“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. เป็นนายกฯ มา 4 ปีเต็ม

แน่นอนว่าระยะเวลากว่า 4 ปี หากเทียบกับรัฐบาลเลือกตั้งถือว่าอยู่ครบ 1 วาระ และจะต้องมีการจัดการเลือกตั้ง

ถือเป็นเวลาไม่น้อยที่จะสร้างผลงาน สร้างกระแสนิยมกับประชาชน จะได้มากหรือน้อยก็อีกเรื่องหนึ่ง

แต่อีกด้านก็สร้างบาดแผลทางการเมืองไว้ไม่น้อย ซึ่ง “บิ๊กตู่” เองก็ไม่สามารถหลีกหนีสิ่งเหล่านี้ไปได้ ตามวงจรหรือวัฏจักรของการเข้ามาทำงานในพื้นที่ของ “นักการเมือง”

เดือนกันยายนนี้ สิ่งหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์คิดอยู่ตลอดคือ “คำสัญญา” ที่ให้ไว้ว่าจะประกาศอนาคตทางการเมืองว่าจะเป็นอย่างไร

ซึ่งคาดการณ์กันว่า อย่างน้อยๆ พล.อ.ประยุทธ์อาจแค่ประกาศว่าจะสานงานต่อหรือไม่เท่านั้น

แต่ยังไม่ถึงขั้นเปิดเผยขั้นตอนหรือเส้นทางต่างๆ ทั้งหมด โดยเฉพาะจะไปร่วมทัพกับพรรคหรือฝ่ายใด เพราะจะยิ่งมีแต่ผลเสียมากกว่าได้ ซึ่งในสนามการเมืองก็ไม่ควร “ทิ้งไพ่ทั้งหมด” ตั้งแต่ต้น

อีกทั้งจะถูกวิจารณ์หนักเรื่อง “ความชอบธรรม” เพราะยังพ่วงตำแหน่ง “หัวหน้า คสช.” ด้วยนั่นเอง

 

อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่ชุมนุมก่อนครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ก็เคยเสนอให้ ผบ.เหล่าทัพหยุดสนับสนุน คสช.มาแล้ว

แต่ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะ ผบ.เหล่าทัพเป็นสมาชิก คสช. โดยตำแหน่ง ยกเว้น ผบ.ทบ. ที่เป็นเลขาธิการ คสช. และทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ด้วย ที่มีกำลังอยู่ในทุกเหล่าทัพ

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ขอต่อเวลาในการตัดสินใจออกไปถึงอนาคตทางการเมือง โดยขอให้ พ.ร.ป.ว่าด้วย ส.ส. และ ส.ว. มีการโปรดเกล้าฯ ลงมาก่อน

และขอให้มีการออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ในการใช้ ม.44 คลายล็อกให้พรรคการเมืองดำเนินการเรื่องต่างๆ ได้ แต่ยังไม่ให้มีการหาเสียง

โดยคาดว่า พ.ร.ป.ว่าด้วย ส.ส. และ ส.ว. จะประกาศลงราชกิจจานุเบกษาในเดือนกันยายนนี้

และจะตามมาด้วย ม.44 คลายล็อกพรรค ที่ระยะเวลาจะห่างกันไม่มากนัก

แต่ในระหว่างนี้ พล.อ.ประยุทธ์ก็เหมือนจะให้คำตอบคร่าวๆ มาบ้างแล้วผ่านรูปถ่าย ทั้งที่ถ่ายขณะอยู่ที่บ้านพัก กำลังอยู่ระหว่างนั่งพักสายตา ซึ่งในภาพ พล.อ.ประยุทธ์สวมเสื้อคอกลมแขนสั้น และถ่ายภาพกับสุนัขพันธุ์บางแก้วตัวโปรด ชื่อ “เจ้าหมี” ซึ่งเป็นภาพที่ไม่ได้เห็นได้บ่อยนักกับ พล.อ.ประยุทธ์

และน้อยครั้งที่จะมีการนำภาพถ่ายในบ้านพักมาเผยแพร่ เพราะเป็นพื้นที่ส่วนตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่น้อยคนจะได้เข้าไปด้วย

 

ก่อนหน้านี้ก็มีภาพถ่าย พล.อ.ประยุทธ์ในมุมเอ็กซ์คูลซีฟ เช่น ภาพนายกฯ ช่วงทำงานในห้องพักที่โรงแรมเวลาเยือนต่างประเทศ ภาพนายกฯ ขณะนั่งอ่านหนังสือหรือเซ็นเอกสารขณะอยู่บนเครื่องบินหรือเฮลิคอปเตอร์ เป็นต้น

