ONE PIECE เล่ม 81 ถึง 98

กองทัพเรือและร้อยอสูรไคโด

 

ลูฟี่และพรรคพวกเดินทางต่อไปถึงเมืองบนหลังช้างยักษ์ชื่อ โซ การผจญภัยแสนมหัศจรรย์บทใหม่เริ่มที่ขาหลัง

ที่นี่ลูฟี่และพวกได้พบเพื่อนใหม่อีกสองเผ่าพันธุ์คือสัตว์มนุษย์เผ่ามิงค์และซามูไรแห่งวะโนะคุนิ

เป็นเวลาเดียวกับซันจิพ่อครัวขาดำรูปหล่อถูกเรียกกลับบ้านไปแต่งงาน ส่วนนิโคโรบินพบว่าศิลาแดงที่จารึกอักขระโบราณมี 4 ชิ้น หากหาครบทุกชิ้นจึงจะได้แผนที่ชี้ทางไป “รัฟเทล” เกาะสุดท้ายของโจรสลัด ซึ่งอาจจะเป็นที่อยู่ของวันพีซ ปัญหาคือศิลาแดงบางชิ้นอยู่ในมือสี่จักรพรรดิ

หนึ่งในนั้นคือร้อยอสูรไคโด!

ซันจิกำลังเดินทางไปสู่กับดัก ร้อยอสูรไคโดยึดครองวะโนะคุนิเอาไว้ ลูฟี่และพวกจึงแบ่งกำลังออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งตามไปช่วยเหลือซันจิ อีกส่วนหนึ่งล่วงหน้าไปที่วะโนะคุนิ ลูฟี่เลือกข้างสหาย เขาเดินทางไปที่บ้านเกิดของซันจิและค้นพบความลับที่ว่าซันจิเป็นทารกที่ล้มเหลวจากการตัดแต่งพันธุกรรมของตระกูลวินสโมค ในขณะที่พี่ๆ สี่คนของซันจิเป็นซูเปอร์ฮิวแมน ซันจิเป็นคนธรรมดา

อย่างไรก็ตาม ตระกูลวินสโมคของเขาก็กำลังหลงกลพิธีแต่งงานที่จัดขึ้นให้แก่ซันจิกับชาร์ล็อตพุดดิ้ง บุตรีสามตาของบิ๊กมัมชาร์ล็อตลินลิน พวกชาร์ล็อตมีแผนการร้ายจะล้างตระกูลวินสโมค ลูฟี่ด้วยความช่วยเหลือของนักรบจากเผ่ามิงค์จำเป็นต้องสมคบกับตระกูลมาเฟียเบจวางยาพิษในสุดยอดเค้กแห่งสามโลกที่ทำให้แก่บิ๊กมัม

นำไปสู่การต่อสู้วินาศสันตะโรอีก 10 เล่ม!

 

 

อีกสิบเล่มนั้นนานและเหนื่อยมากจนนักอ่านมึนไม่รู้กำลังอ่านอะไรอยู่ ผู้เขียน (การ์ตูน) จึงต้องเบรกสรุปให้ (นี่การ์ตูนนะเนี่ย) จากนี้ไปสิ่งที่เกิดขึ้นอาจจะมีอยู่สามอย่าง

แบบที่หนึ่ง หม่าม้าตายเพราะยาพิษ ถ้าเป็นแบบนี้กลุ่มโจรสลัดบิ๊กมัมก็ถึงคราวจบสิ้น

แบบที่สอง ยาพิษไม่ได้ผลแต่เค้กไม่อร่อย ถ้าเป็นแบบนี้อาการคลั่งของหม่าม้าจะไม่หยุดและทำลายทั้งประเทศ

แบบที่สาม ยาพิษไม่ได้ผลแต่เค้กอร่อย ถ้าเป็นแบบนี้มีแต่ปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะช่วยทุกคนรอดชีวิตได้

“หม่าม้าจอมโลภหิวกระหาย วางแผนลวงหลอกด้วยเล่ห์ร้าย หาเจ้าหญิงกับเจ้าชายมาพานพบ แต่ไม่อาจบรรจบสมหวังได้ แม้น้ำหวานก็อาจมีจิตดื้อด้านไม่ฟังใคร ในโลกนี้ไม่มีสิ่งใดเป็นภัยเกินความหวาน ละครลิงฉากใหญ่สุดวุ่นวาย หลบหนีเฉียดตายแล้วแคล้วคลาด ขาไปอาจได้ยิ้มชิมลูกกวาด แต่ขากลับก็มีสิทธิ์จะหัวขาด ที่ไม่ควรพลาดคือรอลุ้นว่าใครจะกำชัย”

