เรียน-รู้จักภาษาอังกฤษจากหนังเรื่อง ‘Wonder’ [ใส่บ่าแบกหาม]

ใส่บ่าแบกหาม / พรพิมล ลิ่มเจริญ

Wonder

เธอจ๊ะ
Wonder เป็นหนังชีวิต มองเห็นชีวิตในแง่งาม ที่ต้องพยายามและลงมือทำให้มันเกิดขึ้นกับเราให้ได้
ที่สำคัญ หนังมันโดดเด่นเรื่องให้เราได้เข้าใจเรื่อง empathy หรือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา แล้วเราจะเข้าใจ และปฏิบัติตามได้ตามครรลองนั้น
Stephen Chbosky เป็นผู้กำกับการแสดง
คุณสตีเฟนนี้เดิมทีเป็นนักเขียน เขียนนิยายเรื่อง The Perks of Being a Wallflower (ที่ฉันชอบมาก บอกลูกบอกหลานให้หามาอ่านกัน)
แล้วพอเอามาสร้างเป็นหนัง พี่สตีเฟ่นก็ได้มาเป็นผู้กำกับฯ และแกทำได้ดีมากๆ
มาเรื่องนี้ แกไม่ได้เขียนเอง นิยายชื่อเรื่อง Wonder เขียนโดย R.J. Palacio เป็นหนังสือขายดี

Wonder เป็นเรื่องของครอบครัวหนึ่ง มีพ่อ มีแม่ มีลูกสาว และลูกชาย
Julia Roberts แสดงเป็นแม่, Owen Wilson แสดงเป็น พ่อ, Jacob Tremblay แสดงเป็นลูกชาย ชื่อ Auggie มีพี่สาวในเรื่องชื่อโอลิเวีย
อ๊อกกี้อายุ 10 ขวบ เป็นโรค Treacher Collins syndrome พี่สาวสรุปให้เราฟังอย่างง่ายๆ
Well, it’s sort of two genes,
but two genes that are identical.
And the trouble is that
both of my parents carry the gene
Well essentially, he won the lottery.
มียีนสองตัวที่เหมือนกัน
เรื่องยุ่งยากก็คือ
ทั้งพ่อและแม่มียีนตัวนั้น
หวยเลยออกที่น้องชาย
เด็กชายอ๊อกกี้ อายุ 10 ขวบ ผ่านการผ่าตัดใบหน้ามาแล้วถึง 17 ครั้ง
เด็กชายอ๊อกกี้เล่าเรื่องตัวเองให้ผู้ชมได้ฟังเสียงใส
I know I’m not
an ordinary 10-year-old kid.
ผมรู้ว่าผมไม่ได้เป็นเด็กอายุ 10 ขวบ
ที่ธรรมดา
แต่โชคดีที่มีครอบครัวรักใคร่ไยดี มีความเข้าใจให้เด็กชาย ได้เติบโตเป็นเด็กดีมีความสุข มีแม่เป็นผู้เสียสละคนสำคัญ
My mom put her life
on hold for my brother.
แม่ของฉันพักชีวิตตนเอง
เพื่อน้องชายของฉัน
on hold หมายถึง พักไว้ชั่วคราว รอไปก่อน ยังไม่ใช่ตอนนี้ ส่วนมากเราก็พักสายโทรศัพท์กันแหละ ฟังเพลงบรรเลงสวอนเลกกันไป จนปลายสายมีคนมารับ
แต่นี่คือชีวิต แม่เรียนปริญญาโทอยู่ แม่มีงานทำ พอต้องดูแลลูก แม่เลิกทุกสิ่ง ใช้วันเวลาทั้งหมดในชีวิตอุทิศเพื่อเลี้ยงดูลูก โตมาก็จัดโฮมสกูลให้ลูก จนผ่านประถมต้น เข้าชั้นประถมตอนปลาย พ่อกับแม่เห็นว่าได้เวลาต้องให้โอกาสลูกออกไปเผชิญโลกได้แล้ว ลูกจะแข็งแกร่งพอไหมไม่รู้ แต่ลูกต้องได้ออกไปทดลองใช้ชีวิต
พอถึงวันต้องไปโรงเรียนวันแรก พ่อกับแม่ลังเลเสียเอง ปลอบใจกันและกันว่า เปิดเทอมใหม่ เด็กๆ ก็มาจากที่ใหม่ๆ ด้วยกันทั้งนั้นแหละ ลูกเราไม่ใช่คนเดียวหรอกที่เป็นเด็กใหม่
He will not be the only new kid.
Okay, well, he’s gonna be the
only new kid that looks like him.
เขาไม่ได้เป็นเด็กใหม่ก็จริง
แต่เขาจะเป็นเด็กใหม่ที่หน้าตาอย่างที่เขาเป็น
แต่หน้าตาแบบเด็กชายอ๊อกกี้ ก็จะมีแต่เด็กชายอ๊อกกี้เป็นคนเดียวนี่สิ

