อะไร(แม่ง)ก็เป็นศิลปะ : Voina กลุ่มผู้ก่อการศิลปะแสดงสด หัวขบถสุดอื้อฉาวแห่งรัสเซีย

ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์

 

 

Voina

กลุ่มผู้ก่อการศิลปะแสดงสด

หัวขบถสุดอื้อฉาวแห่งรัสเซีย

 

ในตอนที่แล้วเราเล่าถึงปฏิบัติการต่อต้านผู้มีอำนาจของเหล่านักศึกษากันไปแล้ว ในตอนนี้เราขอนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มศิลปินผู้ต่อต้านอำนาจรัฐกันบ้าง

ศิลปินกลุ่มนี้มีชื่อว่า ไวนา (Voina) (แปลว่า “War” หรือ “สงคราม” ในภาษารัสเซีย) กลุ่มศิลปินแสดงสดหัวขบถชาวรัสเซีย ผู้เป็นที่รู้จักจากผลงานศิลปะแสดงสดสุดอื้อฉาวที่เต็มไปด้วยแรงขับเคลื่อนทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศิลปะแสดงสดเพื่อประท้วงต่อต้านรัฐบาล

ในกลุ่มประกอบด้วยสมาชิกกว่า 60 คน ที่มีทั้งนักศึกษา (และอดีตนักศึกษา) จากสถาบันต่างๆ ในรัสเซียอย่างสถาบัน Rodchenko Moscow School of Photography, มหาวิทยาลัยแห่งรัฐมอสโก (MSU) และมหาวิทยาลัย Tartu เป็นต้น

กลุ่มไวนาก่อตั้งขึ้นในปี 2007 โดย โอเลก วารอตนิคอฟ (Oleg Vorotnikov) ผู้จบปริญญาตรีด้านปรัชญาจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมอสโก ร่วมกับสมาชิกยุคบุกเบิกอย่าง นาตาเลีย ซาโกล (Natalia Sokol) อดีตอาจารย์ผู้จบปริญญาเอกด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ในสถาบันเดียวกัน (ผู้กลายเป็นภรรยาของวารอตนิคอฟในเวลาต่อมา)

สมทบด้วยสมาชิกหลักอย่าง อันทอน ไนโกลัฟ (Anton Nikolaev), ลีโอนิด นิโกไลเยฟ (Leonid Nikolayev) และ อเล็กซี พลัตซยุต-ซาร์นา (Alexei Plutser-Sarno) ตามด้วย ปโยเตอร์ เวียซิลอฟ (Pyotr Verzilov) และภรรยาของเขา นาเดียซดา ทะละคอนนิโควา (Nadezhda Tolokonnikova)

(ที่ต่อมากลายเป็นสมาชิกของวงดนตรีเฟมินิสต์พังก์ร็อกหญิงล้วนสุดอื้อฉาวของรัสเซียอย่าง Pussy Riot นั่นเอง) ฯลฯ

 

Mordovian Hour (2007), ภาพจาก https://bit.ly/3EmUXkV

ถึงแม้พวกเขาจะเป็นกลุ่มศิลปินปัญญาชนที่จบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย แต่พวกเขาก็ไม่ได้รับการสนับสนุนหรือข้องแวะกับสถาบันการศึกษา หรือสถาบันศิลปะของภาครัฐและเอกชน หรือแม้แต่กับภัณฑารักษ์และหอศิลป์ใดๆ เลยแม้แต่น้อย

พวกเขายังเป็นกลุ่มศิลปินที่ไม่มีรายได้เป็นหลักแหล่ง, ด้วยความที่ยึดถือในหลักปรัชญาการเมืองฝ่ายซ้าย ที่ปฏิเสธระบบเศรษฐกิจ, การจ้างงาน และการใช้เงิน

ว่ากันว่าพวกเขาหาเลี้ยงชีพด้วยการคุ้ยกองขยะ ฉกฉวยอาหารและเครื่องดื่มจากซูเปอร์มาร์เก็ต โดยอีกนัยหนึ่งวิถีชีวิตแบบนี้ก็เป็นวิถีปฏิบัติทางศิลปะของพวกเขาด้วย

ในช่วงแรกพวกเขาอาศัยและทำงานกันอยู่ในสตูดิโอของโอเลก คูลิก (Oleg Kulik) ศิลปินแสดงสดผู้โด่งดังจากการแสดงเป็นหมา (ที่เราเคยกล่าวถึงไปในหลายตอนที่แล้ว) ก่อนที่จะลักลอบเข้าไปอาศัยอยู่ในอู่ซ่อมรถเก่าๆ ที่ไม่มีแม้แต่เครื่องทำความร้อน ในชานเมืองมอสโก

“ไวนาเป็นกลุ่มศิลปินผู้ก่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ไม่ต่างอะไรกับฮีโร่สุดแสนโรแมนติกแห่งยุคใหม่ พวกเราเป็นเหมือนจอมโจรโรบินฮู้ดที่ต่อสู้กับอำนาจอันชั่วร้าย พวกเราต้องการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ด้วยปฏิบัติการทางศิลปะ โดยไม่ทำให้ใครต้องเจ็บปวดล้มตาย”

