เชิงบันไดทำเนียบ : ‘ป๋าเปรม’ นิ่ง ‘โอ๊คโชว์เช็ค’/ ‘2ส.-1อ.’ ขี่ม้าขาว ‘3ป.’ ลงหลังเสือ

นับเป็นเวลา 2 เดือนกว่าที่ ‘ป๋าเปรม’พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ปธ.องคมนตรีและรัฐบุรุษ ไม่ได้ออกสื่ออย่างเป็นทางการ หลังไม่ได้ร่วมงานเลี้ยงรับรองวันกองทัพบก เมื่อ 21ม.ค.ที่ผ่านมา โดยนายทหารใกล้ชิด พล.อ.เปรม เปิดเผยว่า ‘ป๋าเปรม’ สุขภาพอ่อนเพลีย ทานอาหารได้น้อยลง แพทย์จึงขอให้พักผ่อน แม้อาการจะดีขึ้นและ ‘ป๋าเปรม’ สามารถเดินออกกำลังกายในบ้านสี่เสาเทเวศร์ได้ตามปกติแล้วก็ตาม แต่ให้หลีกเลี่ยงไปในพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก
.
ในช่วงที่เดือนเม.ย.ของทุกปี เป็นช่วงเปิดโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้เพื่อนำเยาวชน จ.ชายแดนภาคใต้ มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดย ‘ป๋าเปรม’ จะเดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการแต่ละรุ่นแทบทุกครั้ง แต่ในปีนี้กำหนดการก็ได้เปลี่ยนแปลงไม่นาน

โดยให้ ‘บิ๊กแอ้ด’พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ปธ.คณะกรรมการโครงการฯ เป็นผู้เปิดงานแทน โดย พล.อ.เปรม ได้ส่งสาส์นมาถึงเยาวชนแทนถึงเหตุผลที่ไม่ได้มาเปิดงานด้วยลายมือถึง ‘สุขภาพที่ยังไม่แข็งแรง’
.
“หลานรักทุกคน ฉันเสียดายและเสียใจจริงๆ ที่ไม่ได้พบกัน เมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้น เราจะได้พบกัน อีกไม่นานนัก ทุกคนต้องไม่ลืมความเป็นไทยและความเป็นธรรม 2 วลีนี้ก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคี ในประเทศของเราที่พวกเราทุกคนเป็นเจ้าของ” พล.อ.เปรม กล่าว

มาพร้อมกระแสข่าว ‘โอ๊ค’นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายทักษิณ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊ก เป็นรูปเช็ค 2 ฉบับและใบนำฝากของธนาคารว่าเป็นชื่อของ พล.อ.เปรม จำนวน 250,000 บาท มีลายเซ็น พล.อ.เปรม เซ็นชื่อกำชับว่าให้นำเงินก้อนนี้ไปฝากเข้าบัญชีมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรมฯ ส่วนเช็คอีกใบสั่งจ่ายเงินสดเข้าบัญชี พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป นายทหารคนสนิทของ พล.อ.เปรม โดย ‘พานทองแท้’ ระบุว่า เป็นเงินก้อนเดียวกันกับที่ ดีเอสไอ ดำเนินคดีกับตนเองในข้อหาฟอกเงิน
.
ต่อมา พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และนายทหารคนสนิท พล.อ.เปรม ชี้แจงว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว โดยเจตนาของผู้บริจาคต้องการบริจาคเงินเข้ามูลนิธิรัฐบุรุษพล.อ.เปรมฯ แต่ในเช็คได้ใส่ชื่อของ พล.อ.เปรม แต่ พล.อ.เปรม ได้ส่งเช็คบริจาคเงินดังกล่าวต่อเข้ามูลนิธิฯ เรียบร้อย ไม่ได้นำเงินมาใช้ส่วนตัว ซึ่งดีเอสไอคงตรวจสอบแล้ว ขอยืนยันเงินดังกล่าวได้ส่งต่อเข้าการกุศลจริงๆ พล.อ.เปรม ไม่ได้นำมาใช้ส่วนตัว
.
ด้าน พล.อ.สุรยุทธ์ ในฐานะประธาน มูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรมฯ ชี้แจงว่า ในช่วงนั้นตนยังไม่ได้ทำหน้าที่เป็นประธานมูลนิธิฯ ถือเป็นเรื่องเก่าที่นานมาแล้ว พร้อมปฏิเสธตอบถึงกรณีเป็นความพยายามของฝ่ายการเมืองที่จะดึง พล.อ.เปรม ลงมาหรือไม่
.
ทำให้มีการมองว่าการที่ ‘ป๋าเปรม’ ไม่มาเป็นประธานเปิดงานสานใจไทยสู่ใจใต้ เกี่ยวข้องกับกรณี ‘พานทองแท้’ หรือไม่ ที่นำเรื่องเช็คออกมาเปิดเผย โดย พล.อ.พิศณุ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้
.
อย่างไรก็ตาม ‘ป๋าเปรม’ ยังคงมีกำหนดการเปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ 11 เม.ย.นี้ เพื่อให้ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. นำรัฐมนตรีและผบ.เหล่าทัพ เข้าอวยพรและขอพรวันปีใหม่ไทย จึงต้องจับตาว่า พล.อ.เปรม จะกล่าวสิ่งใดเพื่อให้กำลังใจหรือเตือนรัฐบาล เพราะการเปิดบ้านครั้งล่าสุด ช่วงปลายปี2560 ได้เตือนเรื่อง ‘กองหนุน’ ของรัฐบาลที่ลดลง จนนำมาสู่สภาวะ ‘เรตติ้งตก’
.
ทำให้รัฐบาลต้องเร่ง ‘กู้กองหนุน-ฟื้นเรตติ้ง’ ต้องดูว่าผ่านมา 4 เดือน ผลงานนี้จะเป็นที่ประจักษ์ให้ พล.อ.เปรม ได้เห็นและมองอย่างไรบ้าง
.
ในช่วงเวลานี้สถานการณ์ทางการเมืองเริ่ม ‘คึกคัก’ มากขึ้น หลังพรรคการเมืองเก่าได้เปิดให้สมาชิกมายืนยันตัวตน โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของ ‘ป๋าเหนาะ’okpเสนาะ เทียนทอง ปธ.ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาเตือน ‘บิ๊กตู่’ หากเป็นนายกฯคนนอกแล้วถูกนักการเมือง ‘อภิปรายไม่ไว้วางใจ’ อาจดิ้นเหมือนไส้เดือนโดนขี้เถ้า เพราะต้องการสื่อสารให้ พล.อ.ประยุทธ์ นิ่งสุขุมมากขึ้น

