ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 11 - 17 พฤศจิกายน 2559 |
---|---|
คอลัมน์ | ของดีมีอยู่ |
เผยแพร่ |
ตื่นขึ้นมาแต่ไก่โห่เมื่อเช้าวันพุธ เพื่อจะติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
สนุกยิ่งกว่าดูม้าแข่งในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรกแหละครับ
แต่ว่าหลังจากคะแนนเสียงในรัฐที่ว่ากันว่าเป็น “สวิง สเตต” หรือรัฐที่เสียงแกว่ง กลายเป็นแกว่งเข้าไปหา โดนัลด์ ทรัมป์ มากกว่า ฮิลลารี คลินตัน
ก็เห็นแนวโน้มตั้งแต่สายๆ ว่าประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐอเมริกาคือ โดนัลด์ ทรัมป์ แน่นอน
จะชอบ-ไม่ชอบ จะกลัว-ไม่กลัว
เขาก็มาแล้ว
ทำไมฮิลลารีถึงแพ้ (หรือทรัมป์ถึงชนะ) คงจะมีท่านผู้รู้ออกมาช่วยกันให้ข้อมูล-ข้อคิดกันต่อไป
เช่นเดียวกับประเด็นที่ว่าเมื่อขึ้นมาเป็นท่านประธานาธิบดีทรัมป์แล้ว จะดำเนินนโยบายอะไรต่อไป ดี-ร้ายกับโลกแค่ไหน
ก็คงได้วิพากษ์วิจารณ์กันกระหึ่มตั้งแต่สหรัฐอเมริกามาถึงไทย
อาศัยความรู้แค่หางอึ่ง ที่ใช้วิชาครูพักลักจำมาจากท่านผู้รู้และมิตรสหายทั้งหลาย เอาประเด็นที่ (คิดว่า) น่าสนใจมาขายต่อสองสามเรื่องดังนี้
ชัยชนะของทรัมป์โดยเฉพาะในเขตชนบทหรือรัฐที่ไม่ใช่ “หัวก้าวหน้า” เกิดขึ้นเพราะอะไร
ปัญหาการกระจายรายได้ที่เสื่อมทรามลงเรื่อยๆ ในสหรัฐ จนคนเบื่อ “ระบบ” ที่เป็นอยู่
และหันไปหา “อะไรก็ได้” ที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของระบบ เพื่อมาล้างหรือแก้ไขระบบนั้นจะเป็นจริงแค่ไหน
หรือเอาเข้าจริงสุดท้ายท่านประธานาธิบดีใหม่ก็จะละลายกลืนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของระบบเสียเอง
(เพราะเติบโตร่ำรวยมากับระบบที่ว่านั้นเหมือนกัน และไม่เคยแสดงวิสัยทัศน์หรือแผนการชัดๆ ว่าจะแก้ไขระบบนี้อย่างไร ที่เสนอมาก็มีคนวิจารณ์ว่ายิ่งทำให้ความเหลื่อมล้ำนี้ยิ่งหนักข้อ)
แต่มีมิตรสหายท่านหนึ่งตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนหน้านี้ว่า อยากให้คุณทรัมป์เขาชนะเลือกตั้งให้รู้แล้วรู้รอดไป
ทั้ง (ผู้นำใน) พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันจะได้หันกลับมาดูตัวเองอย่างจริงจัง
ว่าอยู่ห่างจากประชาชนแค่ไหน
จะได้ปรับปรุงตัว ปรับปรุงพรรคให้กลับมาใกล้ชิดกับชาวบ้านอีกหน
ก็ถ้าคุณทรัมป์แกทะเลาะกับพรรครีพับลิกันต้นสังกัด แต่ชนะเป็นผู้แทนพรรคได้ แข่งกับเดโมแครตก็ได้เป็นประธานาธิบดี
ขณะที่สื่อ (อเมริกัน) ส่วนใหญ่ก็ไม่เอาแก
แปลว่าชาวบ้านที่เลือกประธานาธิบดีใหม่ เขาปักใจของเขามาตั้งแต่ต้นแล้ว
แต่ที่จะหนักอกหนักใจคนอเมริกันทั่วไป หรือเอาเข้าจริงแล้วคือคนทั่วโลกมากกว่าก็คือ
เมื่อเข้าสู่อำนาจแล้ว ไม่สามารถมีใครคาดเดาได้ว่าท่านประธานาธิบดีทรัมป์จะทำอะไรต่อไป
ตั้งแต่เรื่องเศรษฐกิจ การเมือง ไปจนกระทั่งถึงเรื่องสงคราม
มองโลกในแง่ดี จะบอกว่าเป็นประธานาธิบดีแล้วระบบหรือข้อมูลจะบีบแม่ปูให้เดินตรงทางก็คิดได้
หรือคิดในแง่ร้ายว่า ตำแหน่งที่ทรงอำนาจที่สุดในโลกจะกระตุ้นสันดานดิบให้ลุกโชนขึ้นกว่าเดิมก็ได้
ความไม่แน่นอนความคาดเดาไม่ได้จึงเป็นได้ทั้งวัฒนะและหายนะ
ทีนี้ถ้าวัฒนะหรือหายนะอยู่แต่ในบ้านเขาก็คงไม่เป็นไร
แต่ทุกครั้งที่อเมริกาจาม โลกก็เป็นหวัดไปด้วย
จากนี้ไป ถ้ายังวางใจไม่ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ใครจะนอนตาหลับบ้าง
แต่ทั้งหมดนี้คนอเมริกันเขาตัดสินใจหรือตัดสินปัญหากันด้วยการเลือกตั้ง ด้วยเครื่องมือตามระบอบประชาธิปไตยนะครับ
ไม่ใช่เห็นต่างแล้วต้องทุบกันให้ตาย หรือไปลากอำนาจนอกระบบที่ไหนมาถล่มอีกฝ่ายให้สูญไปจากโลก
แพ้ก็อดทนรอไป 4 หรือ 8 ปี เดี๋ยวก็มีโอกาสกลับมาใหม่
เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันให้ได้อย่างสันติและยุติธรรม
ยอมรับการตัดสินใจของคนส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ปิดปากตัดทางของคนส่วนน้อย
นี่ต่างหากหัวใจของประชาธิปไตย ที่เคารพความเป็นคนของคนเท่ากัน
ที่แสดงตัวว่าเกลียดกลัวหนักหนาประชาธิปไตยน่ะ
แปลว่าในใจลึกๆ เหยียดคนด้วยกันอยู่หรือไม่