คือลำนำการจับคู่แต่งงานระหว่างซันจิกับชาร์ล็อตก่อนที่จะนำไปสู่การพิชิตบิ๊กมัมยกที่หนึ่ง

 

แต่เรื่องไม่จบ การต่อสู้ระหว่างลูฟี่กับบิ๊กมัมเป็นส่วนเดียวของการเมืองโลก รัฐบาลโลกเลี้ยงดูเจ็ดเทพอสูรโจรสลัดไว้ใช้งานนอกกฎหมาย ส่วนบิ๊กมัมและร้อยอสูรไคโดซึ่งเป็นสองในสี่จักรพรรดินอกกฎหมายสมคบคิดค้ายาเสพติดและอาวุธสงคราม เมื่อหนวดขาวและเอสตาย หนวดดำผงาดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้สมดุลของโลกเปลี่ยนไป นั่นเป็นเวลาที่รัฐบาลโลกเรียกประชุมประเทศสมาชิกห้าสิบประเทศพอดี

พระราชาและตัวแทนจากประเทศต่างๆ เดินทางมาประชุม หากนักวิจารณ์ท่านใดคิดว่าตลอดระยะเวลา 90 เล่มที่ผ่านมาเนื้อเรื่องของวันพีซออกทะเลไปมาก หากได้มาอ่านเล่มที่ 90 นี้จะมีการทบทวนตัวละครของอาณาจักรและเกาะต่างๆ ที่ลูฟี่และพวกผ่านไปอย่างละเอียดหน้าต่อหน้า (นี่การ์ตูนนะเนี่ย)

ระหว่างทางลูฟี่สร้างศัตรูและมิตรมากมาย ตัวละครนับได้หลายร้อยคน ไม่ทราบเคยมีใครลงมือนับหรือไม่ว่าหนังสือการ์ตูนเรื่องนี้มีตัวละครจำนวนเท่าไร

 

มากกว่าการสร้างศัตรูและมิตร เรื่องที่นักอ่านอาจจะมองข้ามไปคือทุกคนพัฒนา ลูฟี่และพรรคพวกทั้ง 9 คนแต่ละคนพัฒนาไปมาก ศัตรูของลูฟี่พัฒนาไปด้วยเช่นกัน บางคนได้ล่วงรู้ว่าการเป็นคนเหนือคนที่แท้ควรทำตัวอย่างไร ประการนี้คือสิ่งที่ลูฟี่และการ์ตูนวันพีซพยายามทำให้เห็น แต่ศัตรูที่ร้ายกาจขึ้นก็ยังมี ในขณะเดียวกันมิตรของเขาทั่วทุกเกาะก็พัฒนาความสามารถมากขึ้นด้วย งานชุมนุมศิษย์เก่าที่เรเวอรี่แห่งแมรี่จัวร์นี้จึงไม่ธรรมดา

เผ่ามังกรฟ้ารออยู่ที่แมรี่จัวร์

ตัวละครด้านกองทัพเรือพัฒนาไปมากด้วยเช่นกัน กองทัพเรือเป็นหน่วยงานในสังกัดรัฐบาล พวกเขามีหน้าที่รักษากฎหมาย เพราะรัฐบาลโลกเป็นรัฐบาลที่ถูกกฎหมาย เชื่อได้ว่านักอ่านหลายคนก็รู้สึกประทับใจที่ตำแหน่งระดับสูงของกองทัพเรือเปลี่ยนไปมาก พวกเขายังคงร้ายกาจ และภารกิจหลักคือทำลายโจรสลัด แต่เราจะพบว่าที่ผ่านมาหลายคนก็อึดอัดที่รัฐบาลทำให้เจ็ดเทพโจรสลัดเป็นกองกำลังที่ถูกกฎหมาย

วันนี้ไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว เจ็ดเทพโจรสลัดถูกลูฟี่ทำลายลงแทบไม่เหลือ เมื่อหมดประโยชน์รัฐบาลจึงถีบส่ง นั่นทำให้กองทัพเรือดูดีขึ้นมาก สมดุลแห่งอำนาจเทมาทางสามในสี่จักรพรรดิที่เหลืออยู่คือแชงคูส บิ๊กมัม ร้อยอสูรไคโด และการคืบคลานเข้ามาของหนวดดำ รวมทั้งกองกำลังปฏิวัติของบิดาของลูฟี่เอง

