วงค์ ตาวัน : อุ้มฆ่าอย่างไม่เบื่อหน่าย

วงค์ ตาวัน

กลับมาโด่งดังอีกครั้ง “พันศักดิ์ มงคลศิลป์” ในวัย 63 ปี เมื่อถูกออกหมายจับเป็นมือปืนรับจ้างสังหารนายประชา วรทัด อายุ 52 ปี เสี่ยเจ้าของปั๊มน้ำมันศรีสุวรรณรุ่งเรือง ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สระแก้ว จนเสียชีวิต และนางปาลิดา วรทัด อายุ 49 ปี ภรรยาถูกยิงบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา

จนทำให้ทั่วทั้งสังคมหันมาให้ความสนใจกับเส้นทางชีวิตของอดีตตำรวจที่เข้าไปพัวพันการก่ออาชญากรรมรุนแรงหลายคดี แถมเป็นคดีอุ้มฆ่าในระดับประวัติศาสตร์

โดยปรากฏมีชื่อโด่งดังครั้งแรก ในฐานะนายตำรวจระดับสารวัตรสืบสวนแห่งเมืองปราจีนบุรี ผู้เป็นหัวหน้าทีมอุ้มฆ่า 2 แม่ลูกศรีธนะขัณฑ์

หนังสือพิมพ์ “ข่าวสด” เจ้าของผลงานเจาะข่าวประวัติศาสตร์ข่าวนี้ ติดตามเจาะลึกเบื้องหลังการอุ้มฆ่า 2 แม่ลูก อันเชื่อมโยงมาจากคดีเพชรซาอุดีอาระเบียอันลือลั่นระดับโลก ซึ่งเป็นคดีอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดเมื่อปี 2537

“ข่าวสด” ตามแกะรอย จนเปิดชื่อ “พ.ต.ท.พันศักดิ์ มงคลศิลป์” ให้สังคมไทยได้รู้จัก เป็นผู้ต้องหารายแรกที่ถูกสั่งจับ เมื่อพยานหลักฐานชี้ชัดว่าเป็นผู้นำทีมไปดักอุ้ม 2 แม่-ลูกที่ปากทางหมู่บ้านย่านตลิ่งชัน กทม. แล้วเอาตัวไปกักขังไว้ที่บังกะโลย่านสระแก้ว”

จากนั้น “ข่าวสด” ยังขุดคุ้ยต่อไปจนถึงตัวนายตำรวจระดับ พล.ต.ท. คนดัง และลุกลามไปถึงอีก 1 พล.ต.ท. และอีก 1 พล.ต.อ. ทำให้ถูกดำเนินคดีถึง 3 นายพล แต่สุดท้ายพยานหลักฐานพอฟ้องแค่ 1 พล.ต.ท.

“จึงเป็นขบวนการสีกากีอุ้มฆ่าที่ใหญ่โตไม่ธรรมดา”

จากปี 2537 ที่ พ.ต.ท.พันศักดิ์ถูกเปิดโฉมหน้าเป็นมืออุ้มฆ่ามหากาฬ จากนั้นถูกศาลตัดสินลงโทษและติดคุกยาวนาน แต่ได้ลดหย่อนตามลำดับ จนกระทั่งเมื่อปี 2555 จึงได้รับอิสรภาพ

หลังออกจากเรือนจำพ้นคดีอุ้มฆ่า 2 แม่ลูกมาได้ไม่นาน ก็ไปโดนจับในห้างสรรพสินค้า ย่านแจ้งวัฒนะ กทม. ด้วยข้อหาขโมยเสื้อซาฟารี

จนมาปี 2556 จึงสร้างความตื่นตะลึงให้กับสังคม เมื่อเกิดคดีอุ้มฆ่าเสี่ยอ้วน ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว โดยกลุ่มชายฉกรรจ์ดักอุ้มขณะออกจากบ้านตอนเช้ามืดแล้วหายตัวไป ก่อนพบว่าสุดท้ายถูกเอาไปฆ่าและเผานั่งยางกลางป่า

ตำรวจแกะรอยล่าคนร้ายจากรถที่ใช้ในวันเกิดเหตุ ย้อนเส้นทางต่างๆ ด้วยกล้องวงจรปิด จนพบรถของคนร้ายแวะจอดที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เพื่อเตรียมตัวก่อนจะลงมือ

“กล้องวงจรปิดที่ปั๊มน้ำมันนั่นเอง เห็นหน้ากลุ่มคนร้าย และหนึ่งในนั้นที่ตำรวจทีมสืบสวนเห็นแล้วถึงกับตาค้าง ก็คืออดีตสารวัตรนักอุ้มฆ่า “พันศักดิ์ มงคลศิลป์”

เพิ่งออกจากคุกได้แค่ปีเดียว ก็หวนคืนวงการอุ้มฆ่าทันที

คดีนี้ศาลตัดสินประหารชีวิตพันศักดิ์ แต่หลบหนีระหว่างการประกันตัว

หายตัวไปพักใหญ่ แล้วโผล่มาอีกทีด้วยการรับงานยิงเสี่ยปั๊มน้ำมันกลางเมืองสระแก้ว เมื่อปลายเดือนกันยายน 2561 นี้เอง!

