เครื่องเคียงข้างจอ/วัชระ แวววุฒินันท์

ละครฟีลกู๊ด…เล่ห์รักบุษบา

 

เครื่องเคียงข้างจอฉบับนี้ขออนุญาตเขียนถึงละครที่เป็นผลงานการสร้างของเจ เอส แอล ที่ลงจออยู่ตอนนี้ทางช่อง 7 สี

ชื่อละครว่า “เล่ห์รักบุษบา”…ชื่อน่ารักดีนะครับ

จริงๆ แล้วเรื่องนี้ เป็นบทประพันธ์มาก่อน เขียนโดยผู้ใช้นามปากกาว่า “ณารา”  เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ นางเอกนั้นเป็นหญิงไทย แต่ต้องไปสมัครงานในไร่องุ่นซึ่งมีพระเอกเป็นชาวพื้นถิ่น

และเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่สนุกสนานและซาบซึ้ง

 

แต่เมื่อนำมาทำเป็นละคร ได้ดัดแปลงให้เรื่องเกิดขึ้นในประเทศไทย ไร่องุ่นในไทยก็มีมากมาย จนเป็นอุตสาหกรรมทางการเกษตรที่ได้รับการยอมรับมานานแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะให้เรื่องนี้อลเวงกันอยู่ในไร่ที่ชื่อว่า “ไร่ภูผา”

ด้วยแนวของเรื่อง ด้วยโลเกชั่นที่เป็นไร่องุ่น และทิวทัศน์สวยงามของธรรมชาติต่างๆ จึงกำหนดให้เรื่องนี้ออกมาในอารมณ์ “ฟีลกู๊ด” คือ ดูแล้วรื่นรมย์ สบายใจ ดูไปยิ้มไป หัวเราะด้วยก็ได้เพราะเป็นแนวสนุกสนานอยู่แล้ว ต่อพงศ์ ตันกำแหง ผู้กำกับฯ บอกว่า ดูละครเรื่องนี้เสร็จ ถ้าไปเข้านอนทันทีรับรองฝันดีแน่นอน

ซึ่งผู้ชมที่เป็นแฟนละครก็เห็นถึงจุดเด่นของละครเรื่องนี้ จึงมีเสียงสะท้อนในโลกโซเชียลว่า วิวสวย ไร่องุ่นสวย ภาพสวย อบอุ่น ดูแล้วอยากไปเที่ยวไร่องุ่นจังเลย

ซึ่งต้องขอบคุณ PB Valley ไร่องุ่นของบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ ที่ตั้งอยู่ที่เขาใหญ่ ได้เปิดไร่ให้ละครเรื่องนี้ไปปักหลักถ่ายทำกัน

ไม่แต่เฉพาะพื้นที่ที่เป็นแปลงองุ่น แต่ในโรงบ่ม โรงผลิต และมุมต่างๆ ก็ถูกถ่ายทอดลงในละครเรื่องนี้ให้เป็นกำไรทางสายตาของผู้ชม

 

พระเอก-นางเอกเรื่องนี้คือ ไมค์-ภัทรเดช สงวนความดี จับคู่กุ๊กกิ๊กชวนฟินกับ พีค-ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ ซึ่งกลายเป็นคู่ขวัญที่คอละครจับตามอง และเฝ้าดูบทบาทพ่อแง่แม่งอนผ่านหน้าจอพร้อมอาการจิกหมอนเป็นระยะ

สำหรับไมค์นั้น ได้สลัดคราบ “นายฮ้อย” ในละคร “นายฮ้อยทมิฬ” ที่ผ่านสายตาไปเมื่อปีที่แล้ว มาปีนี้ไมค์เปลี่ยนจากขี่ม้าจับปืนมาขับรถแทร็กเตอร์และจับพวงองุ่นแทน ในบทบาทของ “ดินแดน” หัวหน้าคนงานกำมะลอ ที่จริงๆ แล้วเป็นถึงเจ้าของไร่

ด้วยรูปร่างสูง กำยำ มีมัดกล้าม ทะมัดทะแมง จึงเชื่อได้ว่าเป็นชาวไร่องุ่นตัวจริง และในละครก็มีบทให้ไมค์ได้ถอดเสื้อโชว์หุ่นให้สาวๆ ได้ชื่นชมอยู่หลายตอน

