ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 9 - 15 พฤศจิกายน 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
สุจิตต์ วงษ์เทศ
พระกฤษณะ เฟื่องฟูก่อนพระราม
วรรณกรรมในไทย
พระกฤษณะ รุ่งเรืองเฟื่องฟูในอุษาคเนย์ภาคพื้นทวีป ตั้งแต่สมัยแรกๆ รับวัฒนธรรมจากอินเดีย
เป็นอวตารของพระนารายณ์ (พระวิษณุ) ในศาสนาพราหมณ์ฮินดู แล้วเป็นมรดกตกทอดถึงดินแดนไทยสมัยการค้าโลก ราว พ.ศ.1000
[พระรามก็เป็นอวตารของพระนารายณ์ แต่สมัยแรกยังไม่เฟื่องฟูเท่าพระกฤษณะ สมัยหลังต่อไปพระรามจะเฟื่องฟูแทนที่พระกฤษณะ]
บ้านเมืองยุคแรกเมื่อรับรู้เรื่องพระกฤษณะ เชื่อว่าเป็นผู้บันดาลความมั่งคั่งและมั่นคง ได้แก่ ความอุดมสมบูรณ์ในพืชพันธุ์ว่านยา ข้าวปลาอาหาร การค้าทางไกล และปกป้องคุ้มครองความอยู่รอดปลอดภัยจากผีร้ายทั้งปวง
จึงมีตำนานเล่าความเป็นมาอย่างน้อย 2 เรื่อง ได้แก่
- พระกฤษณะ เป็นจอมพลังปราบปรามผีร้ายทั้งปวง (มีผู้รู้อธิบายว่ารับแนวคิดจากเทพเฮอร์คิวลิสของกรีกและโรมัน)
- พระกฤษณะ เป็นกษัตริย์ของพวกยาฑพในมหากาพย์มหาภารตะ แล้วครองเมืองทวารวดี มีความมั่งคั่งจากการค้าทางไกลทุกทิศทาง เป็นต้นทางอุดมการณ์ “นคราธิษฐาน” เมืองศักดิ์สิทธิ์ในพิธีกรรมชื่อทวารวดี
พระกฤษณะ ลุ่มน้ำมูล
ภาพสลักปางกฤษณะโควรรธนะ พบมากทางลุ่มน้ำมูล ที่ราบสูงโคราช และที่ราบลุ่มโตนเลสาบ กัมพูชา ราวเรือน พ.ศ.1500 มีตำนานบอกเล่า ดังนี้
“พระกฤษณะผ่านไปทางภูเขาโควรรธนะ พบคนเลี้ยงวัวกำลังทำพิธีบูชายัญวัวถวายพระอินทร์
เมื่อเห็นดังนั้น พระกฤษณะจึงห้ามไว้ แล้วชักจูงคนเลี้ยงวัวเหล่านั้นหันมาบูชาภูเขาโควรรธนะดีกว่า ซึ่งเป็นแหล่งให้หญ้า ให้น้ำ ให้ความอุดมสมบูรณ์กับฝูงวัวและคนเลี้ยงวัว
พระอินทร์รู้เห็นก็พิโรธ แล้วบันดาลความเดือดร้อนเป็นพายุฝนห่าใหญ่ตกต่อเนื่องไม่หยุด
พระกฤษณะยกภูเขาโควรรธนะขึ้นบังฝนห่าใหญ่ให้ฝูงวัวกับคนเลี้ยงวัวทั้งหลายนาน 7 วัน 7 คืน จนพระอินทร์ต้องยอมแพ้ แล้วยอมให้คนเลี้ยงวัวหันไปนับถือภูเขาโควรรธนะตามคำชี้ชวนของพระกฤษณะ”
ทวารวดี “นคราธิษฐาน” ของทุกบ้านเมือง
บ้านเมืองที่เติบโตหลังรับวัฒนธรรมอินเดีย ต่างจำลองความศักดิ์สิทธิ์เมืองทวารวดีของพระกฤษณะให้คุ้มครองบ้านเมืองของตนและเครือข่ายเครือญาติ
โดยสลักข้อความศุภมงคล (เช่น “ศรี ทวารวดี”) ลงบนเหรียญโลหะ หรือจารึกไว้บนแท่งหิน แล้วมีพิธีกรรมภาวนาสมโภชเสมือนกรุงทวารวดีเมืองพระกฤษณะลอยสวรรค์ลงประดิษฐานสรวมสู่สวัสดิมงคลบ้านเมืองนั้นๆ [แต่ในความจริงเมืองนั้นไม่ชื่อทวารวดี เพียงสมมุติ “นคราธิษฐาน” ว่าเป็นเมืองทวารวดี]
มีตัวอย่างในวรรณกรรมสมัยอยุธยาเรื่องอนิรุทธคำฉันท์ เริ่มด้วยสดุดีพระกฤษณะครองเมืองทวารวดี ดังนี้
๏ ปางพระจักรีแปรเปน กฤษณราญรอนเข็ญ
อรินทรเสี้ยนสยบนา
๏ เสด็จแสดงเนาในเมืองทวา- รพดีสมญา
คือวิษณุโลกบปาน
ตำราวรรณคดีไทยเคยเข้าใจว่าอนิรุทธคำฉันท์ แต่งโดยศรีปราชญ์ กวีสมัยพระนารายณ์
แต่หลักฐานประวัติศาสตร์โบราณคดี ศรีปราชญ์เป็นนิทาน ไม่มีตัวตนจริง จึงไม่เป็นผู้แต่งอนิรุทธคำฉันท์ แต่เป็นงานของนักปราชญ์ประจำราชสำนักสมัยต้นอยุธยา