เรื่องราวของอดีตตำรวจ พ.ต.ท.พันศักดิ์ จึงเป็นที่สนใจของคนทั้งสังคม อยากรู้นักว่าเข้ามาเดินบนถนนสายตำรวจนักอุ้มฆ่าได้อย่างไร และเหตุใดจึงกล้าก่อคดีอุ้มฆ่าซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่เข็ดหลาบกับคุกตะราง และกระทำราวกับไม่รู้จักเบื่อหน่าย

ย้อนกลับไปยังคดีประวัติศาสตร์ของวงการสีกากี ในวันที่ 1 สิงหาคม 2537 มีการพบศพนางดาราวดี และ ด.ช.เสรี นั่งอยู่ในรถเบนซ์ของนางดาราวดีเอง สภาพถูกเฉี่ยวชน บนถนนมิตรภาพ เขต อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เบื้องต้นส่อเค้าว่าเป็นอุบัติเหตุรถเบนซ์ถูกสิบล้อเฉี่ยวชน

แต่ “ข่าวสด” เห็นชื่อของภรรยาและลูกชายของ “เสี่ยสันติ ศรีธนะขัณฑ์” ผู้เป็นกุญแจสำคัญในการไขคดีเพชรซาอุฯ จึงไม่เชื่อตามข้อมูลเบื้องต้น เจาะจนรู้อย่างทันควันว่า เมียและลูกหายตัวไปตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม ลักษณะโดนคนร้ายที่มีตำรวจเกี่ยวข้องอุ้มตัวไป

“จึงนำมาสู่การพาดหัวข่าวในฉบับเช้าวันที่ 2 สิงหาคม 2537 ว่า “สีกากีอุ้ม-ฆ่า ลูกเมียสันติเพชรซาอุ” อย่างแม่นยำ เพราะลงเอยคดีนี้ก็ตรงกับการพาดหัวข่าวตั้งแต่วันแรกนั่นเอง!”

จากนั้น “ข่าวสด” ตามขุดคุ้ยจนได้ข้อมูลเชิงลึกของเหตุการณ์ตามมาอีกมากมาย กลายเป็นหนังสือพิมพ์ที่นำเสนอข่าวลึกที่สุด แม่นที่สุด

ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รอง อ.ตร. พล.ต.ท.ธนู หอมหวล ผบช.ก. พล.ต.ต.วรรณรัตน์ คชรักษ์ ผบก.ป. จัดทีมลงแกะรอยสืบสวนคดีนี้อย่างเต็มกำลัง ทั้ง พ.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย พ.ต.อ.ประมวลศักดิ์ ศรีสมบุญ พ.ต.ท.เมธี กุศลสร้าง พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง ยศขณะนั้น

จังหวะนั้นเอง ได้มีนายตำรวจระดับ พล.ต.ท. เข้าพบ พล.ต.ท.ธนู หอมหวล อ้างว่ามีลูกน้องมือดีจะส่งเข้ามาช่วยทำคดี

“นั่นเอง พ.ต.ท.พันศักดิ์ มงคลศิลป์ จึงปรากฏตัวขึ้น และได้พบกับ พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง ขณะนั้นเป็นรอง ผกก.1 ป. ยศ พ.ต.ท. ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดสืบของ พล.ต.ท.ธนู ในการพูดคุยหารือการทำงานนี้ ทำให้ พล.ต.ต.เมธีพบจุดน่าสงสัย จึงสอบถามถึงคดีดังๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะการตายของ ส.ท.สมเกียรติ หรือโน้ต น้อยเล็ก มือปืนใกล้ชิดผู้มีอิทธิพล และเป็นนักฆ่ามือฉกาจ แต่ถูกมือดีกว่าเด็ดชีพได้”

พ.ต.ท.พันศักดิ์จึงยอมรับเป็นการส่วนตัวกับ พล.ต.ต.เมธี ในฐานะตำรวจสายสืบสวนด้วยกันว่าเป็นคนลงมือจัดการ ส.ท.โน้ตเอง ด้วยวิธีตั้งด่านเถื่อน แล้วล็อกตัวลงจากรถไปสังหาร