อีกทั้งการ ‘ฝัน’ ถึง ‘ทักษิณ’ ว่าจะได้กลับมายังประเทศไทยอีกครั้งด้วย การฝันนี้จะจริงหรือไม่นั้น แต่การที่ ‘ป๋าเหนาะ’ ออกมากล่าวแบบนี้ย่อมมี ‘นัยยะ’ ใดซ่อนหรือไม่ อีกทั้งเป็นการพูดที่ ‘พรรคเพื่อไทย’ ด้วย จึงถูกตีความกันไป ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร ก็ได้ตอบทีเล่นทีจริงทำนองว่าเป็นเพียงแค่ความฝัน แล้วฝันนี้จะเป็นจริงหรือไม่ ให้ไปดูข้อกฎหมายแทน
.
“ก็ฝันไปสิ ก็สื่อยังบอกเลยว่า ฝันแล้วจะไปนั่นอะไร” พล.อ.ประวิตร กล่าว
.
ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ ก็ตอกกลับการเคลื่อนไหวของ 2 พี่น้องตระกูล ‘ชินวัตร’ หลังเดินทางไปร่วมงานเปิดตัวหนังสือของอดีตรัฐมนตรีกิจการภายในญี่ปุ่น เพราะเป็นเพื่อนของ ‘ทักษิณ’ มาก่อน โดย พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่าไม่รู้สึกถูก ‘เย้ย’ ว่าไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายได้ เพราะไม่สามารถนำกฎหมายไทยไปใช้ในต่างประเทศได้ แม้จะประสานเรื่องไปแล้วและคนหน้าอายไม่ใช่ตน
.
“ผมจะไปรู้สึกอะไรกับเขา เขาน่าจะอายผมมากกว่า ทำผิดกฎหมายแล้วยังเอาหน้าออกไปข้างนอกอีก” นายกฯ กล่าว

