ผ่าปัญหา! “อาจารย์ซื้อกามเด็ก” – “เซ็กซ์ในสวนลุมฯ” ทำให้ไทยยังถูกจับตา!? สถานะ”ค้ามนุษย์” เทียร์ 2

โล่เงิน / เซ็กซ์ในสวนลุมฯ-อจ.ซื้อกาม ด.ช. สถานะ “เทียร์ 2” ที่ยังถูกจับตา แก้ปม “ค้ากาม-ค้ามนุษย์”

ชาวเน็ตออกมาตีแผ่ สวนสาธารณะปอดใหญ่ใจกลางกรุงกลายเป็นแหล่งเสพเซ็กซ์กลางเมืองหลวง เป็นเรื่องร้อนในโลกทวิตเตอร์ พบเห็นชายรักชายแอบมีเซ็กซ์กันที่สวนลุมพินี

วันแรกที่เป็นข่าว พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกมายืนยันไม่มีเรื่องดังว่า

พร้อมท้าหากมีใครพบเห็นจะมีเงินรางวัลให้ 1 แสนบาท

ก่อนสั่งการตัดต้นไม้ที่รกทึบออกจากพื้นที่สวนใหญ่ จัดเจ้าหน้าที่ดูแลบริเวณโดยรอบให้มากยิ่งขึ้น

แต่วันต่อมาก็ต้องออกมายอมรับว่ามีอยู่จริง

เจ้าหน้าที่ดูแลสวนแห่งนี้เล่าว่า ส่วนมากจะเป็นกลุ่มของชายรักชาย อายุประมาณ 20-30 ปี มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ทำทีเหมือนมาเดินเล่น นั่งคุยกันตามปกติ

พอถึงช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน กลุ่มดังกล่าวก็จะรวมตัวกันและพากันไปพลอดรักตามสถานที่ภายในสวนสาธารณะชนิดเย้ยสายตา

นักข่าวลงพื้นที่สแกนเมืองกรุง พบอีกสวนย่านฝั่งธนบุรี ชื่อเรียก “สวนอีเดน” หรืออีกชื่อคือ “สวนสาย 2” คนย่านนั้นรู้ดี เป็นที่พลอดรักของกลุ่มรสนิยมชายรักชาย

ยิ่งช่วงเวลาพลบค่ำยิ่งคึกคัก ถึงขั้นมีอะไรกันโจ๋งครึ่มหรือไม่ ไม่สามารถยืนยัน

แต่จากปากคำ พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ ผกก.สน.ธรรมศาลา เจ้าของท้องที่ที่ตั้งสวนอีเดนเผยว่า เชื่อว่าสวนแห่งนี้มีการลักลอบทำอนาจารจริง

เนื่องจากก่อนหน้านี้พบถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 ชิ้น

ได้สั่งการสายตรวจพยายามออกตรวจตราอย่างเข้มงวด ถึงขั้นทางเจ้าหน้าที่ต้องเล่นแง่ นำไสยศาสตร์เข้ามาช่วย นำศาลมาตั้งเอาพวงมาลัยมาคล้องและนำชุดไทยมาแขวนกับต้นไม้ ทำให้เหมือนกับว่าตรงนี้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ เพื่อไม่ให้คู่รักมาพลอดรักในสถานที่ลับตาคน

ซึ่งได้ผล กลุ่มคนที่นิยมเสพเซ็กซ์ในสวนสาธารณะบางตาลง

จากกรณีนี้ เจ้าหน้าที่รัฐประสานเสียงคล้ายจำนนด้วยหลักฐานว่ามีการลักลอบมีเพศสัมพันธ์ในสวนสาธารณะบางแห่งจริง แต่ก็ยืนยันว่าไม่ใช่การค้าประเวณี

แต่เป็นลักษณะตกลงปลงใจชอบพอกันแต่ดันใช้สถานที่ไม่เหมาะสม เท่านั้นเอง!?

แฟ้มภาพจากมติชนออนไลน์

ทว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด สวนสาธารณะริมถนนข้างทางหลายแห่งในกรุงเทพมหานคร มีชื่อเสียงว่าเป็นแหล่งให้บริการด้านประเวณีแบบโลว์คอสต์แต่ไหนแต่ไรมา?!

ตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ผ่านมากี่เจเนอเรชั่น รูปแบบการค้ากามตามแหล่งสาธารณะแบบเย้ยกฎหมายก็ยังสามารถพบเห็นได้ทั่วไป สอบถามวินมอเตอร์ไซค์ ตุ๊กตุ๊ก แท็กซี่ใกล้ๆ ที่ไหนทราบหมด

พูดถึง “ผีขนุน” ว่ากันแบบไม่ต้องมือถือสากปากถือศีล ชี้จุดกันได้เลยว่าอยู่ที่ไหน “ริมคลองหลอด” – ริมรั้วสวนลุมฯ แถวๆ หน้าโรงพักลุมพินี – หาบส้มตำเฟรนไชส์ที่วางเรียงย่านหัวลำโพง-ริมทางรถไฟย่านถนนเพชรบุรี

ยกตัวอย่างมาให้ลองไปสำรวจเล่นๆ ประชาชนคนสัญจรในกรุงรู้กันทั้งนั้น ชนิดที่ประชาชนตั้งคำถามว่าเจ้าหน้าที่รัฐผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องไม่รู้จริง หรือแกล้งไม่รู้ ว่าเรื่องแบบนี้มีอยู่จริง

แม้ในยุคการสื่อสาร 4 จี ธุรกิจค้ากามแบบนี้ปรับรูปแบบขยับจากข้างทางไปสู่โลกออนไลน์ ขายกันโจ๋งครึ่มบนเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น แชตนัดแนะดีลซื้อขายบนโทรศัพท์มือถือมากขึ้น

