ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 24 - 30 สิงหาคม 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | ท่าอากาศยานต่างความคิด |
เผยแพร่ |
ภาพยนตร์เรื่อง You’ve got mail ออกฉายเป็นครั้งแรกในปี 1998
ดารานำฝ่ายหญิงในภาพยนตร์เรื่องนั้นคือ เม็ก ไรอัน
ในขณะที่ดารานำฝ่ายชายคือ ทอม แฮงส์
ในส่วนของดารานำฝ่ายหญิงคือ เม็ก ไรอัน นั้นได้สร้างชื่อเสียงโด่งดังมาก่อนหน้าในทศวรรษที่แล้วจากภาพยนตร์แนว Romantic Comedy เรื่อง When Harry met Sally ที่คู่รักสองคนเริ่มต้นจากความเป็นเพื่อน
ภาพยนตร์เรื่องนั้นแทบจะกลายเป็นคู่มือความรักแบบมิตรภาพและทำให้คำว่า Friend Zone กลายเป็นคำที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย (ไม่นับฉากการแสดงถึงการแกล้งถึงจุดสุดยอดของเม็ก ไรอัน ในร้านอาหารที่หลายคนจดจำ)
เม็ก ไรอัน ตอกย้ำการเป็นตัวแทนของหญิงสาวในภาพยนตร์แนวนี้ด้วยภาพยนตร์เรื่อง Sleepless in Seattle ที่คู่รักคู่หนึ่งนัดกันไปสารภาพความในใจบนยอดอาคารเอ็มไพร์สเตต
เช่นเคยที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูง
แต่ในครั้งนี้พระเอกคู่ขวัญของเม็ก ไรอัน เปลี่ยนจากบิลลี่ คริสตัล มาเป็นดาราหนุ่มนาม ทอม แฮงส์
และแล้วอีกหกปีต่อมาพวกเขาก็โคจรกลับมาพบกันอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง “เมื่อคุณได้รับอีเมลของฉัน”
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเสมือนประตูบานเเรกๆ ที่เปิดเผยในสิ่งที่เรียกว่าความสัมพันธ์ออนไลน์หรือ On Line Dating ทั้งเม็ก ไรอัน และทอม แฮงส์ ติดต่อกันผ่านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (โดยผ่านทาง American Online) หรือ AOL
เนื้อเรื่องนำเสนอให้เห็นความแตกต่างระหว่างการติดต่อกันในโลกไซเบอร์และในชีวิตจริง ความลังเล สงสัย ไม่แน่ใจ ว่าผู้ที่ตนเองติดต่อด้วยที่ปลายทางนั้นมีตัวตนจริงหรือไม่ เขาเป็นดังที่เขานำเสนอ หรือเขาแตกต่างออกไปจากนั้น
ความสัมพันธ์ในโลกเสมือนถูกย้ำในตอนท้ายว่ามันจะมีคุณค่าหรือเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อมันถูกสรุปหรือสำทับด้วยโลกในชีวิตจริงเท่านั้น
ยี่สิบปีนับจากภาพยนตร์เรื่องนั้นออกเผยแพร่ การติดต่อกันทางอีเมลสำหรับความสัมพันธ์นั้นกลายเป็นสิ่งล้าสมัยไปเสียแล้ว (ทั้งที่ในช่วงเวลาที่มันออกฉายนั้น อีเมลเพิ่งก้าวเข้าสู่ยุคกลางของมัน)
ปัจุบันเราส่งข้อความไปหาบุคคลที่เราพึงใจผ่านทางสื่อออนไลน์ต่างๆ อย่างสะดวก Facebook, Line, Instragram
ไม่นับว่าเรายังมีพื้นที่ออนไลน์สำหรับความสัมพันธ์ดังกล่าวผ่านแอพพลิเคชั่นจำนวนมาก อาทิ Tinder เป็นต้น
อีเมลกลายเป็นสิ่งคร่ำครึ มันไม่สะท้อนใบหน้า รูปแบบชีวิต หรือแม้กระทั่งกลุ่มเพื่อนของผู้ที่เราติดต่อด้วย
อีเมลกลายเป็นสิ่งพ้นยุคสำหรับความสัมพันธ์แบบนี้ไม่ต่างจากจดหมายรักหรือเพลงยาวในอดีตกาล
ในช่วงทศวรรษที่ 90 หากมีใครสักคนบอกว่าจะแสวงหาคู่รักผ่านทางโลกออนไลน์ (ที่ตอนนั้นแทบไม่ต่างจากโลกเสมือนในนวนิยายวิทยาศาสตร์) ผู้คนจะมองคนเหล่านั้นดังตัวประหลาด
ดังบุคคลผู้ที่น่าสงสารที่ไม่อาจหาคนรักได้จากชีวิตจริง จากผู้คนที่เขาพบเจอ
