อนุสรณ์ ติปยานนท์ : ความรักจากบทกวี

บทกวีรัก

“การอ่านบทกวีรักอาจไม่ทำให้เราเข้าใจความรักก็จริงอยู่ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของผู้ตกอยู่ในโมงยามแห่งความรักได้”

กวีไร้ชื่อ

 

 

“ฉันรักคุณปานใดหรือ? ให้ฉันเปรียบเปรย ฉันรักคุนลึกล้ำที่สุด ไพศาลที่สุดและสูงส่งที่สุดเท่าที่จิตวิญญาณของฉันจะไปยังจุดนั้นได้”

อลิซาเบธ บาร์เรตต์ บราวน์นิ่ง (Elizabeth Barrett Browning)                                               กวีหญิงชาวอังกฤษ สมัยวิกตอเรียน

 

 

“ใครกันที่บอกว่าความรักเป็นดังเปลวไฟ

สำหรับฉันแล้วความรักคือเถ้าถ่านต่างหาก

มันเป็นเถ้าถ่านที่หลงเหลือ

หลังจากกองไฟร้อนแรงดับสนิทลง

ความรักคือแก่นสารของการมอดไหม้นั่นเอง”

พาทิเอนซ์ เวิร์ธ (Patience Worth)
กวีหญิงชาวอเมริกันต้นศตวรรษที่ยี่สิบ

 

 

“ฉันรักเธอในวิถีอันเหลือคณานับ ในกาลเวลาอันเป็นอนันต์…

ในชีวิตที่เวียนว่ายไม่รู้จบ ในอายุขัยที่ปราศจากการสิ้นสุด”

รพินทรนาท ฐากูร (Rabindranath Tagore)
กวีชาวอินเดียในศตวรรษที่ยี่สิบ

 

 

“อย่าถามหาเลยว่าเพราะเหตุใดหรือสิ่งใด

ฉันรักคุณแน่แท้จนกว่าวันสุดท้ายของชีวิต

ฉันจำต้องรักเพราะฉันรักคุณ

เพราะชีวิตฉันนั้นบังเกิดมีขึ้นได้เพราะคุณ”

คริสโตเฟอร์ เบรนนาน (Christopher Brennan)
กวีหนุ่มชาวออสเตรเลียในต้นศตวรรษที่ยี่สิบ

 

 

“นั่นคือเสียงใดกันหนอ

ฉันเหลียวไปรอบ ในห้องที่เยือกเย็น

เสียงใดกันหนอที่ปรากฏขึ้นในห้องอันแสนมืดมิดนี้

เป็นเขาวงกตแห่งแสงสว่างหรือที่หลอกลวงเรามาที่นี่

อะไรหรือคือจุดยืนที่เราสถิตนิ่ง

เพื่อจะมองไปรอบๆ และเหลียวหลัง

เราได้ยินเสียงแห่งอะไรหรือ?

เสียงแห่งลมหายใจเป็นสำเนียงแรกที่เราได้ยิน

ฟังสิ มันอยู่ตรงนี้เอง”

แฮโรลด์ พินเตอร์ (HAROLD PINTER)
นักเขียนร่วมสมัยชาวอังกฤษ

 

 

“ความรัก

เปรียบดังลูกพลัมสุก

ที่งอกงามบนต้นที่ทรุดโทรม

เพียงได้ลิ้มรสมัน

รสชาติอันตราตรึงของมัน

จะทำให้คุณไม่อาจลืมเลือน

ความรัก

เปรียบดังดวงดาวสกาวสุกใส

ที่โคจรในฟากฟ้าทิศใต้

เพ่งมองมันอย่างจริงจังเถิด

และเปลวไฟอันโชติช่วงของมัน

จะผลาญเผาดวงตาของคุณ

ความรัก

เปรียบดังขุนเขาสูงชัน

พุ่งทะยานสู้ท้องฟ้าที่มากด้วยสายลมแรง

หากคุณไม่แน่ใจในลมหายใจของตน

ก็จงอย่าปีนป่ายสูงนักเลย”

แลงสตัน ฮิวจ์ (LANGSTON HUGHES)
กวีหนุ่มชาวอเมริกันในศตวรรษที่ยี่สิบ

 

 

“ท้องฟ้าสว่างไสว

ด้วยแสงจันทร์นวล

ช่างงดงามยิ่งนัก

จนข้าฯ ต้องเอนกายกับพื้นธรณีเพื่อเฝ้ามอง

ความรักของเธอ

ทำให้ฉันมั่นใจว่า

ฉันพร้อมจะละทิ้ง

ทุกสิ่งในโลกนี้

และอุทิศทุกอย่าง

ให้กับความเพียบพร้อม

ของเธอ”

รูมี่ (Rumi) กวีชาวเปอร์เซียในศตวรรษที่สิบสาม