วางบิล / เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์ / สู่ร่มกาสาวพัสตร์ เส้นทางบิณฑบาตโปรดเวไนยสัตว์

วางบิล / เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์     

 

สู่ร่มกาสาวพัสตร์

เส้นทางบิณฑบาตโปรดเวไนยสัตว์

 

วันเวลาในผ้าเหลืองที่ล่วงไปแต่ละวัน ย่างเข้าเดือนใหม่ ความเคยชินต่อวัตรปฏิบัติชีวิตประจำวันของพระปานวนเวียนอยู่แต่ในบริเวณวัดแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง หากไม่ต้องออกบิณฑบาต

เพื่อไม่ให้เกิดความจำเจในเส้นทางบิณฑบาต พระปานใช้เส้นทางในแต่ละวันแทบไม่ซ้ำกัน ผิดจากระยะเดือนแรกที่ต้องตามไปกับท่านสุชัย พระพี่เลี้ยงเพียงสัปดาห์แรก จากนั้นพระปานจึงไปเพียงลำพังบนเส้นทางเดิม อาจออกจากวัดก่อนหรือหลังท่านสุชัย บางวันพร้อมกับพระครูพรหม

เมื่อแรกที่ตื่นมาเตรียมตัวออกบิณฑบาต ฟ้ายังไม่สาง พระปานเห็นพระครูพรหมห่มจีวรเสร็จแล้ว แต่ดูเหมือนว่ารอเวลาออกจากห้อง ระหว่างนั้น ท่านพระครูยกมือดูฝ่ามือ แรกๆ พระปานไม่คิดว่าคืออะไร แต่หลังจากนั้นจึงทราบว่า พระครูพรหมดูมือเพื่อให้เห็นลายมือว่าได้เวลาออกบิณฑบาต

เวลารุ่งอรุณของทางพุทธศาสนา ไม่ใช่ 06.00 น. หากเป็นเวลาที่สว่างพอเห็นลายมือบนฝ่ามือตัวเอง จึงเรียกว่ารุ่งอรุณ เป็นเวลาเดียวกับรุ่งอรุณของการสอบสวนสืบสวนในคดี ซึ่งทางตำรวจและศาลไม่นับว่าเวลาหกโมงเช้าคือเวลาเช้า แต่หกโมงเช้า หรือรุ่งอรุณ คือเวลาที่เห็นลายมือจึงเรียกว่าเช้า

ผู้ที่ร่ำเรียนวิชานิติศาสตร์ทราบดีว่า ย่ำรุ่งกับย่ำค่ำ ไม่ใช่เวลาบนหน้าปัดนาฬิกา หรือเวลาตามสากล คือ 06.00 น. และ 18.00 น. หากแต่เป็นเวลาเช้าตามที่เห็นบนฝ่ามือ หรือเวลาที่ดวงอาทิตย์ขึ้น และเวลาค่ำที่มองลายมือบนฝ่ามือไม่เห็น หรือเวลาดวงอาทิตย์ตก

ดังตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยารายงานทุกวันว่า ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 06.08 น. ที่ผาชะนะได อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.05 น. ที่แหลมพรหมเทพ หาดราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เช่นเดียวกับรายงานน้ำขึ้นสูงสุด น้ำลงต่ำสุดที่หน้ากรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ

พระครูพรหมจะไม่ออกบิณฑบาตก่อนเห็นลายมือบนฝ่ามือ ดังนั้น หากเป็นฤดูร้อนเวลาสว่างเร็วกว่าเดิม และสว่างช้ากว่าปกติในฤดูหนาว

 

ส่วนเวลาออกบิณฑบาตของพระปาน ส่วนใหญ่จะออกเมื่อท้องฟ้าสว่างแล้ว ใช้เวลาเดินไปกลับประมาณ 1 ชั่วโมง กลับมานำบาตรและอาหารรับบิณฑบาตให้เด็กลูกศิษย์พระ ซึ่งไม่ใช้เด็กเหมือนเมื่อก่อน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่ผู้ปกครองนำมาฝากให้มีที่พักอาศัยมากกว่าเป็นลูกศิษย์วัด จะได้ไม่ต้องเสียค่าเช่า