แต่ในปัจจุบันที่โทรศัพท์มือถือแบบ Smartphone สามารถทำงานได้อย่างอัศจรรย์
ผู้คนกว่าสองร้อยล้านคน (ย้ำว่าสองร้อยล้านคน) กำลังคบหาหรือมีความสัมพันธ์กันในโลกออนไลน์ในทุกเดือน
ในสหรัฐประเทศเดียวหนึ่งในสามของคู่รักที่ลงเอยด้วยการแต่งงานเริ่มต้นความสัมพันธ์ด้วยสื่อออนไลน์และเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองรองจากการแนะนำด้วยเพื่อนหรือคนใกล้ตัว
ข้อดีของความสัมพันธ์ออนไลน์มีหลายประการนับตั้งแต่มันช่วยทลายข้อจำกัดสี่ประการที่เคยเป็นปัญหาใหญ่ในการสร้างความสัมพันธ์ในชีวิตจริงอันได้แก่
ความมั่นใจ (การทักแชตใครที่เราพอใจไปในช่องทางข้อความง่ายดายกว่าการเดินตรงเข้าไปแนะนำตัวต่อเขาในซูเปอร์มาร์เก็ตมากนัก)
ระยะทาง (เราสามารถติดต่อพูดคุยกับผู้คนที่เราพอใจได้ทั่วโลก แม้ว่าเขาจะอาศัยอยู่ในกรีนแลนด์อันหนาวเหน็บและเรากำลังเหงื่อออกในทุกรูขุมขนที่สถานี บ.ข.ส.หมอชิต)
เวลา (เราสามารถทักทายได้ตลอดเวลา ความสะดวกที่จะตอบรับเป็นของอีกฝ่าย)
และความประสงค์ด้านอาชีพ (จากโปรไฟล์ของอีกฝั่งเราอาจล่วงรู้ไปไกลนอกจากอาชีพของเขาไปจนถึงฐานเงินเดือนและสิ่งอื่นๆ ได้อีกด้วยซ้ำไป)
นอกจากนี้มีการสำรวจพบว่าคู่รักที่แต่งงานกันผ่านการติดต่อทางออนไลน์มีโอกาสหย่าร้างน้อยกว่าคู่รักที่พบกันในชีวิตจริง
การที่ต่างฝ่ายต่างรู้จักกันเพิ่มขึ้นทุกวันหลังความสัมพันธ์ที่ลงหลักปักฐานแล้วช่วยสร้างกระบวนการเรียนรู้ที่ยากจะเกิดจากการมีความสัมพันธ์กับบุคคลที่เราคิดว่ารู้จักเขาเป็นอย่างดี อัตราการหย่าร้างในสหรัฐที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดหลังความสัมพันธ์ในสื่อออนไลน์ประสบความสำเร็จคือประจักษ์พยานในเรื่องนี้
การมีแพลตฟอร์มหรือแอพพลิเคชั่นที่เฉพาะเจาะจงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำการแสวงหาคนรักผ่านทางออนไลน์ได้รับความนิยม
การต้องใช้เวลารู้จักกันไประยะหนึ่งก่อนจะพบว่าต่างฝ่ายต่างมีความแตกต่างและข้อจำกัดในเรื่องพื้นฐานเป็นเรื่องเปลืองเปล่าของเวลาอย่างยิ่ง (โดยเฉพาะในยุคสมัยที่เวลาเป็นสิ่งมีค่า)
ลองนึกภาพว่าหลังจากคบหาไปเป็นเวลาหนึ่งปีแล้วพบว่าคนรักของคุณเป็นคนเชื่อถือในเรื่องเครื่องรางของขลัง ในขณะที่คุณเชื่อถือในเหตุผล
ความแตกต่างเช่นนี้ย่อมทำให้เกิดการจากลาในที่สุด
ในขณะที่เรื่องราวพื้นฐานเช่นนี้ เราพบได้หรือค้นได้ในโปรไฟล์ของอีกฝ่ายบนสื่อออนไลน์ได้นับตั้งแต่ต้น
แอพพลิเคชั่น Jdate อันเป็นแอพพลิเคชั่นที่สะดวกสำหรับผู้ที่ค้นหาคนรักที่นับถือศาสนายูดาย
การไม่ต้องสิ้นเปลืองเวลาเช่นนี้ยังครอบคลุมไปถึงแอพพลิเคชั่นที่ใช้ค้นหาคนรักที่เป็นเพศเดียวกับตน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ได้พบกับคนรักผ่านทางสื่อออนไลน์กลุ่มใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม การที่สื่อออนไลน์นำพาคู่รักที่เป็นไปได้มาสู่เราอย่างง่ายดายและสะดวกสบายเช่นนี้ มันก็ส่งผลกระทบในด้านลบเช่นกัน
ข้อแรกคือ มันทำให้เราอาจเกิดอาการไม่กระตือรือร้นที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่จริงจัง แทนที่จะมองสื่อออนไลน์ว่าเป็นดังช่องทางที่ทำให้เราได้รู้จักใครสักคนอย่างจริงจัง มันกลับทำให้เราเพลิดเพลินกับการแสวงหาคนที่ถูกใจไม่รู้จบสิ้น