เด็กชายอ๊อกกี้แกชอบสตาร์วอร์ส ชอบเล่นเกม Minecraft ชอบกิจกรรมต่างๆ มากมาย ชอบเทศกาลวันฮัลโลวีนที่สุด เพราะจะเป็นวันที่แกจะได้เดินออกไปนอกบ้านได้อย่างสบายใจที่สุด ไม่มีใครแสดงอาการรังเกียจเดียดฉันท์ใส่แบบทุกๆ วัน
So I usually look down.
You can learn a lot
about people from their shoes.
ผมชอบมองต่ำ
เราจะเรียนรู้อะไรมากมาย
เกี่ยวกับผู้คนจากการมองรองเท้า
โถๆ ลูกเอ๋ย
ส่วนพ่อนั้นตลกใช้ได้ เรียกลูกไปสั่งเสีย
If someone pushes you, push back.
Don’t be afraid of anyone.
ถ้ามีใครมาผลัก ผลักกลับเลยนะ
ไม่ต้องกลัวใครที่ไหนทั้งนั้น
ลูกชายถึงกับส่ายหัวใส่คำแนะนำของพ่อ ถามพ่อทำไมกระซิบ พ่อว่ากลัวแม่ได้ยิน อ้าว! ไหนบอกลูกว่าอย่ากลัว
พอเย็นย่ำกลับบ้านมา พ่อแม่รีบถามว่า โรงเรียนเป็นอย่างไร เด็กชายว่า ดี แต่หน้าตาบอกบุญไม่รับ พอพ่อกับแม่ไม่เชื่อ เซ้าซี้อยู่ได้ เด็กชายโมโห เดินกระแทกส้นดังปังๆ เข้าห้องนอนตนเอง ปิดประตูปั้ง
Battin’ a thousand today.
ต้องทำให้ถูกต้องที่สุดสิ
พ่อหันมาพูดขำใส่ลูกสาววัยรุ่น แล้วรีบไปดูลูกชาย
batting a thousand เป็นสำนวน หมายถึง ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ถูกต้องที่สุดหรือสมบูรณ์ที่สุด
เพราะใช่ว่าส่งลูกไปโรงเรียน ลูกอยู่โรงเรียนได้ครบวันแล้วจะเรียกว่าประสบความสำเร็จ ลูกโมโหโกรธาก็ต้องดูแล

พี่สาวนั้นก็แสนดี พอน้องไม่ปกติ พ่อกับแม่ก็ละเลยแม่หนูไปก็เยอะ แต่แม่หนูไม่เคยจะละเลยน้อง ปัญหาของน้องหนูก็เยอะ เพื่อนรักห่างหายกันไปไร้สาเหตุ จู่ๆ วันหนึ่งก็รู้ว่าไม่ได้เป็นเพื่อนรัก แต่พี่สาวก็มีใจจะห่วงน้องชาย
You can’t blend in when you
were born to stand out.
น้องทำตัวกลมกลืนไม่ได้หรอก
ก็เกิดมาเพื่อโดดเด่นแล้วนี่
blend in หมายถึง กลมกลืน
ตั้งแต่เล็กจนโตนิ พวกเราต้องพยายามทำตัวกลมกลืนไปกับสรรพสิ่ง เดี๋ยวเข้าโรงเรียนใหม่ ย้ายห้องเรียนใหม่ ไปทำงานที่ใหม่ ต้องใช้ทักษะการกลมกลืนตลอดเวลา
แต่ตอนเด็กๆ ไม่มีใครบอกฉันแบบนี้ว่าเราไม่ต้องกลมกลืนก็ได้ เราเข้ากับคนได้ แต่ไม่จำเป็นต้องกลมกลืนไปกับเขาก็ได้ แต่ถ้าอยากจะกลมกลืนกับพวกเขา เราก็ทำได้เช่นกัน
เด็กชายอ๊อกกี้ชอบเรียนวิทยาศาสตร์มากๆ อยากเป็นนักบินอวกาศ การเรียนมันดึงดูดใจเด็กชายอ๊อกกี้มากๆ จนอดทนต่อการไม่มีเพื่อนได้ อดทนต่อสายตาที่มองมาอย่างคนเห็นตัวประหลาดได้ และที่สำคัญ อดทนให้เพื่อนแกล้งให้เพื่อนทำร้ายจิตใจได้ เพื่อนดีๆ แรกก็มีคนเดียว เกินพอมากๆ
เด็กๆ บางทีก็ใจร้าย โดยที่เขาไม่รู้ตัว ในหนังเขาก็นำเสนอให้เราได้รู้วิธีเป็นคนใจดี แม้แต่เด็กชายอ๊อกกี้เอง ก็ได้เรียนรู้ว่ามิใช่ตนเองคนเดียวที่ทุกข์ใจได้ พี่สาว พ่อ แม่ หรือเพื่อนๆ ต่างก็มีปัญหาเป็นของตนเอง
“When given the choice between being right or being kind, choose kind.” หากต้องเลือกว่าเป็นคนถูกหรือเป็นคนใจดี จงเลือกใจดี ครูสอนนักเรียนในตอนหนึ่ง จิตใจดีนั้นสำคัญนัก
จงเป็นคนใจดี และอย่ากลัว อย่ากลัวการดำเนินชีวิตไปข้างหน้าอนาคตใหม่ ชีวิตเรา เราดูแลเอง แต่หากเป็นชีวิตพวกเรา พวกเราก็ต้องได้ดูแลกันและกัน ด้วยกัน
ฉันเอง