“แทนที่จะนำเสนอความน่าเบื่อหน่ายและหดหู่ พวกเรานำความสนุกสนานมาสู่พื้นที่ทางศิลปะในรูปแบบเดียวกันกับเทศกาลคาร์นิวัลของศิลปะยุคกลาง เรารื้อฟื้นวิธีการทำงานศิลปะอันเปี่ยมชีวิตชีวา เต็มไปด้วยการแสดงออกอย่างจริงใจ และมอบประสบการณ์ทางอารมณ์อันลึกซึ้งให้แก่ผู้ชม”

อเล็กซี พลัตซยุต-ซาร์นา ผู้รับบทบาทเป็นโฆษกของกลุ่มกล่าว

 

A Cop in a Priest’s Cassock (2008), ภาพจาก https://bit.ly/3jEQ3Yl

กลุ่มไวนาก่อการศิลปะแสดงสดด้วยความรุนแรงและเกรี้ยวกราด ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความเหลวไหลไร้สาระ แฝงด้วยอารมณ์ขันอันเปี่ยมไหวพริบปฏิภาณ

โดยมีเป้าหมายในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเผด็จการของรัสเซีย รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์และตีแผ่สถานการณ์ทางสังคมการเมืองของรัสเซียอย่างจะแจ้ง ตรงไปตรงมา

ทั้งการทุจริตคอร์รัปชั่น, ระบบอุปถัมภ์, การเล่นพรรคเล่นพวก เอื้อประโยชน์ให้แก่คนใกล้ชิดและพวกพ้องของรัฐบาลรัสเซีย และการมีอำนาจควบคุมอันเบ็ดเสร็จของศาสนจักรนิกายออร์โธดอกซ์แห่งรัสเซีย

พฤติการณ์ทางศิลปะของกลุ่มไวนามีตั้งแต่การก่อการศิลปะแสดงสดเพื่อการประท้วงบนท้องถนน, การก่อความปั่นป่วนในพื้นที่สาธารณะ และการก่อการศิลปะแสดงสดแบบฉับพลัน (Happening art) ในการทำลายและสร้างความเสียหายให้ทรัพย์สินของรัฐ จนถูกเจ้าหน้าที่รัฐหมายหัวและจับกุมคุมขังในฐานะผู้ก่ออาชญากรรมบ่อยครั้ง

ไม่ว่าจะเป็นการก่อการแสดงสด Mordovian Hour (2007) ที่พวกเขาทำขึ้นในวาระเฉลิมฉลองวันแรงงานสากล ด้วยการโยนแมวจรจัดสองตัวข้ามเข้าไปในเคาน์เตอร์ของร้านอาหารแดกด่วน ที่อยู่ภายในสถานีรถไฟใต้ดิน Serpukhovskaya ในกรุงมอสโก

พวกเขากล่าวถึงเหตุผลเบื้องหลังการก่อการแสดงสดนี้ว่าต้องการทำลายความจำเจในการทำงานประจำวันอันหนักหนาและน่าเบื่อหน่ายของลูกจ้างและผู้ใช้แรงงานเหล่านี้

“แนวกีดขวาง (เคาน์เตอร์) ของร้านขายแฮมเบอร์เกอร์แบ่งแยกประเทศเราออกเป็นสองฟากฝั่ง สิ่งที่อยู่แต่ละฝั่งของแนวกีดขวางคือประชาชนที่ขาดไร้ซึ่งเสรีภาพในชีวิตและอาหารปกติธรรมดา! อีกอย่างหนึ่ง แมวสองตัวนี้ก็เหาะเหินได้สวยชะมัดยาด แถมลงจอดได้เฉียบ และสวาปามแฮมเบอร์เกอร์ได้รวดเร็วฉิบ!”

เหตุการณ์นี้ทำให้กลุ่มไวนาและแมวทั้งสองถูกควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่ก็ปฏิเสธที่จะใช้แมวเป็นหลักฐานในการก่อคดี และปล่อยตัวทั้งคนและแมวไปในที่สุด

 

Fuck for the heir Puppy Bear! (2008), ภาพจาก https://bit.ly/2ZodPkJ

หรือผลงาน A Cop in a Priest’s Cassock (2008) ที่พวกเขาแต่งกายในชุดนักบวชนิกายออร์โธดอกซ์และสวมหมวกของตำรวจรัสเซียเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตและขนอาหารและของชำเต็มรถเข็นออกไปโดยไม่จ่ายเงิน เพื่อแสดงให้เห็นถึงการยึดถือวิถีปฏิบัติอย่างเคร่งครัดของกลุ่ม

ผลงานสุดอื้อฉาวที่ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือ Fuck for the heir Puppy Bear! (2008) ที่สมาชิกกลุ่มจำนวนเกือบ 20 คน บุกรุกเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ชีววิทยาแห่งชาติ Timiryazev ในกรุงมอสโก และปฏิบัติการศิลปะแสดงสดด้วยการเปลื้องผ้าจนเปลือยเปล่าและทำการร่วมเพศหมู่กันหน้าตู้กระจกที่จัดแสดงหมีสตัฟฟ์อยู่ภายใน (หนึ่งในจำนวนนั้นคือนาเดียซดา ทะละคอนนิโควา ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่)