ยังไม่นับรวมที่ พล.อ.ประยุทธ์ สวมเสื้อแจ๊กเก็ต ผ้าพันคอหลุยส์วิตตอง สวมแว่นตาดำ เดินชมพื้นที่ท่องเที่ยวที่กรุงลอนดอนมาแล้วจนเกิดเรื่องราวดราม่าว่าใช้สินค้าแบรนด์เนม จึงทำให้การเดินในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ไม่มีผ้าพันคอ

ยังไม่นับรวมการปรับลุคต่างๆ ของนายกฯ ในการลงพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ การใช้ภาษากายและภาษาพูดต่างๆ ที่พยายามโยงเรื่องประสบการณ์ของตนกับพื้นที่ เพื่อทำให้คนในพื้นที่รู้สึกเป็นพวกเดียวกัน เช่น พล.อ.ประยุทธ์เกิดที่ จ.นครราชสีมา ก็จะพยายามสื่อสารว่าตนเป็นลูกอีสานเช่นกัน

จึงทำให้ พล.อ.ประยุทธ์สลัดทิ้งซึ่งภาพลักษณ์ “บิ๊กทหาร” ลงไปได้มาก เพื่อสวมบทเป็น “ลุงตู่” แทน ซึ่งบทลุงตู่นี้ พล.อ.ประยุทธ์ใช้มาตั้งแต่สมัยเป็น ผบ.ทบ. ที่เปิดค่ายทหารในวันเด็กแห่งชาติให้เด็กไปชมยุทโธปกรณ์ต่างๆ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ก็จะแทนตัวเองว่า “ลุง” กับเด็กๆ ที่มาร่วมงาน

แต่คำว่า “ลุงตู่” มาฟีเวอร์เพราะ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เรียก พล.อ.ประยุทธ์ ว่า “ลุงตู่” เมื่อครั้งเปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ เพื่อให้นายกฯ นำ ผบ.เหล่าทัพเข้าสวัสดีปีใหม่ “ป๋าเปรม” เมื่อ 29 ธันวาคม 2557 ซึ่งหลังเหตุการณ์รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ได้เพียงครึ่งปี

“ขอบคุณนายกฯ ลุงตู่ ขอพูดตามที่คนชอบเรียกนายกฯ ว่า นายกฯ ลุงตู่ ดูเป็นกันเองดี” พล.อ.เปรมกล่าวเมื่อ 29 ธันวาคม 2557

 

ในปีนี้ “ลุงตู่” ถือว่าเป็นอีก “เซเลบริตี้” ของวงการการเมืองพ่วงวงการบันเทิง ไม่ใช่บท “ลุงตู่เป็นคนตลก” หรือมาชิงตำแหน่ง “นักพูด” แทน “โน้ส” อุดม แต้พานิช เช่นเดิมอีกแล้ว เพราะปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์พบเจอทั้งนักการเมืองในพื้นที่ต่างๆ และบรรดาดารา-นักแสดง นักร้อง ที่โด่งดังหลายคน ที่มายัง ทำเนียบรัฐบาล เริ่มจาก “พี่ตูน” อาทิวราห์ คงมาลัย ในโครงการ “ก้าวคนละก้าว” ช่วย 11 โรงพยาบาล จาก อ.เบตง จ.ยะลา ไป อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่มาพบนายกฯ ที่ทำเนียบด้วย

ตามมาด้วยกระแส “ออเจ้า” ที่มาแรงพอๆ กัน โดยกระทรวงวัฒนธรรมได้เชิญทีมนักแสดงละครบุพเพสันนิวาสมาพบนายกฯ เพื่อโปรโมตการสร้างละครส่งเสริมความเป็นไทย ความรักชาติ และปลุกกระแสการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมด้วย ซึ่งในช่วงเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ก็รณรงค์ให้ทุกคนสวมชุดไทย

ตามมาด้วยการเชิญนักร้องเกิร์ลกรุ๊ป วง BNK48 มาเปิดตัวสถานีวิทยุเพื่อครอบครัวของกรมประชาสัมพันธ์ ที่นายกฯ ก็ได้ร่วมเต้นเพลงคุกกี้เสี่ยงทายด้วย พร้อมทั้งจับมือกับนักร้องและถ่ายภาพ ทำเอาเหล่าบรรดาโอตะพากันอิจฉาเลยทีเดียว

