ทราย เจริญปุระ : มืดในโลกสถิติ

"สถิติฉบับเซ็กซี่" (Naked Statistics : Stripping the Dread from the Data) เขียนโดย Charles Wheelan แปลโดย กฤดิกร เผดิมเกื้อกูลพงศ์ และ ณัฏฐพรรณ เรืองศิรินุสรณ์ ฉบับพิมพ์ครั้งแรก โดยสำนักพิมพ์ openworlds, มีนาคม 2561

ฉันไม่ได้เป็นคนที่มีผลการเรียนในระดับเอาไปอวดใครๆ ได้

ถ้าจะใช้เป็นตัวอย่างให้คนอื่นได้ดู คงมาแนวเป็นอุทาหรณ์มากกว่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

คนอะไรตกวิชาพลศึกษา

แต่ถ้าจะมีเกรดวิชาไหนพอจะเอาไปอวดใครๆ เขาได้ ก็จะเป็นวิชาเน้นการอ่าน อย่างภาษา หรือหมวดวิชาสังคม

ส่วนที่ห่วยแสนห่วย คืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับตัวเลข

แค่เขียนหมายเลขนำหน้าหัวข้อรายงานฉันยังเรียงเลขผิดได้

ดังนั้น วิชาที่ว่าด้วยเลขทั้งปวง ฉันตกเรียบตั้งแต่ ป.4 ดีว่าเขาเอาคะแนนสามวิชาหลักคือเลข ภาษาไทย สังคมมาหารกัน ความเลวร้ายนี้จึงไม่ปรากฏชัดนัก

ภูมิความรู้ของฉันจบที่การคูณเลขทศนิยม (ซึ่งก็ใช่ว่าจะคล่อง) เลยไปจากนี้ ให้กดเครื่องคิดเลขยังกดผิดว่าเลขไหนเป็นตัวตั้ง เลขไหนเป็นตัวคูณ ตัวหาร

ดังนั้น ในระดับมหาวิทยาลัย ฉันก็เลือกเรียนคณะที่ไม่เกี่ยวข้องกับเลขที่สุด คือคณะนิเทศศาสตร์

โดยไม่ได้รู้เลยว่ามันจะมีตัวเลขเข้ามาวุ่นวาย

นั่นคือวิชาสแตต หรือสถิติเบื้องต้น

 

“ความย้อนแย้งของสถิติคือ ทั้งที่มันปรากฏอยู่ทุกหนทุกแห่ง ตั้งแต่ค่าเฉลี่ยการตีลูกเบสบอลไปจนถึงโพลเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่สถิติกลับโด่งดังในฐานะที่มันช่างน่าเบื่อและเข้าถึงยาก หนังสือสถิติและชั้นเรียนวิชาสถิติทั้งหลายล้วนเต็มไปด้วยเลขคณิตและศัพท์เฉพาะทาง เชื่อผมเถอะครับ รายละเอียดทางเทคนิคนั้นสำคัญ (และน่าสนใจด้วย) แต่มันคงชวนงงน่าดู ถ้าคุณไม่เข้าใจแนวคิดของมัน บางทีคุณอาจจะไม่สนใจแนวคิดพวกนั้นด้วยซ้ำถ้าคุณไม่เชื่อว่ามีเหตุผลจำเป็นที่เราต้องเรียนสถิติ””

ใช่ ฉันไม่เชื่อว่ามีเหตุผลจำเป็นที่เราต้องเรียนสถิติ

เพราะถ้าไม่ต้องเรียน ฉันก็จะไม่ติดเอฟซ้ำซากต้องมาคอยแก้อยู่แบบนี้

ตัวเลข ตาราง กราฟอะไรต่อมิอะไรทำไมมันเยอะนัก

ฉันงงแล้วงงอีก เพื่อนที่ช่วยติวให้ก็ถามว่าไม่เข้าใจตรงไหนจะได้ช่วยเหลือ ฉันก็อยากจะบอกเสียจริงๆ ว่าไม่เข้าใจตั้งแต่ต้นนั่นแหละ จะให้ดีคือย้อนไปสอนเลขระดับประถมสี่ให้ฉันเสียเลยน่าจะพอช่วยเหลือได้

เพื่อนเห็นหน้างงๆ พร้อมคำบ่นจากฉันว่าเรียนไปทำไมกันนะวิชานี้ ก็ถึงกับขำ แล้วย้อนให้ว่า จริงๆ แล้วแก (คือหมายถึงฉัน) ต้องเข้าใจเรื่องสถิติและการวัดผลสิ เล่นละครยังมีวัดเรตติ้งความนิยมเลย

 

เออ ก็จริงของเพื่อน

แต่เรื่องโพลหรือเรตติ้งนี่เป็นความลึกลับอย่างหนึ่งในชีวิตของฉัน ตั้งแต่เริ่มเรียนจนมาถึงการประกอบอาชีพ

