วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/ เสถียร จันทิมาธร / จิ้งจอก กับสตรีลึกลับ (143)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย / เสถียร จันทิมาธร

 

จิ้งจอก กับสตรีลึกลับ (143)

 

เพียงก๊วยเซียงตามเอี้ยก่วยเข้าไปถึง “บึงมังกรดำ” ก็รับรู้ว่าไม่ได้มีแต่เพียง “จิ้งจอกวิเศษ 9 หาง” เท่านั้นที่อาศัยอยู่
พลันที่ก๊วยเซียงพิจารณากิ่งไม้ หญ้าคาโดยละเอียด
“อิดบักอยู่ทางบูรพา เปี้ยฮ้วยอยู่ทางทักษิณ สุกบักอยู่ตำแหน่งกลาง แต่ด้านอุดรมิใช่คุ้ยจุ้ย หากแต่เป็นภาพลักษณ์ของแกกิม”
“ท่านทราบได้อย่างไร”
“ข้าพเจ้าดูจากตำรับตำรา ไม่ทราบกล่าวถูกต้องหรือไม่ แต่ข้าพเจ้าเห็นว่าการตกแต่งของบึงน้ำนี้พื้นเพธรรมดา ไม่แน่ว่าจะเป็นยอดคนอันสูงส่งใด”
“แต่คนผู้นั้นพักอาศัยอยู่กลางโคลนเลนโดยไม่จมลงนับว่าประหลาดแท้”
ดังนั้น เอี้ยก่วยจึงกล่าวด้วยเสียงกังวานขึ้น “สหายกลางบึงมังกรดำ มีอาคันตุกะมาเยี่ยมเยือน” สะท้อนท่าทีคารวะ นอบน้อม
แต่ภายในบึงยังเงียบสงัดปราศจากสุ้มเสียง
เมื่อทั้ง 2 ลื่นไหลรุดไปเบื้องหน้าอีก 20 กว่าวาจนถึงตำแหน่งอันสุมกิ่งไม้ หญ้าคา พลันพบใต้เท้าเพิ่มความหนักแน่นคล้ายเหยียบย่ำถูกดินแข็ง
“ที่แท้ใจกลางบึงมีเกาะเล็กๆ เกาะหนึ่ง”

เบื้องหน้าปรากฏเงาสีขาวเคลื่อนไหว ในหญ้าคามีจิ้งจอกเล็กๆ มุดออกมา 2 ตัว ตัวหนึ่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตัวหนึ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
เด่นชัดว่าเป็น “จิ้งจอกวิเศษ 9 หาง” วิ่งด้วยระดับความเร็วยิ่ง
เห็นเช่นนั้นเอี้ยก่วยยืดเอวขึ้นไล่ตามไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ลื่นไหลบนผิวหิมะโคลนเลนด้วยความเร็วดุจวิหคเหิน “จิ้งจอกวิเศษ 9 หาง” วิ่งเร็วยิ่งกลับวกกลับมาราวควันเบาบางสายหนึ่งพุ่งขวับถึงเบื้องหน้าก๊วยเซียง
พลันบังเกิดเสียงลมเบาๆ เป็นเอี้ยก่วยพุ่งวาบมา โบกสะบัดแขนเสื้อออก
เห็นแน่ชัดว่าม้วนถูกจิ้งจอก แต่ “จิ้งจอกวิเศษ 9 หาง” พลันดีดตัวขึ้น ตีลังกากลางอากาศตลบหนึ่ง แขนเสื้อของเอี้ยก่วยจึงคลาดไปเซียะเศษไม่ได้ม้วนถูกและจับตัวได้
1 คน 1 จิ้งจอกโลดไล่กันอยู่กลางพื้นหิมะ
จิ้งจอกอีกตัวมุดซ้ายทะลวงขวา บางครั้งเข้าใกล้จงใจรบกวนสมาธิ เอี้ยก้วยแสร้งเป็นมองไม่เห็น ยังโลดแล่นไล่จับตัวแรก
คิดไล่จนมันหมดเรี่ยวสิ้นแรง
แต่ไม่บังเกิดผล เรี่ยวแรงกลับยาวนาน ยิ่งทราบว่ามีภัยกล้ำกรายยิ่งวิ่งหนีอย่างสุดกำลัง ไม่มีวี่แววสิ้นเรี่ยวแรงอ่อนล้า

เอี้ยก่วยก้มกายกอบหิมะขาวกำหนึ่งบีบคลึงจนแข็งแกร่งราวหิน ซัดออกกระแทกถูกส่วนหัวจิ้งจอก พลิกตัวล้มลงกลิ้งไปทอดหนึ่ง เมื่อลุกขึ้นได้ก็หนีเข้าพงหญ้าคา
ไม่ยอมโผล่ออกมาอีก
“จิ้งจอกน้อย หากเราใช้ก้อนหิมะซัดขว้างเจ้า เจ้าแม้ตายก็ไม่ยินยอมพร้อมใจ ลูกผู้ชายมีการกระทำอันโอ่อ่าผ่าเผย หากแม้นเราไล่ตามเจ้าไม่ทันจะละเว้นชีวิตเจ้า”
เกร็งลมปราณแล้วลอยตัวโถมไป หยิบยืมสภาวะลื่นไหล
ลื่นไหลไปถึงเบื้องหน้ายื่นมือกลับหลังตะปบคว้าจับ จิ้งจอกแตกตื่นตกใจพุ่งไปทางขวา เอี้ยก่วยอ่านทิศทางทะลุ โบกแขนเสื้อม้วนเอาตัวจิ้งจอกไว้ในแขนเสื้อ ยื่นมือซ้ายคว้าคอจิ้งจอกขึ้นส่งเสียงหัวร่อฮาๆ ออกมาด้วยความดีใจ
แต่แล้วเสียงหัวร่อก็พลันชะงักขาดหาย เมื่อเห็นจิ้งจอกตัวแข็งทื่อไม่ไหวติง ที่แท้มันตายแล้ว
เอี้ยก่วยระแวงว่า “จิ้งจอกวิเศษ 9 หาง” แสร้งตาย แม้โยนบนพื้นแต่ก็สลัดแขนเสื้อไปด้านหลัง ขอเพียงมันขยับตัวจะม้วนกลับคืนมา
แต่จิ้งจอกไม่ขยับ ขับเคลื่อน แสดงว่าตายสนิท
เห็นเช่นนั้นก๊วยเซียงเก็บกิ่งไม้ท่อนหนึ่งหวังจะต้อนจิ้งจอกตัวใหม่ แต่พอหวดกิ่งไม้ลงในพงหญ้าคิดยกขึ้นหวดซ้ำกลับยกไม่ขึ้น เมื่อออกแรงดึงกิ่งไม้กลับหลุดจากมือร่วงหล่นลงในพงหญ้า

จากนั้นบังเกิดเสียงดังสวบ ในพงหญ้าปรากฏคนผู้หนึ่งมุดออกมา กลับเป็นสตรีชราผมขาว เสื้อผ้าซอมซ่อขาดวิ่น ถมึงมองอย่างดุร้าย
ยกชูกิ่งไม้ทำท่าหวดใส่ ก๊วยเซียงพุ่งถอยมาถึงข้างกายเอี้ยก่วย
ยามนั้น จิ้งจอกที่นอนอยู่บนพื้นกับพลิกตัวกระโดด มุดเข้าไปในอ้อมอกของสตรีชราผู้นั้น กลอกตาเล็กๆ ไปมา
ที่แท้สตรีผู้นั้นเป็นใคร