ยิ่งทำให้ พล.ต.ต.เมธีมองออก เนื่องจากการอุ้ม 2 แม่-ลูก ก็ทำโดยวิธีตั้งด่านเถื่อนหน้าทางออกหมู่บ้าน แล้วอุ้มตัวไป

“จากนั้นเมื่อแลกเบอร์โทรศัพท์สำหรับติดต่อกัน ฝ่าย พล.ต.ต.เมธีจึงนำเบอร์ของ พ.ต.ท.พันศักดิ์ไปตรวจสอบ ก็กระจ่างหมด!!”

โดยในวันที่ 2 แม่ลูกถูกด่านเถื่อนเรียกตรวจแล้วอุ้มไปนั้น เบอร์ของ พ.ต.ท.พันศักดิ์โชว์ว่าอยู่ในที่เกิดเหตุ พออุ้มเสร็จก็โทร.ไปหา พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ทันที จากนั้นเบอร์ของพันศักดิ์ก็เคลื่อนย้ายจุดไปอยู่ที่บังกะโลย่านสระแก้ว

จากที่นายพลลูกพี่ของ พ.ต.ท.พันศักดิ์ ส่งมาล้วงตับทีมสืบสวน กลับถูกล้วงตับกลับ จนได้ข้อมูลทีมอุ้มฆ่าทะลุปรุโปร่ง

อันที่จริงเบื้องหลังอุ้มฆ่า 2 แม่-ลูกนั้นมีนายพลเข้ามาเกี่ยวพันถึง 3 คน โดยจุดเริ่มต้นมาจากนโยบายของรัฐมนตรีมหาดไทย ต้องการให้ตำรวจติดตามเพชรซาอุฯ ที่ยังตามได้ไม่ครบกลับคืนมาเพิ่มเติม เพื่อจะนำไปฟื้นสัมพันธ์กับซาอุฯ เพื่อสร้างผลงานให้รัฐบาล

นายพลใหญ่รับนโยบายดังกล่าว แล้วเรียกตัวอีก 2 นายพลมาหารือ แล้ว พล.ต.ท.คนดังก็เสนอวิธีการ เค้นที่เสี่ยสันติ เพื่อให้คายความลับเกี่ยวกับเพชรที่เหลือ

“แต่นายพลใหญ่คงคิดไม่ถึงว่า พล.ต.ท.คนดังจะใช้วิธีไปอุ้มลูก-เมียของเสี่ยสันติมาบีบ ส่วนนายพลอีกรายพอมองออก ไม่อยากพัวพัน แต่ส่ง พ.ต.ท.พันศักดิ์ ลูกน้องคนสนิทมาเป็นตัวแทน”

นี่จึงเป็นคำตอบว่า ทำไม พ.ต.ท.พันศักดิ์ไม่ใช่ลูกน้องตรงของ พล.ต.ท.ชลอ แต่มาร่วมกันทำงานนี้ นั่นเป็นเพราะนายพลลูกพี่ของพันศักดิ์รู้ว่างานนี้อันตราย

จนกระทั่งต่อมา พ.ต.ท.พันศักดิ์จึงถูกจับกุม ในฐานะหัวหน้าทีมอุ้มฆ่าพร้อมทั้งลูกน้องอีกหลายราย แล้วซัดทอดต่อไปยัง พล.ต.ท.ชลอ เป็นผู้สั่งการ

ส่วนอีก 2 นายพล แม้เบื้องต้นจะถูกแจ้งข้อหา แต่สุดท้ายพ้นมลทินเพราะไม่พบพยานหลักฐานชี้ว่าเกี่ยวพันในขั้นตอนอุ้มฆ่า

แต่สำหรับอดีตสารวัตรพันศักดิ์ เมื่อพ้นคดี 2 แม่-ลูก ก็หวนกลับมาอุ้มฆ่าอีกหลายคดี

“เป็นเครื่องสะท้อนเส้นทางของตำรวจในยุคเก่า ที่ทำงานด้านสืบสวนแล้วเลี้ยงโจรเป็นสาย สุดท้ายถลำลึกสู่วงอาชญากร”

ยังดีที่ตำรวจยุคปัจจุบันอยู่กับพยานหลักฐาน อยู่กับนิติวิทยาศาสตร์ อยู่กับการสืบสวนด้วยเทคโนโลยีเป็นหลัก

ไม่เน้นสร้างสายในหมู่โจรจนเป็นหัวหน้าโจรเสียเอง