ละครที่ฉันเล่นก็มีการวัดเรตติ้ง จะได้เล่นเพิ่มหรือจะโดนตัดจบก็วัดกันตรงนี้ แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นจริงๆ ว่าไอ้เครื่องวัดเรตติ้งมันติดอยู่ตรงไหน

ถามใคร ใครก็ไม่เคยเห็น

บางคนบอกว่า มันจะติดอยู่ที่โทรทัศน์รุ่นเก่า

ซึ่งถ้าจริง, ทุกวันนี้ก็ไม่มีใครเขาใช้กันแล้ว เปลี่ยนมาเป็นจอแบนหรูหรา

แล้วเครื่องนั้นมันจะไปติดอยู่ตรงไหน?

 

“อคติจากผู้ใช้ที่สุขภาพดี (Healthy User Bias) เหตุที่คนที่กินวิตามินเสริมเป็นประจำมักสุขภาพดี -ก็เพราะพวกเขาเป็นคนประเภทที่กินวิตามินเสริมเป็นประจำไง!- ส่วนประเด็นที่ว่าวิตามินส่งผลใดๆต่อสุขภาพหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

–ในระดับพื้นฐานที่สุด ปัญหาคือคนที่เข้าร่วมกิจกรรมที่ดีต่อสุขภาพด้วยความศรัทธา เช่น กินยาตามที่หมอสั่งหรือรับประทานอาหารที่เชื่อว่าเป็นอาหารสุขภาพ เป็นคนที่แตกต่างจากกลุ่มคนที่ไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี้ในทุกมิติ

ผลจากอคติเช่นนี้มีพลังพอที่จะทำให้การศึกษาที่พยายามประเมินผลแท้จริงของกิจกรรมที่เชื่อว่าดีต่อสุขภาพ (เช่น การออกกำลังกายสม่ำเสมอหรือการกินผักเคล) เกิดความสับสนได้””

 

มาถึงวันนี้ที่ฉันแก้เอฟวิชาสถิติได้เสียที (หลังจากลงซ้ำเป็นรอบที่สาม) และเริ่มจะลืมๆ ความยุ่บยั่บยั้วเยี้ยของสูตรคำนวณ ตัวเลขและตารางทั้งหลายไปได้บ้างแล้ว ฉันก็เลยได้แต่คิดว่าฉันเป็นพวกตกสำรวจ เหมือนเจ้าหน้าที่ตรวจคุณภาพประชากร

เขามาแอบล่วงรู้ว่าฉันโง่เหลือหลายในวิชานี้ อย่าไปให้ความสำคัญกับมันเลย หรือไม่ก็มีอคติท่วมล้นพ้นตัวจนไม่น่าเข้าใกล้ หรือไม่ก็ยาภาพฝันวันหวานที่อัดให้คนอื่นๆ ได้มันดื้อกับฉัน อยู่ๆ ก็ไม่ออกฤทธิ์ให้ฉันเห็นความงดงาม ความไม่คอร์รัปชั่น หรือความเคารพสิทธิพลเมืองอย่างที่ “เขา” พยายามกล่อมเราให้เชื่อว่ามีอยู่เต็มเปี่ยม

หรือคนอย่างฉันไม่มีราคาอะไร แต่ถ้าใครที่เห็นด้วยกับด้านบวกของโพล ก็จะได้บวกสิบคะแนนกันไปเลย

เพราะยังไงฉันก็เกลียดวิชาสถิติอยู่แล้วนี่

ฉันไม่เข้าใจมัน

แถมฉันอยู่ที่นี่

อยู่ในประเทศนี้ที่ผลโพลออกกันโครมๆ ว่ามั่นใจว่าคนเจ็ดสิบล้านคนคิดอย่างนั้น รักมากอย่างนี้ ไม่พร้อมเลือกตอนนี้

แต่ไม่มีใครมาถามฉันสักคน

ฉันก็ดูบัตรประชาชนในมือแล้วก็เกากบาลอย่างงงๆ

ว่าตกลงฉันเป็นคนที่ไหน

หรือกระทั่งว่า, นี่กูยังเป็นคนอยู่มั้ย (วะ)?

ถ้าจะอธิษฐานอะไรสักอย่างได้ ฉันก็คงขออะไรง่ายๆ แค่นี้ละ

ขอให้ได้มีคนมาถามความคิดเห็นของฉันที่มีต่อผลงานการบริหารประเทศยุคนี้บ้าง

ฉันอยากรู้จัง ว่าความคิดเห็นของฉัน เมื่อถูกจัดเก็บคำนวณด้วยสูตรวิชาสถิติแล้ว จะเป็นความคิดเห็นส่วนใหญ่หรือส่วนน้อยในสังคม

 

—————————————————————————————————————

“ข้อความจากในหนังสือ