โล่เงิน : วิเคราะห์”บิ๊กแป๊ะ” ลัดฟ้าล่า “พรหมเมธี” แก้เกมหนีลี้ภัย “เยอรมนี” สะพัด! เก้าอี้ ผบ.ตร.สั่นไหว

“บิ๊กแป๊ะ” ลัดฟ้าล่า “พรหมเมธี” แก้เกมหนีลี้ภัย “เยอรมนี” สะพัด! เก้าอี้ ผบ.ตร.สั่นไหว

เปิดฉากล่าข้ามทวีป “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นำคณะสีกากีฝีมือระดับพระกาฬ บินข้ามทวีปตามจับ “อดีตพระพรหมเมธี” หรือพระจำนงค์ เอี่ยมอินทรา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร หนึ่งใน 8 อดีตพระเถระ ที่ถูกออกหมายจับในคดีทุจริตเงินทอนวัด โดยอดีตพระพรหมเมธี เป็นเพียงรูปเดียวที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

หลังปฏิบัติการจับกุมพระ-ฆราวาสในคดีเงินทอนวัดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม อดีตพระพรหมเมธีหนี ขณะที่ทีมตำรวจไทยภายใต้การนำของ “บิ๊กแป๊ะ” ก็ไล่ล่าต่อเนื่อง

กระทั่งวันที่ 3 มิถุนายน “บิ๊กแป๊ะ” ตัดสินใจบินด้วยตัวเองไปยังสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เป้าหมายคือสนามบินนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อมีข้อมูลชัด อดีตพระพรหมเมธีหนีไกลและจนมุมที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเยอรมนี

แต่เรื่องจริง ฝ่ายจนมุมอาจไม่ใช่พระพรหมเมธี!?

และปฏิบัติการตะครุบข้ามทวีปครั้งนี้ อาจวืด!?

หลังพบว่าอดีตพระพรหมเมธียื่นคำร้องขอลี้ภัยกับทางสำนักงานกลางผู้ลี้ภัยของเยอรมนี (BAMF) แล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณา

จักรทิพย์

ทำให้การปรากฏกายที่สุวรรณภูมิของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน จึงยังไม่มีอดีตพระพรหมเมธีกลับมาด้วย

ย้อนกลับไปครั้งตำรวจกองปราบปรามบุกจับพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีร่วมกันฟอกเงินทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม ตั้งแต่ปี 2557 รวมกว่า 150 ล้านบาท ต่อมาอดีตพระพรหมสิทธิ อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ มอบตัว เหลือเพียงแต่ “อดีตพระพรหมเมธี” รูปเดียวเท่านั้น

24 พฤษภาคม ที่กองปราบฯ เปิดปฏิบัติการ “จับพระ” วันนั้น “อดีตพระพรหมเมธี” ได้ไปรับกิจนิมนต์ที่จังหวัดพิษณุโลก พอรู้ข่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้เปิดปฏิบัติการจับพระคดีเงินทอนวัด พระคุณเจ้าได้เปลี่ยนแผน จากเดิมที่จะเดินทางกลับวัดสัมพันธวงศารามฯ ได้เปลี่ยนเป้าหมายหลบหนีไปที่จังหวัดนครพนมทันที โดยใช้รถตู้โตโยต้า อัลฟาร์ด สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 3 กภ 8672 กรุงเทพมหานคร

รถตู้อัลฟาร์ดพาหนะที่นำอดีตพระเถระมาถึงนครพนมถูกจอดทิ้งไว้ใกล้กุฏิพระเจ้าอาวาสวัดป่าสุคนธรักษ์ บ้านค่ายเสรี อ.เรณูนคร จ.นครพนม ส่วนตัวอดีตพระเถระเดินทางข้ามไปยังเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน ประเทศลาว โดยมีโยมอุปัฏฐากเปลี่ยนพาหนะเป็นรถฟอร์จูนเนอร์แทน พาข้ามฟากไปสำเร็จ ได้ไปพักที่โรงแรมดงชัยในเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว

หลังจากนั้นในตอนเช้าของวันที่ 31 พฤษภาคม ออกเดินทางต่อไปยังเมืองสองห้อง ซึ่งห่างจากเมืองท่าแขกไปทางเหนือประมาณ 50 กิโลเมตร โดยได้รับการช่วยเหลือจากสีกา “จุ๋ม” ตลอดการหลบหนี

เมื่อไปถึงเมืองท่าแขกก็มีคนมารับตัว ชื่อ “จันทนา” หญิงสาวชาวลาวพร้อมบุตรชายที่เป็นศิษย์ที่เลื่อมใสในตัว “อดีตพระพรหมเมธี” ให้การช่วยเหลือต่อ