ระยะหลังมานี้ พระปานออกบิณฑบาตตามเส้นทางที่แตกต่างไปจากเดิม อาจจะออกวนซ้าย วนขวา เดินบิณฑบาตไกลกว่าแต่ก่อน พยายามไม่ซ้ำเส้นทาง แต่รักษาเวลาไป-กลับ ไม่เกิน 1 ชั่วโมง

ครั้งหนึ่ง เดินไปเกือบถึงบริษัทที่เคยทำงาน ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากวัดที่พระปานบวช ประกอบกับใกล้กับที่ทำงานก่อนเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา พระปานรู้จักกับเด็กสาว 2 พี่น้อง เคยแวะมาคุยกันในบางโอกาส

วันหนึ่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา พระปานเคยเดินบิณฑบาตผ่านหน้าบ้านเด็กสาวทั้งสอง ทั้งที่รู้ว่าเธอทั้งสองยังไม่ตื่น เพียงต้องการแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลจากการบวชไปถึงเธอและครอบครัว ตามที่ทราบถึงอานิสงส์ของการบวชและการแผ่บุญกุศลนั้น

ดังเช่นการออกบิณฑบาตเพื่อแผ่ส่วนบุญไปยังเวไนยสัตว์ทั้งปวงของพระพุทธองค์และสงฆ์ในพุทธศาสนาเท่านั้น

 

หลังจากขึ้นธรรมาสน์เทศน์ให้อุบาสกอุบาสิกา ก่อนหน้านั้น พระปานคิดว่า วันหนึ่งต้องไปเทศน์โปรดโยมมารดา ตามที่เคยเรียนมาว่า ระหว่างพรรษาหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าได้เสด็จขึ้นไปเทศน์โปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อถึงวันออกพรรษา จึงเสด็จลงจากดาวดึงส์ วันนั้นมีการตักบาตรเรียกว่าตักบาตรเทโว ทั้งระหว่างนั้น พระพุทธองค์ทรงเสด็จออกบิณฑบาตโปรดญาติโยมเป็นประจำ

ใช่เพียงเท่านั้น ครั้งหนึ่ง พระปานไหว้วานให้ “เด็กวัด” ว่าจ้างรถแท็กซี่ไปกลับละแวกบ้านที่เคยอยู่เมื่อวัยเด็กถึงวัยรุ่น ก่อนจะออกไปอาศัยกับพี่สาว ทั้งให้แจ้งไปที่น้าสาวซึ่งยังอยู่บ้านนั้นคอยตักบาตร และแจ้งให้กับผู้ที่นับถือเสมือนญาติผู้ใหญ่ซึ่งพระปานเรียกขานว่า “คุณยาย” จะได้ตักบาตรกับหลานพระรูปนี้ด้วย

วันที่ไปบิณฑบาตย่านบ้านเดิม น้าสาวกับหลานรอตักบาตรอยู่ก่อนแล้ว รู้สึกถึงความอิ่มเอิบใจที่มีโอกาสมาให้ญาติผู้ใหญ่ได้ตักบาตร ทั้งยังมีโอกาสไปให้ “คุณยาย” ที่อายุมากแล้ว ออกมายืนตักบาตรหน้าห้องแถวไม่ไหว ต้องนั่งอยู่บนยกพื้นในบ้านรอใส่บาตร

