ในใจครุ่นคิด “ท่านเป็นบุตรเรา บิดาจากใหญ่กลายเป็นเล็ก ยินยอมเรียกหาท่านก็แล้วกัน”
“เจ้าขึ้นมา”
มันปีนป่ายขึ้นบนกรอบหน้าต่างกระโดดขึ้นหลังคา แต่เพราะถูกพิษ สภาพร่างกายจึงอ่อนแอมีเรี่ยวแรงไม่พอ นิ้วมือไม่ทันเกาะเกี่ยวชายคากลับร่วงหล่นลง อดร้องโอยออกมามิได้
บุคคลประหลาดยื่นมือตะปบกลางหลังไว้วางคนลงบนหลังคา พลิกตัวกลับมายืนตรง
ขณะจะกล่าววาจาได้ยินในห้องซ้ายมือมีคนเป่าลมหายใจดับเปลวเทียนทราบว่ามีผู้พบเห็นร่องรอย ดังนั้น โอบอุ้มร่างเด็กน้อยวิ่งปราดจากไป รอจนกัวติ่งอักกระโดดขึ้นบนหลังคารอบข้างก็เวิ้งว้าง
ว่างเปล่าผู้คน
ไม่เพียงเอี้ยก่วยจะแบกหน้าดำจากเรื่องราวแต่หนหลังของเอี้ยคังผู้บิดา หากแต่การประสบพบพานบุคคลประหลาดนี้ก็กลับกลายเป็นเงื่อนปม 1 ซึ่งทวีความซับซ้อน
ทำให้วิถีแห่งชีวิตเอี้ยก่วยคดเคี้ยว วกวนเป็นทวีคูณ
จากรากฐานบิดาเป็นศิษย์คูชูกี่แห่งสำนักชวนจิน จากรากฐานของมารดาเป็นศิษย์อั้งชิดกง สังกัดพรรคกระยาจก การได้รับความอาทรห่วงหาจากบุคคลประหลาด เรียกร้องให้เรียกมันเป็นบิดา ยิ่งทำให้ได้สัมผัสกับอีกสำนักถ่ายทอดวิชา
ขณะเดียวกัน เหตุผล 1 การตายของเอี้ยคังก็ยิ่งสร้างปมและมากด้วยแรงสะเทือนตกกระทบ