1 มิถุนายน “บิ๊กแป๊ะ” พร้อมคณะเดินทางข้ามแดนเข้าติดตามตัว “อดีตพระพรหมเมธี” ที่ สปป.สาว แต่มีรายงานสะพัดว่า เกิดการเข้าใจผิด ถูกเจ้าหน้าที่ของทางการลาวได้ควบคุมตัวชุดสืบสวนไว้ เจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นจึงต้องประสานงานกัน กระทั่งตำรวจลาวยอมปล่อยตัวตำรวจไทย

มีรายงานว่าชุดสืบสวนพบความเคลื่อนไหวของพระพรหมเมธีอีกครั้ง เมื่อเวลา 05.15 น. วันที่ 1 มิถุนายน อดีตพระพรหมเมธีพร้อมด้วยหลานชายคนสนิทได้ขึ้นเครื่องบินด้วยสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ เที่ยวบิน QR971 จากกรุงพนมเปญ ก่อนแวะจอดที่สนามบินโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เมื่อเวลา 06.23 น.

จากนั้นเครื่องบินลำดังกล่าวได้บินไปยังสนามบินโดฮา ประเทศกาตาร์ จากนั้นได้ทรานซิตต่อเครื่องไปยังท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต เยอรมนี

ในเวลาไล่เลี่ยกัน “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มือสืบสวนเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 36 ยกทีมเดินทางด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG926 สายการบินไทย ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต เพื่อนำตัวอดีตพระพรหมเมธีกลับมาดำเนินคดียังประเทศไทย

แต่เรื่องไม่ง่าย เมื่ออดีตพระพรหมเมธีได้ขอยื่นคำร้องขอลี้ภัยไปยังสำนักงานกลางผู้ลี้ภัยของเยอรมนี (BAMF) แล้ว และได้รับการคุ้มครองชั่วคราว

คณะ พล.ต.อ.จักรทิพย์เจออุปสรรค ติดข้อจำกัดในขั้นตอนเรื่องของข้อกฎหมายระหว่างประเทศ ทำให้ทางการเยอรมนีไม่อนุญาตให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์และคณะพบตัวอดีตพระพรหมเมธี เหตุผลเพื่อคุ้มครองสิทธิและเพื่อความปลอดภัยของผู้ยื่นคำขอลี้ภัย

ตามกระบวนการเมื่ออดีตพระพรหมเมธีได้ยื่นคำขอลี้ภัยแล้วจะได้รับความคุ้มครองตามกฎเกณฑ์ว่าด้วยผู้ลี้ภัยทันที

กรณีของอดีตพระพรหมเมธีคาดว่าจะยื่นคำขอลี้ภัยประเภท 1 หรือ 2 คือ 1.จะเป็นการขอลี้ภัยเนื่องจากถูกละเมิดเสรีภาพทางศาสนา ความเชื่อทางการเมือง ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่มีความร้ายแรง 2.จะเป็นกรณีขอลี้ภัยด้วยเหตุผลจากการถูกกลั่นแกล้งดำเนินคดี ถูกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ด้วยเหตุผลทางการเมือง ศาสนา เชื้อชาติ

ซึ่งละเมิดพื้นฐานความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง!?

ต่อมาวันที่ 5 มิถุนายน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ยอมรับข่าวสารการเดินทางไปเยอรมนีของ “บิ๊กแป๊ะ” และคณะ เป็นความชัดเจนแรก หลังปฏิบัติการไล่ล่าข้ามแดน-หนีข้ามทวีปครั้งนี้เป็นเรื่องลับมาตลอดหลายวัน

บิ๊กป้อมยอมรับว่า ผบ.ตร. เดินทางไปตามคุมตัว “อดีตพระพรหมเมธี” จริง แต่ก็ยังไม่ได้พบกัน

โดยระบุด้วยว่า มีการกักตัวอดีตพระพรหมเมธีจริงที่เยอรมนี และไม่ทราบว่าจะนำตัวพระพรหมเมธีกลับมาได้ในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ ตามกำหนดเดินทางเดิมของ ผบ.ตร. และคณะหรือไม่

แต่ “บิ๊กป้อม” ชี้ในเบื้องต้นว่ายังไม่ชัดเจนว่าอดีตพระพรหมเมธีขอลี้ภัยทางการเมืองหรือไม่ โดยขอเวลา ให้ทางการไทยตรวจสอบก่อน

อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการจับอดีตพระพรหมเมธีของตำรวจไทยครั้งนี้ เป็นไปอย่างลับๆ และดำเนินการอย่างระมัดระวังที่สุด

เกมล่าระทึกข้ามโลกครั้งนี้เดิมพันสูง สะพัดว่าไม่ใช่เพียงจับได้หรือไม่ได้ แต่สั่นไหวไปถึงเก้าอี้ ผบ.ตร.!!??