อีกฝากฝั่ง ‘หัวหน้ามาร์ค’นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หน.พรรคประชาธิปัตย์ อย่างดุเดือดหลังประกาศกลางพรรคกับลูกพรรคว่าหากใครสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้ไปอยู่พรรคอื่น เพราะต้องสนับสนุนหัวหน้าพรรคไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม โดย ‘บิ๊กตู่’ ได้ตอบโต้กลับว่าระวังการพูดจา อยู่ที่ประชาชนจะเชื่อถือหรือไม่ ขอให้พูดจาดีๆ ไม่ใช้ทุกคนต้องมาสนับสนุนตน ขอให้เกียรติซึ่งกันและกัน พร้อมดักคอ ‘อภิสิทธิ์’ รอดูท่าทีหลังเลือกตั้ง
.
“ที่ออกมาพูดกันวันนี้ ลองคอยดูวันหน้าก็แล้วกันเลือกตั้งแล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น แล้วเขาจะเปลี่ยนท่าทีอะไรกันอย่างไร ก็ไปคอยดูตรงนู้นแล้วกัน แล้วค่อยไปถามเขาอีกที” นายกฯ กล่าว
.
จึงต้องจับตา ‘ท่าที’ ของพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป เพราะที่ผ่านมาพรรคถูกมองเป็น ‘นอมินีทหาร’ มาโดยตลอด นับจากกการขึ้นมาเป็น ‘รัฐบาล’ ภายใต้ ‘อภิสิทธิ์’ ขึ้นเป็นนายกฯ จนสุดท้าย ‘พรรคเพื่อไทย’ นำโดย ‘ยิ่งลักษณ์’ ก็กลับมาชนะการเลือกตั้ง จนทำให้ถูกมองว่า ‘เสียของ’ และ ‘กองทัพ’ เองก็ต้องหาตัวเลือกอื่นที่ไม่ใช่ ‘ประชาธิปัตย์’
.
แน่นอนว่าไม่ใช่ ‘พรรค กปปส.’ แน่นอนในเวลานี้ เพราะยังไม่มีความ ‘คืบหน้า’ ในการไปยื่นจดจัดตั้งพรรค และจุดยืนของ ‘กำนันเทือก’นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะตั้ง ‘พรรค กปปส.’ หนุน ‘บิ๊กตู่’ หรือไม่ ทำให้ ‘แนวร่วมกปปส.’ เดิม เริ่มทยอยกลับไปซบอก ‘พรรคประชาธิปัตย์’ เช่นเดิม
.
แม้ไม่มี ‘กำนันเทือก’ แต่ก็มีคนกันเอง ‘ขี่ม้าขาว’ มาช่วย หนึ่งในนั้น คือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ออกตัวแรงสนับสนุน ‘บิ๊กตู่’ เพราะเป็นคนดีและทำให้บ้านเมืองสงบ นักลงทุนเข้ามา แต่ไม่ใช่การหนุน พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเป็นรัฐมนตรีต่อ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จะขึ้นเป็นนายกฯคนนอกหรือไม่นั้น ‘สมคิด’ ได้ตอบเชิงแทงกั๊กว่า ถ้าจะให้เข้ามา ก็ต้องไปขอให้เข้ามา

แต่จุดสำคัญอยู่ที่ ‘สมคิด’ ย้ำว่า ตนยังไม่ได้ตั้งพรรค ให้ไปถามนายกฯเองและไม่ตอบชัดว่าจะเคียงบ่าเคียงไหล่กับ ‘บิ๊กตู่’ หรือไม่ เพราะอายุมากแล้ว แต่ตนมีลูกน้องเยอะแยะให้ไปถาม นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ แทน
.
หากย้อนหลับไป ‘2ส.-1อ.’ นี้ล้วนเคยตกเป็นข่าวเกี่ยวข้องกับ ‘พรรคพลังประชารัฐ’ ที่มี ‘เสธ.ชาติ’พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตสปท. เพื่อนตท.12 ของ ‘บิ๊กตู่’ หนึ่งในแกนนำพรรค อีกทั้งเคยมีกระแสข่าวเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ ไปเป็น ‘ปธ.ที่ปรึกษาพรรค’ ด้วย โดยตามกฎหมายนั้นสามารถทำได้ ยกเว้นถ้าลงเลือกตั้งจะต้องลาออกจาก นายกฯ-รัฐมนตรี ก่อน
.
ดูท่าแล้ว ‘พรรค กปปส.’ อาจเป็นหมันแน่นอน เพราะ ‘กำนันเทือก’ ชั่งน้ำหนักแล้วได้ไม่คุ้มเสีย แต่ ‘พรรคพลังประชารัฐ’ แค่ชื่อก็พอจะเดาทางได้กับอนาคต จะเป็น ‘ฐานที่มั่น’ สำคัญ สำหรับอนาคตของ ‘บิ๊กตู่-คสช.’ และการออกมาเปิดใจของ ‘สมคิด’ จึงเท่ากับเป็นการ ‘เปิดหน้า’ ครั้งสำคัญ ที่ไม้ง้อ ‘นอมินีทหาร’ หน้าเก่าอีกต่อไป

‘2ส.-1อ.’ จึงเป็น ‘อัศวินขี่ม้าขาว’ ช่วย ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ ลงหลังเสือ !!