ซีเค พาวเวอร์ ใช้นวัตกรรมไฟฟ้าพลังน้ำสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

“ด้วยการพัฒนาไม่หยุดยั้ง ทำให้เราพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า การผลิตไฟฟ้าพลังน้ำนั้นคือนวัตกรรมของการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานดั้งเดิมไปสู่พลังงานสะอาดที่ยั่งยืนและเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” คุณธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) 

ในฐานะบริษัทชั้นนำด้านพลังงานที่มุ่งเน้นผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่มีคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำที่สุดรายหนึ่งของภูมิภาค บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) คือตัวอย่างของการดำเนินธุรกิจที่ก้าวข้ามเปลี่ยนผ่านจากพลังงานดั้งเดิมหรือฟอสซิสไปสู่พลังงานสะอาด โดยให้ความสำคัญกับสังคมและสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่ “การพัฒนาที่ยั่งยืน” และก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ 

CKPower มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าด้วยการใช้พลังงานน้ำ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสร้างเสถียรภาพด้านพลังงานด้วยความพร้อมในการผลิตไฟฟ้าและกำลังการผลิตที่สามารถเสริมความมั่นคงของกำลังไฟให้กับประเทศไทย โดยการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานฟอสซิลมาเป็นพลังงานสะอาดโดยเฉพาะการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำนั้นมีความจำเป็นที่ต้องพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม เพื่อให้พลังงานน้ำเป็นพลังงานสีเขียวอย่างแท้จริง ซึ่งหากได้มีการศึกษาวิจัยที่ละเอียดรอบคอบ พิจารณาให้รอบด้าน ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ก็จะสามารถพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำได้โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

นวัตกรรมโรงไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด

ตัวอย่างของการปฏิบัติที่ชัดเจน คือ “ต้นแบบโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี” ที่เป็นโรงไฟฟ้าพลังน้ำประเภทน้ำไหลผ่าน (run-of-river) ที่ทันสมัย ปล่อยให้ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าโรงไฟฟ้าเท่ากับปริมาณที่ไหลออกตลอดเวลา อาศัยอัตราการไหลของน้ำในการผลิตไฟฟ้าโดยไม่มีการกักเก็บน้ำ ไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราการไหลของน้ำตามธรรมชาติ นอกจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีจะเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้ว ยังนำเสนอนวัตกรรมการออกแบบและก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในภูมิภาค นั่นคือ ระบบทางปลาผ่านแบบผสม (Hybrid Fish Passing and Fish Locks System)  ที่เริ่มจากการศึกษาตั้งแต่เริ่มต้นพัฒนาโครงการ เพื่อความเข้าใจเชิงลึกต่อวงจรชีวิตของปลาและพฤติกรรมการอพยพของปลาในแม่น้ำโขง รวมทั้งลักษณะทางกายภาพและชนิดพันธุ์ของปลาที่แตกต่างกัน เพื่อให้ระบบทางปลาผ่านแบบผสมนี้สามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมการอพยพของปลาทุกสายพันธุ์ในแม่น้ำโขงได้อย่างมีประสิทธิภาพ  และยังได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการศึกษาประเทศออสเตรเลีย และศูนย์ค้นคว้าและวิจัยทรัพยากรสัตว์น้ำ สปป. ลาว พัฒนานวัตกรรมระบบการจับสัญญาณตรวจติดตามการอพยพของปลาตลอด 24 ชั่วโมง (Passive Integrated Transponder (PIT) Tag System) จนถึงปัจจุบันพบว่าปลาสามารถอพยพผ่านไปยังเหนือน้ำได้อย่างปลอดภัย มากกว่า 116 สายพันธุ์ นอกจากนั้นยังนำนวัตกรรมใหม่ของกังหันเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับปลา (Fish Friendly Turbine) ที่มีใบพัดที่ไม่มีความคม รอบการหมุนต่ำ มาใช้ในโรงไฟฟ้าไซยะบุรี เพื่อให้ปลาสามารถว่ายผ่านกังหันเครื่องกำเนิดไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัย 

ที่นี่ยังเป็นโรงไฟฟ้าแรกที่ได้ออกแบบประตูระบายตะกอนให้กดระดับลงไปเท่ากับระดับท้องน้ำ (Low Level Outlet) เพื่อให้มั่นใจว่า ตะกอนทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่สามารถไหลผ่านโรงไฟฟ้าไปยังท้ายน้ำได้เหมือนเดิมตามธรรมชาติ และที่สำคัญได้สร้าง “ช่องทางเดินเรือสัญจร (Navigation lock)” เพื่อให้การสัญจรทางเรือของชาวบ้านผ่านโรงไฟฟ้าฯ สามารถสัญจรได้อย่างสะดวกตลอดทั้งปี

ตัวแปรอีกประการที่สำคัญในการเปลี่ยนผ่าน นอกจากนวัตกรรมที่ผลักดันให้โรงไฟฟ้าพลังน้ำเป็นไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่ดีต่อโลกแล้วนั้น ไฟฟ้าพลังน้ำนับได้ว่าเป็นไฟฟ้าที่มีราคาถูก และไม่มีผลต่อค่า Ft จากการผันผวนของราคาเฉกเช่นเดียวกับพลังงานอื่นๆ เช่น  น้ำมัน หรือ ก๊าซธรรมชาติ  ราคาค่าไฟจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี มีราคาเฉลี่ยเพียงหน่วยละ 2.16 บาท ซึ่งจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตในอัตราเฉลี่ยคงที่ตลอดอายุสัญญาสัมปทาน 29 ปี นับเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างเสถียรภาพให้ประเทศไทย และสนับสนุนการขับเคลื่อนประเทศเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี 2050 ตามเป้าที่รัฐบาลกำหนด และมุ่งมั่นผลักดันสู่เป้าหมาย NET ZERO