การ์ตูนที่รัก /นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์/หอมกรุ่นอุ่นไอรัก มิโสะคัมไป!

การ์ตูนที่รัก / นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

 

หอมกรุ่นอุ่นไอรัก มิโสะคัมไป!

 

การ์ตูนญี่ปุ่นเล่าได้ทุกเรื่อง แต่ละเรื่องเล่าได้ละเอียดเหมือนอ่านตำรา เล่มนี้เป็นตัวอย่างหนึ่ง
สำหรับคนที่ชอบอาหารญี่ปุ่น หลายคนชอบมิโสะ เวลาไปญี่ปุ่นทีจะซื้อมิโสะซองหลากรสกลับบ้านทีละมากๆ ใช้ทำแกงจืดถ้วยเล็กๆ พอดีคนได้ง่ายๆ หากเป็นคนโสดทำกินถ้วยเดียวสะดวกมาก
แต่คนโสดที่แท้จะไม่ทำอะไรเลยมากกว่า เหมือนการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่องนี้
หอมกรุ่นอุ่นไอรัก มิโสะคัมไป! เขียนโดย ไซ ซาซาโนะ ลิขสิทธิ์วิบูลย์กิจ เพิ่งจะออกเล่ม 1 คำโปรยปกหลังว่า
“ข้าวเช้าที่มีใครสักคนทำให้กินเนี่ย ไม่ได้แค่ทำให้อิ่มท้องเท่านั้นนะ แต่ยังอิ่มอกอิ่มใจอีกด้วย”
หนังสือเล่าเรื่องเซ็นอิจิโร่ นักเรียนมัธยมต้นที่อาศัยอยู่กับพ่อตามลำพัง ข้าวเช้าก่อนไปโรงเรียนของเขาคือข้าวปั้นจากร้านสะดวกซื้อหรือซุปมิโสะสำเร็จรูป ไม่มีหรอกพ่อคนโสดที่ไหนจะลุกมาทำอาหารเช้าให้ลูกวัยหนุ่มกิน ชีวิตเด็กชายที่นอนตะวันโด่งหาข้าวกินเองจึงเป็นเรื่องธรรมดา
เซ็นอิจิโร่ไม่เคยพบพ่อตอนเช้า พ่อทิ้งค่าข้าวเอาไว้บนโต๊ะก่อนออกไปทำงานเสมอ
แม่จากไปเก้าปีแล้ว เซ็นอิจิโร่กินข้าวปั้นเสร็จก็เดินออกจากบ้านพบกับเพื่อนนักเรียนหญิงยาเอะที่คาบข้าวเช้าไปโรงเรียนด้วยกัน
“ก็ถูกสอนให้กินให้หมดนี่นา” ยาเอะเถียงเมื่อถูกทักว่าทำไมคาบข้าวเดินออกนอกบ้าน
วัยรุ่นทุกชาติเหมือนกันหมด สามารถให้เหตุผลแก่การกระทำของตัวเองเสมอ และหลายครั้งเหตุผลนั้นเป็นพ่อแม่เคยสอนเขาเอง!

เซ็นอิจิโร่กับยาเอะเดินไปโรงเรียนด้วยกันจึงถูกเพื่อนฝูงล้อเลียนว่าคบกันอยู่หรือ เมื่อยาเอะปฏิเสธพัลวัน เซ็นอิจิโร่ก็นึกถึงภาพในอดีตครั้งที่สองคนเป็นเด็กเล็ก ดูเหมือนยาเอะจะเคยให้สัญญาอะไรเอาไว้
“ยาเอะคงจำไม่ได้แล้วแน่” เขารำพึง
เช้าวันรุ่งขึ้น โดยไม่มีคำเตือนอะไรเลย ยาเอะเข้ามาในครัวของเซ็นอิจิโร่แล้วทำอาหารเช้ารอเขาตื่น อาหารหลักที่หล่อนทำมาสุดฝีมือคือไข่กับเบค่อน นอกจากนี้ยังมีข้าวหนึ่งถ้วย (แค่ตักมาวาง) มะเขือเทศจิ๋ว (แค่เอามาวาง) สาหร่าย (แค่เอามาวาง) และนัตโต (แค่เอามาวาง)
แต่ที่เซอร์ไพรส์คือมิโสะหอยตลับ เซ็นอิจิโร่ชอบ เขาชิมมิโสะหอยตลับทันที
กร๊อด!! “ล้างทรายออกหรือเปล่า” ตาขวาง
จากนั้นหนังสือใช้เนื้อที่สองหน้าบรรยายกรรมวิธีเตรียมมิโสะหอยตลับ เป็นเซ็นอิจิโร่บรรยายให้ยาเอะฟัง น้ำที่ใช้ล้างหอยตลับต้องเป็นน้ำเค็มในระดับความเข้มข้นเท่ากับสิ่งแวดล้อมที่หอยตลับเคยอยู่ จะใช้น้ำเปล่าก็ได้แต่จะเสียรสชาติ จากนั้นปิดฝาให้มืด หอยยังไม่ตาย ทิ้งไว้ 3-6 ชั่วโมง หน้าหนาวทิ้งไว้นานหน่อย หน้าร้อนทิ้งไว้แป๊บเดียว
“ไม่จริง! ทำไมรู้เรื่องแบบนี้ด้วยล่ะ” ยาเอะโวยวาย ที่แท้เซ็นอิจิโร่ทำอาหารเองได้แต่ไม่ทำ
หลังจากวันแรก ยาเอะตั้งใจมั่นจะมาทำอาหารเช้าให้กิน ยาเอะทำทุกวันเพราะแม่ของเธอสอนว่า “อาหารเช้าสำคัญมากนะ” และ “สักวันหนูก็ต้องเป็นคนที่ทำข้าวเช้าอันเต็มไปด้วยความรักให้ใครสักคนเหมือนกัน”
แต่ที่จริงความรักของข้าวเช้าในเมืองใหญ่มิได้มีทุกบ้าน แม่บ้านจำนวนมากอิดหนาระอาใจกับความโอ้เอ้ของลูกๆ ก่อนไปโรงเรียน ไหนจะอาบน้ำแต่งตัว ไหนจะข้าวเช้า แล้วยังต้องเผื่อเวลารถติดบนถนน ยามเช้าของหลายบ้านในเมืองใหญ่จึงเป็นการเอะอะเอ็ดตะโรเร่งเสียงเร่งกินกันเสียมากกว่า
และหลายบ้านเลือกที่จะกินข้าวเช้าบนถนน
หนังสือที่เล่าเรื่องข้าวเช้าและความรักก่อนออกไปเรียนหนังสือดูเหมือนจะสร้างบรรยากาศโหยหาได้ไม่น้อย