และหลังจากคบหาบุคคลที่เราชื่นชอบคนแล้วคนเล่า เราอาจเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายและหันกลับมาสู่การอยู่กับตนเองเพียงลำพังแทน
นอกจากนี้การมีตัวเลือกที่มากเกินไปอาจทำให้เราไม่มีความตั้งใจจริงในความสัมพันธ์ที่จะทำให้ความสัมพันธ์ยืนยาวที่สุด เหตุการณ์จำลองนี้ไม่ต่างจากความรู้สึกของชาวประมงที่ออกไปในท้องทะเลซึ่งมีปลาชุกชุม
การสูญเสียปลาในมือตัวแล้วตัวเล่าย่อมไม่ส่งผลกระทบทางจิตใจต่อชาวประมงผู้นั้น
ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ยากจะเกิดในคู่รักที่ได้รับการแนะนำและรู้จักผ่านทางชีวิตจริง
การสูญเสียคนที่เราพึงใจซึ่งเกิดจากการพบปะหรือแนะนำของคนสนิทย่อมส่งผลกระทบมหาศาลต่อความสัมพันธ์ของกลุ่มและมิตรภาพภายในกลุ่ม
การพบรักผ่านการแนะนำนั้นยึดโยงบางอย่างของความเป็นกลุ่มก้อนและทำให้เกิดการยับยั้งชั่งใจในการล้มเลิกความสัมพันธ์ที่ว่านั้นแบบง่ายๆ
คําถามที่น่าสนใจที่เหลืออยู่คือหากความรักและความสัมพันธ์เกิดขึ้นได้ง่ายเช่นนี้ ความรักแบบโรแมนติกที่เชื่อถือกันว่าต้องพิสูจน์ผ่านความจริงใจ ความพยายามและกาลเวลายังสามารถดำรงตนอยู่ได้ไหมในโลกปัจจุบันนี้
หากชีวิตของคนปัจจุบันลื่นไหล (ดังที่นักสังคมวิทยาเรียกขานมันว่า Liquid Modern Life) เราจะยังมีจุดเกาะเกี่ยวใดบ้างกับอุดมคติแบบดั้งเดิมของความรัก
คำตอบที่น่าสนใจมาจากเอมี่ ลูดอง (Amy Loudon) ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อออนไลน์คนหนึ่ง เขากล่าวว่า ความรักในเชิงอุดมคติยังดำรงอยู่ เพียงแต่เราได้หลงลืมมันไปในระหว่างที่เราเพลิดเพลินกับการใช้สื่อออนไลน์สร้างความสัมพันธ์ของเรากับผู้อื่น
การตระหนักอยู่เสมอว่าผู้คนที่เราจะใช้ชีวิตร่วมด้วยนั้นจะมีตัวตนจริงนอกเหนือจากบุคคลที่เราเห็นผ่านจอเป็นสิ่งสำคัญ เขาแนะนำให้เราเรียนรู้อุดมคติและเรื่องราวความรักแบบนั้นจากผู้คนรุ่นก่อน
การสนทนากับญาติผู้ใหญ่ที่ผ่านชีวิตคู่มาว่าพวกเขาพบเจอและประคองความรักได้อย่างไรจะทำให้เราเห็นถึงสิ่งที่ตนเองควรปรับปรุงในความสัมพันธ์ที่เป็นจริง
การได้จินตนาการถึงการเต้นรำครั้งแรกที่ต่างฝ่ายต่างเฝ้ารอ จดหมายรักที่มีความยาวหลายสิบหน้าแต่ผู้รับก็อ่านมันซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้สึกเบื่อหน่าย
การส่งรูปภาพให้แทนกันเมื่อต้องจากกันไปไกล เรื่องราวเหล่านี้จะเปลี่ยนจากหนทางในการสร้างความสัมพันธ์มาสู่ความเข้าใจในสาระของความสัมพันธ์นั้นๆ
ถ้อยคำอันยืดยาวในจดหมายรักเหล่านั้นอาจแลดูเฉิ่นเชยเมื่อเทียบกับข้อความเพียงไม่กี่ตัวอักษรในทวิตเตอร์
รูปภาพเก่าคร่ำคร่า มีรอยพร่ามัว ย่อมไม่อาจเทียบได้กับภาพถ่ายที่ถูกตกแต่งมาอย่างดี
ทว่าลึกลงไปในสิ่งของเหล่านั้นมีแรงปรารถนาที่จะเข้าถึงตัวตนของอีกฝ่ายอย่างแท้จริง
Online Dating อาจเปลี่ยนรูปแบบของประตูที่เป็นทางเข้าสู่ความสัมพันธ์
แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังประตูนั้นจะยืนยง มั่นคง ยาวนานสักเพียงใดนั้น