บทวิเคราะห์ : มหาธีร์กับท่าทีท้าทายจีน

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์

ขอโทษครับ นี่ไม่ใช่เรื่องการก่อการร้ายข้ามชาติ แต่เรื่องนี้แรงจริงๆ ต่อภูมิภาคและระดับโลกเลยทีเดียว

งานนี้อาจทำให้งุนงง บาดเจ็บ ขุ่นเคืองหรือยังคงมองโลกสวยต่อไปเมื่อบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จีน Country Garden Holding Co. ซึ่งต้องการพัฒนาโครงการ Forest City project มูลค่า 100 พันล้านเหรียญสหรัฐในมาเลเซียได้เผชิญหน้าทันทีพร้อมด้วยความสงสัย เมื่อนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด ได้ปฏิเสธการอนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้ออพาร์ตเมนต์และที่อยู่อาศัยระยะยาว

ที่ชัดเจนคือ นายกรัฐมนตรีมหาธีร์ไม่ได้ทำการอย่างหุนหันพลันแล่น โครงการที่อ้างว่าเป็น “คลัสเตอร์ระดับโลกแห่งใหม่ของการพาณิชย์และวัฒนธรรม” และเป็นความฝันของมวลมนุษยชาติ Forest City นี้เป็นย่านคนจีนขนาดใหญ่มีผู้อยู่อาศัยได้ 700,000 คน

โครงการและนโยบายนี้ของนายกรัฐมนตรีมหาธีร์เป็นการออกแบบใหม่ความสัมพันธ์ระหว่างมาเลเซียและสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ดึงให้มาเลเซียออกห่างจากแนวคิดการเป็นลูกค้ารัฐที่เคยนำเสนอโดยผู้นำก่อนหน้ามหาธีร์

มหาธีร์ได้ยกเลิกโครงการเชื่อมโยงด้านตะวันออก East Coast Link ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นโครงการที่ลงทุนโดย China Communication Construction ใช้เงินก่อสร้าง 20 พันล้านเหรียญสหรัฐในการก่อสร้าง Belt and Road ของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก (Najib Razak) ซึ่งแพ้การเลือกตั้งเมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา

โดยอ้างว่าโครงการนี้เชื่อมโยงความมั่งคั่งด้านตะวันออกของมาเลเซีย แต่นายกรัฐมนตรีมหาธีร์ซึ่งเดินทางไปเจรจาอย่างขวานผ่าซากที่กรุงปักกิ่งเมื่อปลายเดือนสิงหาคม เขาแสดงการต่อต้าน “วิสัยทัศน์ใหม่ของอาณานิคม” (new vision of colonialism)

เขาคิดแตกต่างอย่างมากเรื่องทางรถไฟซึ่งจะเชื่อมบริเวณใกล้เคียงกับชายแดนไทยกับทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นท่าเรือที่พลุกพล่านมากของฝั่งตะวันตกมาเลเซียใกล้ช่องแคบมะละกา (Strait of Malacca)

 

นายกรัฐมนตรีมหาธีร์ยังเลื่อนไปก่อนสำหรับโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติในรัฐซาบาร์ (Saban) บนเกาะบอร์เนียว (Borneo) ของมาเลเซีย

นายกรัฐมนตรีมหาธีร์ยกเลิกโครงการนี้บนพื้นฐานว่าเป็นโครงการที่แพงจนเกินไป

แต่ทั้ง 2 สิ่งนี้คือ Country Garden และท่อส่งก๊าซธรรมชาติไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือการเพิ่มหนี้สินของชาติ แต่แสดงถึงอธิปไตยและการเมืองเรื่องเชื้อชาติ (racial politics) อันเป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีมหาธีร์กังวล

การซื้อขาย 2 ใน 3 ของบ้านใน Forest City มาจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีการวิจารณ์กันมากต่อนโยบายของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ นายกรัฐมนตรีมหาธีร์จับต้องถึงความเสี่ยงว่าใครก็ตามที่อาศัยอยู่ในมาเลเซียนานเกิน 12 ปีจะสามารถลงคะแนนเสียงได้

