ฉบับประจำวันที่ 15-21 มิถุนายน 2561

รถไฟ จากสถานีชุมแสง ไปยังสถานีนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน
กลายเป็น รถไฟสายประชารัฐ แทบจะทันที
เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ใช้รถไฟสายนั้น
เรียกคะแนนนิยมเต็มเหนี่ยว
โดยมีประชาชนสองข้างทางเป็นเป้าหมาย
พล.อ.ประยุทธ์ นอกเหนือจะประกาศย้ำให้มีการเลือกตั้ง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
แถมยังป้องปากตะโกนบอกประชาชนว่า
“อย่าลืมไปเลือกตั้งด้วย เลือกให้ดีแล้วกัน วันหน้าคงมาทักแบบนี้ไม่ได้ เพราะรถไฟจะมีความเร็วสูงขึ้น”
ฟังเร็วๆตามที่รถไฟแล่นไป
ดูประหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์และ ครม. “รักเลือกตั้ง”อย่างยิ่ง
ขณะที่ ประชาชนเองนั่นแหละไม่รัก
จนต้องปลุก “อย่าลืมไปเลือกตั้งด้วย”
นี่ย่อมเป็นภาวะ “กลับหัวกลับหาง”อย่างน่าประหลาดใจ
เพราะ ในความเป็นจริงนั้น ผู้ที่ทำให้การเลือกตั้ง ไม่แน่นอน นั้นเป็นใคร
ใครที่ทำให้กลไกการเลือกตั้ง ติด ล็อค ด้วยคำสั่งคณะปฏิวัติ
ใครเป็นคนแจ้งจับ คนอยากเลือกตั้ง ที่ออกมาทวงสิทธิ ของตน
ขณะที่พรรคการเมือง นักการเมือง ประสานเสียงให้ คสช.คลายล็อค
ใครตอบสนอง และใครไม่ตอบสนอง
นั่นย่อมเป็นภาพที่แตกต่างจากภาพที่ประชาชนเห็นบนรถไฟสายนั้น

มีสำนวนไทย ในอดีต กล่าวถึง
“รถไฟ เรือเมล์ ลิเก ตำรวจ”
เพื่อเตือนใจว่า อย่าวางใจผู้ที่ที่ทำอาชีพเหล่านี้
เพราะเคลื่อนไหว โยกย้าย ไปโน่นมานี่ ตลอด จึงเป็นคนเจ้าชู้ หลายใจ ไว้ใจได้ยาก
แล ดูไม่เกี่ยวอะไรกับคนบนรถไฟสายประชารัฐ
รึเกี่ยว?