เทคนิคการขายของให้ได้ แถมยังพิชิตใจลูกค้า!

ธุรกิจพอดีคำ : “ขาย ขาย ขาย”

ใครอยาก “มีความสุข” บ้างครับ

ผมเชื่อว่า คุณก็คงจะเป็นเหมือนอีกหลายๆ คนบนโลกนี้

อยากจะมีความสุขกับชีวิตในทุกๆ วัน

แม้กระทั่งผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่าง “สตีฟ จ๊อบส์” ก็ยังมีวันแย่ๆ ที่ตัวเองทุกข์

จะดีมั้ยครับ ถ้าคุณสามารถมีเคล็ดลับ 5 ประการที่ทำให้คุณเปลี่ยนจากทุกข์เป็นสุข

เคล็ดลับที่บุคคลประสบความสำเร็จอย่างสตีฟ จ๊อบส์ บิลล์ เกตส์ รู้ดีและเก็บเงียบมาตลอด 20 ปี

จะดีมั้ยครับ ถ้าคุณสามารถล่วงรู้ความลับเหล่านั้นได้แล้วในวันนี้

เตรียมตัวพบกับ “คลาสเรียน เปลี่ยนชีวิต”

ที่บุคคลประสบความสำเร็จเหล่านี้เคยเข้าร่วม

คลาสที่จะเปลี่ยนทุกความทุกข์ให้กลายเป็นความสุข

บัดนี้ คนไทยจะมีโอกาสได้เรียนเคล็ดลับเหล่านี้อย่างเข้มข้น

95% ของผู้ที่ลงเรียน ให้คะแนน 5 เต็ม 5

สมัครภายในวันนี้ รับไปเลยส่วนลดพิเศษ 20% สำหรับคนที่อยากจะพัฒนาตัวเองเช่นคุณ

ใกล้เต็มแล้ว รับเพียง 10 ที่นั่งเท่านั้น มาก่อนมีสิทธิ์ก่อน

มีใครที่ไม่ชอบ “ขายของ” บ้างครับ

เชื่อว่าหลายคนแอบยกมืออยู่ในใจ

“ชั้นนี่แหละ เขินทุกครั้ง ต้องให้คนมาสนใจซื้อของเรา”

“เขาจะคิดว่าเราหลอกเขาหรือเปล่านะ”

“ของดีจริงแหละ แต่ต้องขายด้วยหรือ”

ในโลกยุคนี้ ที่ผู้คนถูกดึงดูดความสนใจด้วยสิ่งต่างๆ มากมายรอบตัวตลอดเวลา

ทัศนคติสุดฮิตที่บอกว่า “ถ้าของคุณดีจริง เดี๋ยวลูกค้าก็มาเอง (If you build it, it will come)”

หลักการนี้อาจจะไม่จริงอีกต่อไปแล้ว

หากว่าผลิตภัณฑ์สุดเจ๋งของคุณไม่ได้มีโอกาสไปปรากฏต่อหน้าลูกค้าของคุณ

หรือปรากฏแล้ว แต่สื่อสารไม่ชัดเจน

ทำให้คนไม่เข้าใจว่า “ฉันจะได้ประโยชน์” อะไรจาก “ผลิตภัณฑ์” นี้

หลายคนเหลือเกิน สับสนระหว่าง “ประโยชน์ (benefit)” กับ “คุณลักษณะ (feature)”

ยกตัวอย่างง่ายๆ

“ตู้เย็น” มีคุณลักษณะหลักๆ คือ สร้างความเย็น

ซื้อตู้เย็นของเราสิ สร้างความเย็นได้สูงสุดมากกว่าสองเท่าของคู่แข่ง

ความเย็นนั้นเป็นคุณลักษณะ แต่หากไร้ซึ่งประโยชน์ของผู้ใช้งาน ก็ยากจะขายได้

ถามว่า “ประโยชน์” ของตู้เย็นคืออะไร

ก็ทำให้ “ของสด” มีอายุอยู่ได้นานขึ้น ไม่ต้องสิ้นเปลืองไปซื้อของใหม่ๆ ตลอดเวลา

สุขภาพของคนในครอบครัวก็จะดีขึ้น เป็นพื้นฐานแห่งบ้านที่มีความสุข

สิ่งเหล่านี้ต่างหากคือ “ประโยชน์”