“โตขึ้นแล้วตัวเองมาเป็นเจ้าสาวเขานะ” ที่แท้เซ็นในวัยเด็กเคยขอยาเอะตัวกะเปี๊ยก
“ไม่เอาหรอก ชั้นมีอะไรอยากเป็นมากกว่านั้นอยู่นะ” ยาเอะหัวเราะกิ๊กๆ แก้มเปลี่ยนสี
ซุปมิโสะหอยตลับวันที่สองอร่อยขึ้นมากมายจนเซ็นอิจิโร่เอ่ยปากชม เพราะยาเอะซ้อมทำอยู่ที่บ้านมากมายนั่นเอง “ฉันแค่อยากให้เซ็นกินอาหารเช้าที่เต็มไปด้วยความรักน่ะ” ยาเอะเผยความในใจ
เซ็นใจเต้นตึ้กตั้ก บรรยากาศยามเช้านี้มันอะไรกันแน่
“ฉันน่ะ อยากเป็นแม่ของเซ็นมาโดยตลอด” ยาเอะเผยความในใจที่เก็บซ่อนมานานแสนนาน
“หา! ไม่ใช่ภรรยาหรอกเหรอ” เซ็นเป็นงง “ไม่อยากเชื่อเลย เธอมีความสัมพันธ์แบบนี้กับพ่อฉันด้วย”
ที่แท้ตอนที่แม่ตาย เด็กหญิงยาเอะที่อายุมากกว่าเซ็นสองเดือนเคยให้สัญญาว่าจะเป็นพี่สาวดูแลเซ็น และจะเป็นแม่ให้เซ็นจังด้วยนะ

จบบทที่หนึ่ง โครงเรื่องหลักของเล่มหนึ่งมีเท่านี้ หลังจากนี้จะเป็นเรื่องกรรมวิธีการทำอาหารเช้าทุกๆ เช้าอย่างละเอียด ที่น่าแปลกใจคือน่าอ่าน สนุก ขำ อ่านง่าย ผู้เขียนมิใช่พ่อครัวจึงไม่รู้ว่ารายละเอียดที่เขียนถูกต้องหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือได้ความรู้มาก
บทที่สอง เซ็นจะได้โวยวายเรื่องซุปมิโสะใส่เห็ดนาเมโกะที่ไร้รสชาติเพราะยาเอะมิได้ใส่ดาชิ หอยตลับสามารถผลิตดาชิออกมาให้เองแต่หอยอื่นทำไม่ได้ ว่าแล้วเซ็นจึงเดินไปหยิบผงดาชิสำเร็จรูปมาให้ดูคือผงปรุงรสนั่นเอง แต่ถ้าทำจากปลาโอแผ่นแห้งก็จะอร่อยยิ่งกว่า สมัยนี้ไม่มีใครเขาเสียเวลาทำดาชิจริงๆ กันหรอกนะ
“ฉันจะทำดาชิให้เป็นเรื่องเป็นราว แบบนั้นจะดูเป็นคุณแม่มากกว่า” ยาเอะตั้งใจมั่นอีกแล้ว
คราวนี้หนังสือใช้เนื้อที่สี่หน้าเล่าวิธีทำดาชิอย่างละเอียด!

ครั้งหนึ่ง ยาเอะไปทำการบ้านเรื่องมิโสะมาบรรยายให้เซ็นฟังได้ถึง 7 หน้า มิโสะทำจากถั่วเหลือง แบ่งออกเป็น 3 ชนิด มิโสะข้าวเจ้า มิโสะข้าวบาร์เลย์ มิโสะถั่ว แต่ละชนิดกระจายตามภูมิภาคอย่างไร มีส่วนประกอบและวิธีทำอย่างไร ไปจนถึงวิธีตรวจสอบคุณภาพ อ่านได้ไม่เบื่อเลย ช่างเขียนเก่งจริงๆ
บทสุดท้าย ประมวลคำขอแต่งงานที่คนญี่ปุ่นนิยมใช้ คำหนึ่งในนั้นคือ
“อยากกินซุปมิโสะของเธอทุกเช้า” เรื่องชักจะสนุกขึ้นเรื่อยๆ แล้วละสิ