ซึ่งในตอนที่ทำบทนั้น ได้บอกกับผู้เขียนบทซึ่งก็คือ คุณสรรพชัย เกิดอุทัย และ คุณวรวรรณ ชัยสกุลสุรินทร์ ว่า เข้าใจว่าเป็นชาวไร่ก็สามารถจะถอดเสื้อได้อยู่แล้ว แต่ขอให้อยู่ในเหตุการณ์ที่เหมาะสม ไม่ใช่ยัดเยียด ซึ่งผู้เขียนก็ขยันหาเหตุการณ์ให้ไมค์ได้อวดหุ่นล่ำอยู่บ่อยๆ แบบไม่ให้น่าเกลียด

เป็นอีกหนึ่งกำไรทางสายตาของคนดูผู้หญิง

 

ส่วนพีคนั้น ได้รับเสียงสะท้อนว่าแสดงบท “บุษบาบรรณ” ในเรื่องนี้ได้น่ารัก สมตัว และมีเสน่ห์ ด้วยรูปร่างเล็กๆ บอบบาง หน้าตาสวยแบบสมัยใหม่ และมีดวงตาที่ซุกซน

พีคเคยแสดงภาพยนตร์มาก่อน และเมื่อโดดมาเล่นละครให้กับทางช่อง 7 ก็ฝากฝีมือไปแล้ว 2-3 เรื่องที่ถือว่าสอบผ่าน แต่มาถึงเรื่องนี้ พีคได้บ่มเพาะความสามารถทางการแสดงที่เป็นธรรมชาติ และมีจังหวะที่ดี มาทำให้ตัวละครตัวนี้มีออร่า โดดเด่น และมีเสน่ห์อย่างล้นเหลือ

สิ่งหนึ่งที่ต้องขอชื่นชมคือ “ความไม่ห่วงสวย” ทำให้การแสดงนั้นออกมาแบบถึงไหนถึงกัน ต้องเลอะ ต้องลุย ต้องโทรม ต้องโดนกลั่นแกล้งต่างๆ แต่พีคก็เล่นแบบถวายตัวให้กับบทจริงๆ จึงได้รับรางวัลตอบแทนเป็นคำชื่นชมจากแฟนละครมากมาย

เมื่อไมค์และพีคเข้าฉากร่วมกัน ได้นำการแสดงที่เข้าขากันเหมือนไม่ได้แสดงออกมาให้เห็นบ่อยๆ และเมื่อถึงบทดราม่า จากที่ดูไปหัวเราะไปอยู่ดีๆ นักแสดงก็สามารถพาเราคล้อยตามความรู้สึกไปได้อย่างมืออาชีพ

 

นอกจากไมค์และพีคแล้ว ยังมีคู่พระ-นางอีกคู่ที่เป็นแนวแอบรักเขาให้เรื่องมีหลากอารมณ์ นั่นคือ เคลลี่ ธนพัฒน์ ในบท “ภูวดล” และ แจมมี่ ปาณิชดา ในบท “สริยา”

เรื่องนี้เคลลี่ขอออกแบบทรงผมแนวเกาหลีด้วยตัวเอง บอกว่าเพื่อเปลี่ยนลุค และเป็นการกระชากวัยลงมาได้อีกสิบปี

บทภูวดลพี่คนใหญ่ของไร่ภูผา หนักไปทางดราม่า เพราะแอบรักแจมมี่ แต่สาวเจ้าดันมีใจให้กับน้องชายตนเองคือไมค์นั่นเอง แอบรักจนอกขมไม่พอยังมีปมดราม่าเรื่องพ่อที่แท้จริงอีกด้วย

ส่วนแจมมี่ก็แสดงได้น่าสงสารในบทของหญิงสาวที่แอบรักเขาข้างเดียว แม้จะรู้ว่าภูวดลมีใจให้ก็พยายามจะไม่รับรู้ และยังฝันว่าจะได้แต่งงานกับดินแดน ตามคำสัญญาของพ่อทั้งสองคน

 

ในความเป็นละครฟีลกู๊ด สไตล์โรแมนติกคอเมดี้นั้น มีสาระบางอย่างที่ซ่อนอยู่ข้างใน นั่นก็คือเรื่องของ “ตัวตนและศักดิ์ศรีของผู้หญิง”

จากบทประพันธ์นางเอกคือ “บุษบาบรรณ” นั้นเป็นสาวบริสุทธิ์ ที่เห็นค่าของการรักษาพรหมจรรย์ แม้จะมีแฟนก็ไม่ยอมให้ล่วงล้ำเกินควร ซึ่งในสังคมทุกวันนี้ ความคิดแบบนี้แทบจะกลายเป็นเรื่องเชย ล้าสมัย ยิ่งในสายตาของผู้ชายแล้ว จะมีความรู้สึกว่าผู้หญิงสมัยนี้เป็นผู้หญิงสมัยใหม่ที่เห็นการมีเพศสัมพันธ์กับคนรักนั้นเป็นเรื่องปกติ