ตัวอย่างก็มีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) จับกุมดำเนินคดีครูบาอาจารย์ ข้าราชการกระทวงยุติธรรม คนสกุลดัง จากกรณีซื้อกามเด็กชาย เป็นข่าวใหญ่โตไปเมื่อสัปดาห์ก่อน

แต่ทว่ารูปแบบค้ากามบริการคนรายได้น้อย หลักร้อยก็เสพได้ แบบผู้ค้าปักหลักตามสวนตามรายทางก็ยังมีอยู่

ขณะที่ในการรับรู้ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติส่วนหนึ่ง ข้อมูล ภาพลักษณ์ ไทยแลนด์ไม่ใช่เพียงดินแดนสยามเมืองยิ้ม ทะเลสวย อาหารอร่อย วัฒนธรรมอ่อนช้อยเท่านั้น ภาพลักษณ์เกี่ยวกับแหล่งสวรรค์ด้านเซ็กซ์ก็เป็นอีกหนึ่ง “ภาพ” ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ จนวันนี้ พ.ศ.2561 เอ่ยชื่อย่าน ชื่อถนน สถานที่บริการ บอกต่อ รีวิวกันปากต่อปาก ราวกับเจ้าหน้าที่รัฐไทยละไว้ในฐานที่เข้าใจ!?

เรื่องทั้งหมดยังเกิดขึ้นในห้วงที่ประเทศไทยยังคงถูกจับตาในประเด็นการค้ามนุษย์ ทั้งมิติของแรงงาน และค้าประเวณี

เมื่อปลายเดือนมิถุนายน กระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดเผยรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ หรือทิปรีพอร์ตประจำปี 2018 ปรับสถานะของ “ประเทศไทย” ขึ้นเป็นระดับเทียร์ 2 หรือประเทศที่มีความพยายามอย่างเห็นได้ชัดที่จะพัฒนาให้ถึงระดับมาตรฐาน ดีขึ้นจาก 2 ปีที่ผ่านมาที่ไทยอยู่ในระดับเทียร์ 2 เฝ้าระวัง หรือประเทศที่ควรได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ และเทียร์ 3 เมื่อปีก่อนหน้า

นับเป็นข่าวดีในความพยายามของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นกลไกหลักที่เดินหน้ากำจัดจุดอ่อนทุกทาง

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาผลงานปราบปรามการค้ามนุษย์ของไทยมุ่งปราบปรามจับกุมการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบ ทั้งธุรกิจอาบอบนวดแฝงค้ากาม ขบวนการขนแรงงานชาวโรฮิงญา คาราโอเกะภูธรค้ามนุษย์หญิงต่างชาติ คำสั่ง ม.44 เด้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่นับร้อย

ทว่ายังถูกจับตามองในประเด็นเรื่องความจริงจังและจริงใจของเจ้าหน้าที่รัฐไทยในการบังคับใช้กฎหมาย

และหนักกว่านั้นคือการเข้าไปมีเอี่ยวเสียเองของเจ้าหน้าที่รัฐ

จากเรื่องสวนสาธารณะที่เป็นแหล่งเสพเซ็กซ์ ธุรกิจค้ากามโลว์คอสต์แบบออนสตรีต แหล่งสวรรค์นักเที่ยวที่โด่งดังในหมู่ชาวต่างชาติ การลักลอบซื้อขายบริการเด็กชาย หรือแม้แต่เด็กหญิง เหล่านี้เป็นจุดเล็กๆ ที่สะท้อนภาพใหญ่ไปถึงการค้ามนุษย์ ที่ไทยยังไม่สามารถหลุดพ้นจากสถานะประเทศที่ยังต้องถูกจับตาได้จริงๆ

แม้เจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้นิ่งนอนใจ กรณีการตื่นตัวกับกรณีสวนลุมฯ สวนอีเดน การปราบจริงของตำรวจ ปคม. ที่เอาผิดคนดังซื้อกามเด็ก บ่งบอกว่ามีความพยายาม แต่ทว่ายังมีอีกหลายจุดที่ปล่อยผ่าน และคล้ายทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ประหนึ่งว่าไม่มีอยู่จริง ยังเป็นสิ่งที่ชี้ว่ามีการลูบหน้าปะจมูกหรือไม่?!

พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผบก.ปคม. บอกว่า ประเทศไทยได้ขยับขึ้นจากเทียร์ 3 สู่เทียร์ 2 ซึ่งทางประเทศสหรัฐอเมริกาให้เทียร์ 2 เพราะประเมินจากทั้งระบบของการทำงานของเราแล้วว่าสามารถช่วยเหลือผู้เสียหายและนำผู้เสียหายเข้าสู่ระบบการฟื้นฟูได้ รวมถึงการจับผู้ต้องหาและลงโทษได้อย่างเหมาะสม จากที่ผ่านมาสถิติการจับกุมก็น้อยลงไปเรื่อยๆ จาก 333 คนก็ลดลงมาเหลือ 300 ต้นๆ และเหลือ 200 กว่า ซึ่งล่าสุดปีนี้ ณ เวลานี้จับได้ 100 กว่าคนเท่านั้น การที่จับได้น้อย ส่วนใหญ่เป็นเพราะเป็นการจับกุมแบบรวมคดีนั่นเอง

แต่อย่างไรก็ตาม มีคำถามว่า รัฐบาลไทย เจ้าหน้าที่รัฐไทย กำลังแก้ปัญหาค้ามนุษย์อย่างจริงจัง จริงหรือ!?