ล่าสุดได้มีการจัดประชาสัมพันธ์กิจกรรม “ร่วมกันสร้างไทยไปด้วยกัน” พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “สร้างไทยไปด้วยกัน” ผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทย ทุกวันเสาร์ โดยมีทีมนักแสดงและผู้จัดละคร เช่น “บอย” ถกลเกียรติ วีรวรรณ “ท็อป” จรณ โสรัตน์ “บี” น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ “ฟิล์ม” ธนภัทร กาวิละ “ตั๊ก” มยุรา เศวตศิลา และเฌอปราง อารีย์กุล จากวง BNK48 เป็นต้น เข้าพบนายกฯ ด้วย ซึ่งทั้ง “บี” น้ำทิพย์ และ “ฟิล์ม” ธนภัทร กำลังโด่งดังจากละครเรื่อง “เมีย 2018” ด้วย

สำหรับรายการเดินหน้าประเทศไทย ทุกเย็นหลังเคารพธงชาติ มีการปรับรูปแบบมาแล้วหลายครั้งตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เพื่อกู้เรตติ้งคนดู ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ก็ทราบดีว่าผู้ชมมีผลตอบรับต่อรายการอย่างไรบ้าง

แม้แต่รายการคืนความสุขฯ ทุกวันศุกร์ ที่เป็น พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงผลงานนโยบายต่างๆ แม้จะมีการปรับรูปแบบมาแล้วหลายครั้ง เช่น การเปลี่ยนฉากหลัง จนมีแคมเปญในโซเชียลว่า “ร่วมเปลี่ยนฉากหลังให้ผู้นำ” การจัดให้มีพิธีกรมาดำเนินรายการ ซึ่งสุดท้ายก็กลับมาในรูปแบบเดิมคือ พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงคนเดียว โดยใช้ฉากเป็นห้องต่างๆ ภายในตึกทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น

แต่รายการเดินหน้าประเทศไทยตอนนี้ได้ปรับรูปแบบให้มีดารา-นักแสดง นักร้อง มาดำเนินรายการ คล้ายๆ การทำซีรี่ส์ 1 ตอน เรื่องนโยบายภาครัฐที่ลงไปช่วยเหลือประชาชน เช่น “โป๊ป” ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ ตอน ธนาคารปูม้า, “ท็อป” จรณ โสรัตน์ ตอน ผู้ป่วยติดเตียง, “แบรี่” ณเดชน์ คูกิมิยะ ตอน หนี้นอกระบบ, “มิว” นิษฐา จิรยั่งยืน ตอน วิสาหกิจเพื่อสังคม, เฌอปราง อารีย์กุล ตอน กองทุนเสมอภาคทางการศึกษา เป็นต้น

ส่วนดารา-นักแสดงที่คาดว่าจะมีคิวมาร่วมจัดรายการ ได้แก่ “อ๋อม” อรรคพันธ์ นะมาตร์ “บี้” สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว “บี” น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ “ฟิล์ม” ธนภัทร กาวิละ “กัน” นภัทร อินทร์ใจเอื้อ “ตั๊ก” มยุรา เศวตศิลา “ภูมิ” ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นต้น

สิ่งที่ตามมาคือ การปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการนี้ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าใช้งบประมาณไปในการหาเสียงหรือไม่

“ที่มีการเชิญดารามาในวันนี้ ไม่ได้เสียเงินซักบาทเดียว เขามาช่วยฟรีๆ ส่วนที่ถามว่ามาโปรโมตตัวนายกฯ หรือไม่นั้น เรื่องนี้เคยพูดไปแล้ว ว่าไม่ได้มาโปรโมตตัวนายกฯ แต่มาสร้างการรับรู้และเข้าใจนโยบายของรัฐบาล เข้าใจการทำงานในปัจจุบัน” พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจง

แต่อีกสิ่งที่น่าสนใจคือการปรากฏของเพจต่างๆ ที่ออกมาสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ในโซเชียล โดยเน้นย้ำการใช้คำว่า “ลุงตู่” เป็นส่วนใหญ่ แถมมีการใช้ภาพเป็นตัวการ์ตูนนำเสนอด้วย

แต่บางเพจก็เชื่อกันว่ามีคนใกล้ชิดของ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้จัดทำให้ ด้วยมีการแชร์ภาพนายกฯ แบบเอ็กซ์คูลซีฟออกมา ส่วนเพจที่ทราบกันดีว่าเป็นเพจของทีมงานหน้าห้องนายกฯ คือเพจ Gen.Prayut Chan-o-cha ทีมงาน

ทั้งหมดนี้เป็นปรากฏการณ์ที่ต้องจับตาควบคู่ไปกับการตัดสินใจของ “บิ๊กตู่” กับอนาคตทางการเมือง หลังเปลี่ยนเป็น “ลุงตู่” ที่ดูเข้าถึงง่าย ลดความเป็น “บิ๊กทหาร” หรือภาพ “หัวหน้าคณะรัฐประหาร” ลงไป

ซึ่งคำตอบก็ไม่ยากเกินกว่าจะคาดเดา!!