อาจมองว่า Forest City เป็นความเสี่ยงทางการเมืองที่มีตลาดอยู่ที่คนจีนแผ่นดินใหญ่ซึ่งใช้วีซ่าอยู่นานตามนโยบายมาเลเซียเป็นบ้านหลังที่ 2 (Malaysia My Second Home program) ของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบก็ได้

ถ้าโครงการ Country Garden เป็นการอ่านผิดทางการเมือง มันก็เป็นการผิดกฎหมายอยู่ดี หลังจากที่นายกรัฐมนตรีมหาธีร์ระเบิดโครงการนี้ออกมา

ดังนั้น อะไรคือนโยบายที่ดินแห่งชาติที่อนุญาตให้ต่างชาติเป็นเจ้าของในมาเลเซีย การได้รับการยอมรับจากนักลงทุนต่างประเทศ อาจไม่ใช่ประเด็นเนื้อหาสาระสำคัญทั้งหมดที่นักการเมืองคนหนึ่งในอดีตได้รับเงินมหาศาลจนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

 

นายกรัฐมนตรีมหาธีร์ไม่ได้พึ่งพาสาธารณรัฐประชาชนจีนมากเท่ากับผู้นำมาเลเซียคนก่อนหน้านั้น เขาไม่ได้ให้รางวัลแก่นักธุรกิจท้องถิ่นและผู้รับเหมาก่อสร้างที่ถูกกล่าวหาว่าเปลี่ยนแปลงการสนับสนุนพรรค Barisan Nasional พรรคการเมืองแนวร่วมรัฐบาลที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 60 ปี

สิ่งที่ทำให้มาเลเซียภายใต้นายกรัฐมนตรีมหาธีร์มีความสนใจมหายุทธศาสตร์ One Belt One Road (OBOR) ของรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือจะเป็นประเด็นเรื่องอพาร์ตเมนต์ขนาด 4 ห้องนอนซึ่งสามารถสร้างเขตเลือกตั้งใหม่ได้ Forest City สามารถกอบกู้ทรัพย์สินของประเทศมาเลเซียได้ แต่ก็มีลักษณะครอบงำเหนือธุรกิจท้องถิ่น

ดังนั้น ถ้าประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ สามารถเปลี่ยนความสัมพันธ์ฝ่ายเดียวต่อกฎและเกมกับสาธารณรัฐประชาชนจีนและนักธุรกิจจีนได้ เท่ากับว่านายกรัฐมนตรีมหาธีร์จำกัดขอบเขตของสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ ตราบเท่าที่ความกังวลต่อโครงการ Country Garden ของนายกรัฐมนตรีมหาธีร์และคนมาเลย์ยังดำรงอยู่ต่อไป

ความจริงแล้ว การปรากฏตัว การแพร่กระจาย อันรวมถึงอิทธิพลของสาธารณรัฐประชาชนจีน กลุ่มทุนจีน พ่อค้าจีน ปรากฏอยู่ในเกือบทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้และเอเชียกลาง สินค้าและการบริการของจีนแพร่กระจายไปทั่วพอๆ กับการลงทุนขนาดใหญ่ในโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ถนน ท่าเรือ ท่อก๊าซ น้ำมัน เขื่อนพลังน้ำผลิตกระแสไฟฟ้า รวมทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษมากมาย

สิ่งนี้ก็เกิดขึ้นที่ประเทศไทย แต่ดูเหมือนว่ามีแต่มองโลกสวยกันไปหมด ไร้ความกังวลทางการเมืองและเศรษฐกิจเลย

น่าแปลกนะรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร มีผู้นำเป็นฝ่ายความมั่นคง แต่ผู้นำเหล่านั้นไม่เคยนึกถึงอธิปไตย ความมั่นคงทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองเลย

คราวนี้ทำไมลืมอธิปไตยกันง่ายดาย หรือมีอะไรมากกว่าที่เราเห็น