พระปานรู้สึกถึงผลบุญของตัวเอง และการได้รับผลบุญของ “คุณยาย” ที่ลูกชายของท่านเป็นประหนึ่งพี่ชายของพระปานเคยพาไปเที่ยวไปดูหนัง ยิ่งทำให้พระปานรู้สึกว่าได้มีโอกาสสนองบุญคุณของลูกชายคุณยาย มีโอกาสให้คุณยายตักบาตรหลานพระรูปนี้ซึ่งเคารพประหนึ่งญาติผู้ใหญ่คนนี้ เห็นใบหน้ายิ้มอิ่มเอิบระหว่างกรวดน้ำ เชื่อว่า “คุณยาย” คงอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลครั้งนี้ถึง “คุณตา” ซึ่งล่วงลับไปนานแล้วด้วย

ก่อนพระปานจะไปเทศน์ให้โยมแม่ที่บ้านพี่สาว เมื่อรุ้งน้องสาวนำหนังสือบางเล่มที่ฝากซื้อมาให้ จึงบอกฝากไปว่า อีกสองสามวันจะไปบิณฑบาตแถวบ้าน ให้โยมแม่และผู้ที่เคารพนับถือแถวบ้านที่มาร่วมงานวันบวชได้ตักบาตร บอกน้องชายว่าจ้างแท็กซี่ไปกลับจะได้สะดวก

พระปานให้น้องสาวหยิบสตางค์ที่ได้รับจากการไปสวดมนต์ทั้งในวัดและนอกวัดเป็นค่ารถ จะได้ไม่ต้องรบกวนจากทั้งพี่สาวและน้องชาย รวมทั้งเงินบางส่วนให้รุ้ง “เป็นค่ารถกับค่าหนังสือ”

 

การออกไปบิณฑบาตนอกวัดไกลๆ ต้องเรียนให้ท่านพระครูพรหมทราบ ด้วยจะกลับมาฉันไม่ทันกัน ซึ่งพระครูพรหมไม่ได้ท้วงติง ทั้งยังเห็นว่าจะได้ไปโปรดญาติโยมตามธรรมเนียมของการบวชในพุทธศาสนา

เช่นเดียวกับการจะไปเทศน์ให้โยมแม่ที่บ้าน พระครูพรหมจัดหากัณฑ์เทศน์ให้สองสามเรื่อง เรื่องหนึ่ง คืออานิสงส์ของการศรัทธาในพุทธศาสนา ตามที่เคยเทศน์ในวิหารมาแล้ว กับอีกเรื่องหนึ่งคือบุญคุณของบิดามารดา โดยเฉพาะบุญคุณของมารดาที่ให้กำเนิดบุตร และบุตรมีโอกาสอุปสมบทให้ระหว่างมารดายังมีชีวิต กับอีกเรื่องหนึ่งคือความรู้เรื่องพุทธศาสนา

พระปานเลือกเรื่องบุญคุณของบิดามารดาที่มารดามีโอกาสให้กำเนิดบุตรและบุตรมีโอกาสอุปสมบทในพุทธศาสนา ซึ่งแม่ส้มจีน ธนโชติ มีลูกชายถึง 4 คน แม้พระปานจะเป็นลูกชายคนแรก แต่บวชเป็นคนหลังสุด ด้วยน้องชายทั้งสามคนมีโอกาสบวชก่อน ทั้งบวชในพรรษา และบวชเป็นประเพณีเดือนสองเดือน

เมื่อเลือกเรื่องที่จะเทศน์ได้แล้ว พระปานจึงนัดแนะไปเทศน์ให้โยมแม่ฟังในอีกสองสามวันนั้น ทั้งยังพยายามท่องบทเทศน์เพื่อจะได้ไม่ต้องอ่านระหว่างเทศน์

พระปานเลือกวันไปเทศน์ที่ทุกคนในบ้านออกไปทำงาน ด้วยต้องการเทศน์ให้โยมแม่ฟังคนเดียว เป็นเรื่องระหว่างแม่กับพระลูกชาย

แม้ไม่ได้คิดถึงพระพุทธองค์ที่เทศน์โปรดโยมมารดา แต่อดที่จะคิดไปถึงไม่ได้