พวกเขาทำกิจกรรมร่วมเพศหมู่อันท้าทายกฎหมายและศีลธรรมครั้งนี้เพื่อต่อต้านการสมัครเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีรัสเซียของดมิทรี เมดเวเดฟ (Dmitry Medvedev) ในปี ค.ศ.2008

ระหว่างการแสดงสดร่วมเพศหมู่ พวกเขาชูธงที่มีคำขวัญในภาษารัสเซียที่แปลว่า “Fuck for the heir Puppy Bear!” (ซั่มทายาทตุ๊กตาหมี) ซึ่งเป็นการเล่นคำถึงนามสกุลของเมดเวเดฟ ที่พ้องกับคำว่า ‘มีดเวียด’ (medved) หรือ ‘หมี’ ในภาษารัสเซียนั่นเอง

ด้วยการก่อการศิลปะแสดงสดอันสุดอื้อฉาวเช่นนี้ Voina ใช้กิจกรรมทางเพศแสดงนัยยะเสียดเย้ยสถานการณ์ทางการเมืองอันฉ้อฉลของรัสเซีย

ดังคำแถลงการณ์ของพวกเขาว่า “พวกเราคิดว่ารัฐบาลกำลัง (fuck) (เอา (เปรียบ)) ประชาชน โดยที่พวกเราก็ยินยอมพร้อมใจ เราก็เลยทำการแสดงสดนี้ขึ้นเพื่อแสดงสภาวะก่อนการเลือกตั้งที่ทุกคนต่าง ‘เอา’ กันเอง โดยมีตุ๊กตาหมีกำลังจับตามองอยู่ด้วยความรังเกียจชิงชัง”

 

In Memory of the Decembrists (2008), ภาพจาก https://bit.ly/2ZyGkfx

 

หรือผลงาน In Memory of the Decembrists (2008) ที่พวกเขาบุกเข้าไปทำการแสดงสดเลียนแบบการฆ่าแขวนคอชายรักร่วมเพศสองคน และพนักงานชาวเอเชียสามคน ในซูเปอร์มาร์เก็ตของห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในกรุงมอสโก เพื่อประท้วงการแสดงออกในการต่อต้านการรักร่วมเพศและการเหยียดเชื้อชาติของยูริ ลุซคอฟ (Yuri Luzhkov) นายกเทศมนตรีมอสโกในเวลานั้น

และผลงาน The Palace Revolution (2010) ที่พวกเขาทำการพลิกคว่ำรถตำรวจจนหงายเค้เก้ ตรงข้ามทางเข้าของพิพิธภัณฑ์รัสเซีย ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยเรียกมันว่าเป็น “งานศิลปะจัดวาง” ซึ่งทำให้วารอตนิคอฟและนิโกไลเยฟถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมและคุมขังอยู่เป็นนาน

หรือผลงาน Dick Captured by FSB (2010) ที่พวกเขาแอบวาดภาพองคชาตขนาดยักษ์ ความยาว 65 เมตร บนพื้นผิวของสะพานชัก Liteyny ที่นำไปสู่อาคาร Bolshoy Dom สำนักงานใหญ่ของหน่วยความมั่นคงกลางของรัสเซีย (FSB หรือ KGB ในอดีต) ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

 

The Palace Revolution (2010), ภาพจาก https://bit.ly/3nBNlnY

 

“ศิลปะควรจะเป็นอะไรที่ซื่อสัตย์ มีเกียรติ และไม่เห็นแก่ตัว เราคิดว่าศิลปินที่ซื่อสัตย์ไม่อาจวาดรูปแมวเหมียว, ปลา, หรือดอกไม้ในกระถาง เมื่อมีเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้นรอบตัวเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะพวกเขาไม่สามารถปิดปากเงียบเกี่ยวกับอาชญากรรมอันน่าสยดสยองที่เกิดขึ้นรอบตัวเขาได้” พลัตซยุต-ซาร์นา ตัวแทนของกลุ่มไวนากล่าว

ถึงแม้สมาชิกกลุ่มไวนาจะสลายตัว แยกย้าย และต้องลี้ภัยการเมืองและการตามล่าจากทางการรัสเซียออกไปนอกประเทศนับแต่ปี 2012

แต่จิตวิญญาณแห่งความขบถในการก่อการศิลปะแสดงสดของพวกเขาก็ยังคงถูกกล่าวขานและสานต่ออย่างไม่เสื่อมคลาย

 

Dick Captured by FSB (2010), ภาพจาก https://bit.ly/3mhCiRc

 

ข้อมูล หนังสือ Art & Agenda : Political Art and Activism โดย Silke Krohn, เว็บไซต์ https://bit.ly/3GosoFj, https://bit.ly/3GosoFj, https://bit.ly/3jGztY6, https://bit.ly/3CgOC9S, https://bit.ly/3Cje2DY