| เผยแพร่ |
|---|
เห็นการออกมาปกป้องปฏิบัติการ”ดูด”อันมาจากไม่ว่า พล.อ.ประ ยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็รู้กันว่าพรรค อะไรคือพรรคในดวงใจของคสช.
ไม่ใช่พรรครวมพลังประชาชาติไทยของ นายสุเทพ เทือกสุ บรรณ อย่างแน่นอน
ทั้งมิใช่ พรรคประชาชนปฏิรูป ของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน
ตรงกันข้าม เด่นชัดเป็นอย่างยิ่งว่าเป็น “พรรคพลังประชารัฐ” ที่มี นายชวน ชูจันทร์ ออกนอกหน้าอย่างเงียบๆ
เงียบๆในแบบ”หงิมๆ หยิบชิ้นปลามัน”
เพราะที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เดินสาย”ดูด”อยู่ในขณะนี้ล้วนเพื่อพรรคพลังประชารัฐ
ไผเป็นไผ แทบไม่ต้องขยายให้มากความ
แม้ว่าพรรคประชาชนปฏิรูปจะมีคำว่า “ปฏิรูป” แม้พรรครวมพลัง ประชาชาติไทยจะมีคำว่า “พลัง”
แต่ไหนเลยจะสู้ “พลังประชารัฐ”ได้
อย่างน้อยพรรคนี้หากได้รับการรับรองจากนายทะเบียนพรรคการเมืองก็เท่ากับได้เอกสิทธิ์อย่างเต็มเปี่ยมในการนำเอาคำ ว่า “ประชารัฐ”ไปหาเสียงได้อย่างเต็มภาคภูมิ
นี่ย่อมเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับ”พลังประชารัฐ”
เพราะคำว่า “ประชารัฐ” เป็นคำอันเกิดขึ้นในยุคของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยการคิดประดิษฐ์สร้างจากสมองก้อนโตของทีมงาน”เศรษฐกิจ”
พลันที่คำว่า “ประชารัฐ” วางเรียงเคียงข้างอยู่กับ”ไทยนิยม”ก็ไปโลด ไม่ว่าครม.จะสัญจรไปจังหวัด ไม่ว่าคำ”ประชารัฐ” ไม่ว่าคำ”ไทยนิยม” ย่อมติดสอยห้อยตามไปพร้อมกับงบประมาณจำนวนมหาศาล
นายชวน ชูจันทร์ สามารถ”ชมจันทร์”ได้อย่างสบายอารมณ์
เรียกตามสำนวนวัยรุ่นก็ต้องสำทับว่า ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ชิดซ้ายหลีกไปได้เลย
ยิ้มเห็นแก้ม แย้มเห็นไรฟัน
ยิ่งพรรคเพื่อไทย ยิ่งพรรคประชาธิปัตย์ หมอบราบคาบแก้วรอคอยการปลดล็อกยาวนานเพียงใด ยิ่งเป็นโอกาสให้พรรคพลัง ประชารัฐเดินหน้าอย่างร่าเริง
ที่ว่า”หงิมๆหยิบชิ้นปลามัน”ก็ด้วยประการละฉะนี้แล