ยกตัวอย่าง “หมอน”

คุณลักษณะคือ นิ่มที่สุดในโลก

แต่ประโยชน์คือ ทำให้นอนหลับเต็มอิ่ม ตื่นขึ้นมาสดชื่นพร้อมรับวันใหม่

เวลาจะขายของให้พูดถึง “ประโยชน์”

ถ้าคนฟังเขาคิดเหมือนๆ กัน และเริ่มอยากได้ เขาจะฟังต่อเอง

แล้วค่อยอธิบายคุณลักษณะของผลิตภัณฑ์ ว่าทำไมมันจึงสร้าง “ประโยชน์” เหล่านั้น

จำไว้ว่า “ประโยชน์” เป็นสิ่งสำคัญ

ไม่ใช่ “คุณลักษณะ” ที่คนทำอาจจะภาคภูมิใจ

แต่ผู้ใช้งานกลับไม่รู้สึกมีส่วนร่วม

มองหน้า “ลูกค้า” แล้วอธิบายให้ได้ว่า “ประโยชน์” คืออะไร

สําหรับคนที่กลัวการขาย

อยากจะให้ลองสำรวจตัวเองดูว่า เหตุใดถึงกลัว

คำตอบที่เคยได้ยินหลักๆ คือ กลัวการถูกปฏิเสธ หรืออยากมีเพื่อนเล่น

การขาย แท้ที่จริงแล้ว สิ่งแรกคือ “ความเชื่อ” ในศักยภาพของผลิตภัณฑ์ของเรา

ถ้าเรายังไม่มั่นใจในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง แล้วจะสามารถสื่อ “ประโยชน์” เหล่านั้น

เราอาจจะยังไม่ควรวางขาย

รอให้มั่นใจสักนิด ก็จะยังไม่สายเกินไป

เมื่อคุณสามารถเข้าใจปัญหาของลูกค้า

พูดภาษาของลูกค้าได้เป็นอย่างดีแล้ว

คุณค่อยๆ หาโอกาสในการแนะนำ “ผลิตภัณฑ์ ใหม่”

การแนะนำนั้น ตามหลักของ Robert Cialdini เจ้าพ่อวงการขายและจิตวิทยาจะขายของ

มีเทคนิคมาฝากอีกสามข้อ

หนึ่ง ให้ก่อนแล้วจึงรับ (Reciprocity)

ให้ส่วนลด บัตรแลก ขนมแจก แถมน้ำดื่ม

อะไรก็ได้ที่เราให้ลูกค้าได้ก่อนที่เขาจะเข้ามาร่วมมือกับ SCB

ข้อสอง มีคนที่มีชื่อเสียงหรือกลุ่มคนนำมาใช้ (Social Proof)

ถ้าสตีฟ จ๊อบส์ เคยใช้แล้วดี ก็บอกผู้ใช้งานให้ทราบ

ถ้าคนที่มาเรียนพูดแนะนำให้ ก็อย่าลืมขอบคุณ

ข้อสาม ความขาดแคลน (Scarcity)

จำนวนจำกัด เพียงคุณโทร.เข้ามาสิบสายแรก

อะไรประมาณนี้ ใส่เข้าไป ไม่เสียหาย

ขายของทั้งที ต้องมีวิชา

ไม่ใช่พูดวกไปวนมา เหมือนคนไม่เคยลงพื้นที่คุยกับลูกค้าจริงๆ

ผู้บริหารลองฝึกดูนะครับ