ยังไม่ทันเปิดประชุมวันแรก เซนต์ชาร์ลอส เผ่ามังกรฟ้าลงมือฉุดเจ้าหญิงเงือกยักษ์ในที่ชุมชนต่อหน้าเทพเนปจูนพระบิดา ความคั่งแค้นของเงือกและสงครามส่อแววปะทุขึ้นมาใหม่อีกรอบ

เซนต์รอสวาร์ด เผ่ามังกรฟ้าอีกองค์หนึ่งล่ามโซ่และขี่หลังอดีตเจ็ดเทพโจรสลัดที่น่ากลัวที่สุดคือบาร์โธโลมิวคุมะซึ่งมีแผลดาบเสียบร่างไว้ตามตัวเดินมากลางตลาด ให้รู้เสียบ้างว่าพวกเขาเผ่ามังกรฟ้าทำอะไรได้มากเพียงใด

แต่ไม่ทันที่เนื้อเรื่องจะเดินหน้าเจาะลึกเรื่องการประชุมรัฐบาลโลกและเผ่ามังกรฟ้า ลูฟี่ก็พาพวกเราออกนอกเส้นเรื่องอีกครั้งหนึ่ง!

 

เรื่องราวอีกเกือบสิบเล่มถัดไปเล่าเรื่องราวในอดีตของประเทศวะโนะคุนิซึ่งตั้งอยู่บนน้ำตกสูงใหญ่ซึ่งเป็นทางเข้าทางเดียว คือประเทศปิดล้อมที่ร้อยอสูรไคโดและบิ๊กมัมได้ประกอบธุรกิจร่วมกับเครือข่ายต่างๆ มาช้านาน

หลายสิบปีก่อน จ้าวสลัด โกลด์ ดี โรเจอร์ ได้มาขอยืมตัวโอเด้งแห่งวะโนะคุนิซึ่งเวลานั้นคบหาอยู่กับหนวดขาว เรื่องซับซ้อนนี้เกี่ยวกับศิลาแดงสี่ก้อนที่จารึกโพเนกลีฟอักษรต้องห้ามของรัฐบาลโลกเอาไว้ โอเด้งเป็นคนหนึ่งที่กุมความลับเรื่องจารึกเอาไว้ การจากไปของโอเด้งนำมาซึ่งความวิบัติของวะโนะคุนิทั้งทางตรงและทางอ้อม ถึงเขาจะเป็นวีรบุรุษ วีรบุรุษก็ต้องชดใช้

ถึงมีเหตุผลที่ดีก็ต้องชดใช้!

พวกเขาเดินทางไปถึงเกาะสุดท้ายได้จริงๆ รับทราบเรื่องร้อยปีแห่งความว่างเปล่า แล้วทันใดนั้นโรเจอร์ก็หัวเราะลั่น (laugh tale) อะไรกันที่เกาะสุดท้ายที่ทำเขาหัวเราะลั่นเพียงนั้น

เรื่องที่วะโนะคุนิซับซ้อนเหลือกำลังที่จะเล่า ส่วนที่น่าประทับใจมีมากมายเต็มไปหมด ภายใต้ตัวหนังสือเล็กมากในฉบับภาษาไทยและบทบรรยายที่ยืดยาวของการสนทนา เรื่องเล่านี้รวบรวมพฤติกรรมที่แท้จริงของวีรบุรุษ เช่น โอเด้ง ผู้พลีชีพเพื่อการโค่นล้มทรราชอย่างยาสึอิเอะ เล่าเรื่องขุนนางชั่วช้า เช่น คุโรซึมิ รวมทั้งความแค้นข้ามเวลาของเก้าปลอกดาบแดงซึ่งเป็นทายาทและผู้ภักดีต่อโอเด้ง

ประการหลังนี้น่าตื่นเต้นมาก ส่วนหนึ่งข้ามเวลามาล้างแค้น อีกส่วนหนึ่งรอเวลาเติบโตเพื่อล้างแค้น

การล้างแค้นที่แท้มาจากทั้งสองทิศทาง คืออดีตและอนาคต

ถึงเล่ม 98 แล้ว ร้อยอสูรไคโดและบิ๊กมัมกำลังจะเป็นผู้ครองอำนาจสูงสุด แต่พวกมันติดขัดที่โลกใบนี้ยังมีลูฟี่อยู่ ลูฟี่แค่ต้องการเป็นเจ้าแห่งโจรสลัดก็จริง แต่ระหว่างทางนั้นใครทำเพื่อนของเขาเดือดร้อน

มีเรื่อง