แต่บุษบาบรรณเลือกที่จะเป็นตัวของตัวเอง คือ ดูเหมือนจะเปรี้ยว สมัยใหม่ ทันคน มีความกล้า แต่กับเรื่องนี้เธอเลือกที่จะเป็นความภูมิใจส่วนตัว และเป็น “ศักดิ์ศรี” ที่ต้องรักษา

ซึ่งในประเด็นของ “ศักดิ์ศรี” นี้ ไม่ได้มีเฉพาะเรื่องนี้เท่านั้น แต่ผู้หญิงอย่างบุษบาบรรณยังมีศักดิ์ศรีในการไม่ตกเป็นเหยื่อความรักของผู้ชาย เมื่อโดนแฟนเก่าหลอกว่ารักและเอาเงินของครอบครัวไป เธอก็ตัดใจและตัดสัมพันธ์ผู้ชายที่เคยรักมากออกไปจากหัวใจได้

เงินที่เสียไปเป็นเงินของครอบครัวที่เก็บสะสมมา เธอก็มีสำนึกและลุกขึ้นทำงานเพื่อหาเงินใช้หนี้ให้พ่อและแม่ แม้เมื่อถูกหลอกจากพระเอกว่าได้ “ได้เสีย” กันแล้ว เธอก็เสียใจหนักมาก หลังจากร้องไห้จนพอ เธอก็ลุกขึ้นยืนสู้กับความรู้สึกของตนเองแล้วก้าวต่อไปในโลกใบนี้

จะว่าไปแล้วที่บุษบาบรรณเผชิญอยู่เป็นผลจากที่ “ผู้ชาย” กระทำต่อเธอทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นแฟนเก่า หรือแม้แต่ดินแดนเอง

ตัวละครผู้หญิงคนอื่นก็ล้วนถูกกระทำเช่นกัน “สริยา” นั้นถูกผู้ชายที่เป็นพ่อจับให้แต่งงานกับลูกเพื่อนโดยไม่สนใจความรู้สึกของหนุ่มสาวที่เป็นลูก

แถมผู้ชายที่สริยาจะต้องแต่งงานด้วยก็มีความรักให้กับเธอแบบน้องสาวเท่านั้น ในขณะที่เธอก็เป็นเพียงคนรอความรักจากผู้ชาย นั่นคือ การลดทอนศักดิ์ศรีของตนเองลงมา

ตัวละครแม่ หรือ “อักษร” ก็เริ่มเผยให้เห็นประวัติชีวิตที่บอบช้ำ ที่ถูกกระทำจากการต้องแต่งงานอยู่กินกับคนที่ไม่ได้รัก จนมีลูกด้วยกันหนึ่งคนคือเคลลี่นั่นเอง และสามีเก่าก็ตามมาราวีแม้เรื่องจะผ่านไปยี่สิบกว่าปีแล้วก็ตาม

 

สังเกตได้ว่าละครส่วนใหญ่ผู้หญิงจะถูกกระทำมากกว่าผู้ชาย เพราะในสังคมไทยผู้ชายยังถือศักดิ์ศรีที่เหนือกว่า ยังถือสิทธิ์ในการเป็นคนกำหนดบทบาทเสียเอง ซึ่งหลายครั้งก็พิสูจน์ได้ว่าไม่เข้าท่า

อย่างไรก็ดี ละครถูกจัดให้เป็นความบันเทิงที่ส่งตรงถึงคนทุกระดับ มีความชัดเจนถึงหน้าที่ที่ต้องสร้างความสุขให้กับผู้บริโภค

ดีกรีของละคร “เล่ห์รักบุษบา” นี้ อบอวลไปด้วยความสุข น่ารัก สดใส ฟินฟิน จิกหมอนตามประสาคอละคร แต่ถ้าดูให้ดีจะเห็นถึงแก่นสาระบางอย่างที่ซ่อนไว้ แล้วแต่ว่าใครจะเลือกเสพมากน้อยแค่ไหน

ถ้าใครยังไม่เคยชม เชิญเปิดได้ทางช่อง 7 สี หลังข่าวภาคค่ำ เสนอในทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตอนที่วางแผงมติชนสุดสัปดาห์เล่มนี้ ละครก็เดินเรื่องไปได้ครึ่งเรื่องแล้ว ความสนุกกำลังเข้มข้นทีเดียว

ขอฝากด้วยนะครับ “เล่ห์รักบุษบา”