อารีธา แฟรงคลิน นักร้องผิวสีเลื่องชื่อในน้ำเสียงจนได้รับฉายา “ราชินีเพลงโซล”  ได้จากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยวัย 76 ปี หลังเข้ารับการรักษาตัวจากโรคมะเร็งตับอ่อนที่ได้เข้าสู่ระยะสุดท้าย จากการเปิดเผยโดยเพื่อนๆ ของนักร้องหญิงผิวสีรายนี้เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งตลอดช่วงสุดท้ายของชีวิต มีเสียงการสวดภาวนาและส่งกำลังใจมาให้อารีธาจากทั่วสารทิศ

แฟรงคลิน วัย 76 ปี ที่เป็นอิทธิพลสำคัญของนักร้องหญิงต่อมาอีกหลายเจเนอเรชั่นจากเพลงฮิตที่เป็นอมตะอย่าง “เรสเป็กต์” ปี 1967 “เนเชอรัล วูแมน” ปี 1968 และ “ไอ เซย์ อะ ลิตเทิล เพรย์” ปี 1968 ถูกระบุว่าล้อมรอบไปด้วยครอบครัวและเพื่อนๆ ในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา

แฟรงคลินได้ลงหลักปักฐานสถานะของเธอในประวัติศาสตร์ดนตรีอเมริกันด้วยเสียงร้องที่ทรงพลัง ใสเหมือนเสียงกระดิ่งที่กว้างถึง 4 อ็อกเตฟ

ในชีวิตการเป็นนักร้องนานหลายทศวรรษ เพลงฮิตของเธอขยายวงออกไปหลากหลายแนว ตั้งแต่โซลไปจนถึงอาร์แอนด์บี กอสเปล และป๊อป

แฟรงคลินเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับการบันทึกชื่อเข้าไว้ในหอเกียรติยศร็อกแอนด์โรล เมื่อปี 1997 ในปี 2010 นิตยสารโรลลิ่งสโตนจัดให้เธออยู่ในอันดับที่ 1 ของนักร้องที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลทั้งหญิงและชาย

 

สุขภาพที่ย่ำแย่ลงของแฟรงคลิน ได้รับการเปิดเผยเป็นครั้งแรกในเว็บไซต์โชว์บิซ 411 เมื่อคืนวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมาโดยโรเจอร์ ฟรีดแมน นักข่าวที่เป็นเพื่อนของครอบครัวแฟรงคลิน เขาเขียนว่า เธอ “ป่วยหนักอยู่ในดีทรอยต์ ครอบครัวของเธอขอให้สวดภาวนาให้เธอและขอความเป็นส่วนตัว”

แฟรงคลิน เป็นที่รู้จักดีในวงกว้างจากชื่อหน้าของเธอ อารีธา เป็นนักร้องในสไตล์ดีวาที่แท้จริง เธอพุ่งขึ้นมาจากการเป็นนักร้องกอสเปลที่โบสถ์ของพ่อเธอ มาสู่การเป็นนักร้องที่ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ตเพลงริธึ่มแอนด์บลูส์ และป๊อปในช่วงยุคทศวรรษ 1960 และ 1970

นอกจาก “เรสเป็กต์” ที่เธอคัฟเวอร์เพลงของโอติส เรดดิ้ง อย่างทรงพลังจนกลายเป็นเสมือนนามบัตรของเธอ แฟรงคลินยังมีเพลงฮิตติดอันดับท็อป 40 ซิงเกิลอีกหลายสิบเพลง อ้างอิงจากข้อมูลของหอเกียรติยศร็อกแอนด์โรล

เพลงฮิตเพลงอื่นๆ มีรวมถึงเพลง “เดย์ ดรีมมิ่ง” ปี 1972 “จัมพ์ ทู อิต” (1982) “ฟรีเวย์ ออฟ เลิฟ” (1985) และ “อะ โรส อิส สติล อะ โรส” (1998) ขณะที่เพลง “ไอ นูว์ ยู เวอร์ เวตติ้ง (ฟอร์ มี)” เพลงดูเอ็ตกับจอร์จ ไมเคิล ปี 1986 ขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ในหลายประเทศ

สไตล์การร้องของเธอส่งอิทธิพลให้กับนักร้องหลายคนตั้งแต่ป๊อปดีวาอย่างมารายห์ แครีย์ และวิตนีย์ ฮุสตัน ผู้ล่วงลับที่แม่ของเธอเป็นนักร้องแบ๊กอัพให้กับแฟรงคลิน ไปจนถึงอลิเชีย คีย์ส บียอนเซ แมรี่ เจ. ไบลจ์ และเอมี ไวน์เฮาส์

 

แฟรงคลินได้รับรางวัลแกรมมี่อะวอร์ดส์ 18 ตัว รวมถึงรางวัลในสาขาผู้ประสบความสำเร็จสูงสุดในอาชีพ และได้ร่วมร้องเพลงในงานสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐถึง 2 คน คือบิลล์ คลินตัน และบารัค โอบามา

ในปี 2005 แฟรงคลินได้รับรางวัลเพรสซิเดนเชียล เมดัล ออฟ ฟรีดอม ซึ่งเป็นเกียรติยศสูงสุดของพลเรือน จากจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ประธานาธิบดีสหรัฐในขณะนั้น

นิตยสารโรลลิ่งสโตนยกย่องเธอไว้ว่า “คุณรู้ว่านี่เป็นพลังอำนาจจากสรวงสวรรค์ คุณรู้ว่านี่คือสิ่งที่พระเจ้าสร้าง” “และอารีธาเป็นของขวัญจากพระเจ้า”