Bruno Mars แกะกล่องชุดที่สาม 24K Magic

เดือนสุดท้ายของปี เมื่อต้นเดือนธันวาคม วงการเพลงมีข่าวการมอบรางวัลโนเบลวรรณกรรม ให้กับ บ็อบ ดีแลน นักร้องนักแต่งเพลงระดับตำนาน

การมอบรางวัล เจ้าตัวไม่ได้ไปรับ แต่ส่งสปีชผ่านทูตอเมริกันประจำสวีเดน ให้ไปอ่านในงานเลี้ยงรับรอง

ในพิธีมอบรางวัลที่สตอกโฮล์ม สวีเดน แพตตี้ สมิธ นักร้องอเมริกันผู้คร่ำหวอด ขึ้นร้องเพลง A Hard Rain”s A-Gonna Fall ของ บ็อบ ดีแลน และลืมเนื้อร้องกลางคัน

จนต้องขอให้วงออเคสตร้าเล่นใหม่

นั่นคือความเคลื่อนไหวของวงการในห้วงที่ผ่านมา ผลงานใหม่น่าสนใจของวงการ ในสัปดาห์นี้ บรูโน มาร์ส (Bruno Mars) ศิลปินอเมริกันขายดีอีกคน ออกผลงานใหม่ มีชื่อว่า 24K Magic ในปกซีดีเขียนด้วยเลขโรมัน

ประเดิมการขายด้วยอันดับ 2 ในชาร์ตอัลบั้มบิลบอร์ด ขายไป 2.3 แสนชุด ส่วนอันดับ 1 เป็นของ เมทัลลิกา ที่ออกผลงาน Hardwired… to Self-Destruct ขายไป 2.9 แสนชุด

ในญี่ปุ่น 24K Magic เริ่มจากอันดับ 6 ในชาร์ตโอริคอน ขาย 2 หมื่นชุด ในสัปดาห์แรก ก่อนโดดขึ้นอันดับ 3 ในสัปดาห์ต่อมา ขายไปอีก 1.5 หมื่นชุด

ส่วนในอังกฤษ ประเดิมด้วยอันดับ 3 ขายไป 5 หมื่นชุด และอยู่ในอันดับต้นๆ ของชาร์ตออสเตรเลีย แคนาดา

ซิงเกิลแรก 24K Magic ติดท็อปเท็นในชาร์ตซิงเกิล และเข้าอันดับ 1 ใน Rhythmic Songs Charts อันเป็นการจัดอันดับเพลงป๊อปที่ออกอากาศทางวิทยุประจำสัปดาห์

นักวิจารณ์ในสื่อดนตรี ให้คะแนนผลงานชุดนี้ ในระดับ 4 จาก 5 ดาว บีบวก นิตยสารโรลลิ่งสโตนให้ 3 จาก 5 ดาว เท่ากับเดอะการ์เดียน


24K Magic อ่านว่า twenty-four karat magic ออกในสังกัดแอตแลนติกเร็กคอร์ดส์ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานี้เอง โปรดิวซ์โดย Shampoo Press & Curl ที่ประกอบด้วย บรูโน มาร์ส, คริสโตเฟอร์ บราวน์ และ ฟิลลิป ลอว์เรนซ์ โดยมีโปรดิวเซอร์เข้ามาเสริม ได้แก่ เดอะ สเตริโอไทปส์ เจฟฟ์ บาสเกอร์ และ เอมิล เฮย์นี มาเสริม โดยไม่ได้ใช้บริการของ The Smeezingtons อันเป็นทีมโปรดิวเซอร์ที่มาร์สเองร่วมงานอยู่ด้วย

ผลงานชุดนี้ จะเห็นการโชว์เสียงร้อง ที่มาร์สตั้งใจจะร้องให้มากขึ้น สื่ออารมณ์ต่างๆ ผ่านเสียงร้องให้มากขึ้น

ผลคือ เสียงร้องตามแบบฉบับของนักร้องอาชีพ ที่โดดเด่นเหนือเสียงดนตรี ซาวด์เอฟเฟ็กต์ หรือเสียงสังเคราะห์

สำเนียงดนตรีเป็นอาร์แอนด์บี ที่มาร์สบอกว่า ตกหลุมรักมาตั้งแต่เด็กๆ

พลิกปูมประวัติ บรูโน มาร์ส หรือ ปีเตอร์ จีน เฮอร์นานเดซ เกิด 8 ตุลาคม 1985

เกิดและโตที่ฮอโนลูลู ฮาวาย จากครอบครัวนักดนตรี เริ่มเล่นดนตรีและทำเพลง ออกแสดงตั้งแต่เด็ก เมื่อจบไฮสกูล บินข้ามทะเลมาปักหลักที่ลอสแองเจลิส เพื่อเริ่มอาชีพดนตรี

เริ่มต้นกับโมทาวน์ก่อนโดนดร็อป แล้วมาเซ็นสัญญากับค่ายแอตแลนติกในปี 2009

ร่วมตั้งทีมโปรดิวเซอร์ The Smeezingtons ซึ่งทำผลงาน Nothin” on You ของศิลปิน B.o.B และ Billionaire ของ ทราวี แม็กคอย โดยร่วมร้องในท่อนฮุคของซิงเกิลทั้งสอง จากนั้นเริ่มโด่งดังในฐานะศิลปินเดี่ยว

ออกอัลบั้มสตูดิโอชุดแรกออกมาประเดิม คือ Doo-Wops & Hooligans ในปี 2010 มีซิงเกิลที่ขึ้นอันดับ 1 คือ Just the Way You Are และ Grenade และ The Lazy Song เข้าอันดับ 4 ในชาร์ต

อัลบั้มสอง Unorthodox Jukebox ออกปี 2012 เข้าอันดับ 1 ในชาร์ตอัลบั้ม มีซิงเกิลอย่าง Locked Out of Heaven, When I Was Your Man และ Treasure

ปี 2014 ร่วมร้องในเพลงของ มาร์ก รอนสัน Uptown Funk เข้าอันดับ 1 ในชาร์ตซิงเกิล ได้ 4 แกรมมี่ รวมถึงเร็กคอร์ด ออฟ เดอะ เยียร์

ขายผลงานไปแล้วมากกว่า 100 ล้านชุดทั่วโลก มีซิงเกิลที่เข้าอันดับ 1 จำนวน 6 ซิงเกิล นับจากเริ่มอาชีพเมื่อ 2010 ได้แก่ Just the Way You Are, Grenade, The Lazy Song, Locked Out of Heaven, When I Was Your Man, Treasure, ถ้ารวมกับ Uptown Funk ที่ไปร่วมงานกับ มาร์ก รอนสัน ด้วยก็เป็น 7

9เพลงในอัลบั้มนี้ เริ่มต้นด้วย ไตเติลแทร็ก 24K Magic, จากนั้น คือ Chunky, Perm, That”s What I Like, Versace on the Floor, Straight Up & Down, Calling All My Lovelies, Finesse และ Too Good to Say Goodbye ทั้งหมดนี้ฟังซ้ำได้หลายๆ หน

อายุอานามยังไม่มาก มีทั้งเงินทั้งรางวัล จากความสำเร็จในการทำเพลงและการแสดงบนเวที แต่ก็เป็น “กับดัก” ในตัวเอง การหนีจากความสำเร็จเดิมๆ ไปหาความลงตัวใหม่ๆ

เป็นกำไรของคนที่รอฟังเพลงจากศิลปินเหล่านี้